ASTV ผู้จัดการรายวัน - การแข่งขัน "เอเชียน อินดอร์ แอนด์ มาร์เชียล อาร์ต เกมส์ 2013" ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ที่เพิ่งรูดม่านปิดฉากไปเมื่อวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทัพนักกีฬาไทยคว้าเหรียญทองประเดิมตั้งแต่หัววันจาก "เงือกจอย" เจนจิรา ศรีสอาด ที่ถือว่าสร้างเซอร์ไพรส์ได้พอสมควร ซึ่งถือเป็นสัญญาณอันดีและสร้างความมั่นใจให้กับสาวน้อยวัย 18 ปีที่จะขึ้นมารับไม้ต่อจากรุ่นพี่สำหรับทัวร์นาเมนต์ที่รออยู่เบื้องหน้า
อินชอน เกมส์ 2013 ผลงานส่วนตัวของ เจนจิรา เข้าตาสุดๆ คว้ามาได้ 2 เหรียญทองจากฟรีสไตล์ 50 เมตรหญิงและฟรีสไตล์ผลัด 4x50 เมตรหญิงปิดท้ายด้วย 1 เหรียญเงินจากฟรีสไตล์ผลัด 4x100 เมตรหญิง โดยเฉพาะประเภทแรกที่คว้ามาครองนั้นทำเวลาได้ 25.21 วินาที ที่สำคัญสามารถเอาชนะ "อุ้ม" ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง ราชินีสระของเมืองไทย ที่เสมือนเป็นไอดอลของตัวเองเธอได้อีกด้วย
สำหรับ 3 เหรียญรางวัลที่คล้องคอกลับมาจากเกาหลีใต้ครั้งนี้ เจนจิรา ภาคภูมิใจมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นรางวัลตอบแทนจากการฝึกฝนและเสริมเขี้ยวเล็บที่คุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเธอเล่าประสบการณ์ 3 เดือนที่สั่งสมมาว่า "การไปฝึกซ้อมที่เมืองคุนหมิง ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก จึงทำให้สภาพอากาศเบาบางมีออกซิเจนเพียง 80 เปอร์เซนต์ ซึ่งการซ้อมจะไม่แตกต่างกับการฝึกซ้อมที่เมืองไทยมากนัก แต่จะช่วยในเรื่องให้เรามีความอดทน และเสริมเรื่องการหายใจให้คงที่มากขึ้น"
ด้วยรูปร่างที่สูงเพียง 167 เซนติเมตรย่อมเสียเปรียบคู่แข่งจากชาติอื่นๆ ทำให้ เจนจิรา สาวจากสมุทรปราการ ซุ่มซ้อมอย่างหนักแก้ไขข้อบกพร่องนี้ในการออกสตาร์ท "อ.ปิติพัฒน์ รัตนศรีเกียรติ ผู้ฝึกสอนที่ชมรมหมู่บ้านกฤษฎานครที่หนูฝึกซ้อมอยู่ ได้บอกวิธีการกระโดดจากแท่นสตาร์ท ซึ่งปกตินักกีฬามักจะกระโดดพุ่งลงผิวน้ำทันที ซึ่งจะทำให้การเคลื่อนตัวไปข้างหน้าจะไม่ไกลมาก แต่ทำไมไม่เปลี่ยนกระโดดลอยอยู่บนอากาศให้นานและไกลกว่าและที่สำคัญคือการกระโดดบนยางรถยนต์ช่วยเสริมกำลังขาให้กระโดดได้ไกลและสูงขึ้นอีกด้วย"
เมื่อถามถึงก้าวแรกกว่าจะมาเป็น "เงือกจอย" ต้องย้อนไปตอน 9 ขวบที่โรงเรียนลาซาล และไม่อยากเชื่อว่าเกิดขึ้นจากการที่คุณพ่อ ดาบตำรวจ เจน ศรีสอาด และคุณแม่ นางกนกกาญจน์ ศรีสอาด ให้ว่ายน้ำฆ่าเวลาหลังเลิกเรียนรอมารับกลับบ้าน เนื่องจากมีภาระหน้าที่การงานต้องรับผิดชอบ ก่อนที่จะแข่งในนามตัวแทนและคว้าแชมป์ท่ากบ 25 เมตร
จากนั้น เจนจิรา ก็เริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาจนกระทั่งมีโอกาสคัดตัวนักกีฬาทีมชาติไทย ที่สมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทยหัวหมาก เมื่ออายุย่างเข้า 16 ปี เพราะการติดธงไตรรงค์บนหน้าอกเสื้อถือเป็นความฝันสูงสุดของนักกีฬาทุกคน ซึ่งก็สามารถผ่านคัดเลือกไปแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี 2011 ซึ่งครั้งนั้นผลงานประเดิมการรับใช้ชาติคือ 2 เหรียญเงินจากประเภทฟรีสไตล์ผลัด 4x100 เมตรหญิงและผลัดผสม 4x100 เมตรหญิง
ส่วนการศึกษา เจนจิรา เป็นเฟรชชี่ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยโควตานักกีฬา ซึ่งผิดแผนเล็กน้อยจากตั้งใจไว้ตอนแรกคือคณะอักษรศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ แต่ไม่ใช่ปัญหาจึงเบนเข็มเรียนสาขาประชาสัมพันธ์เพราะสามารถนำไปประกอบอาชีพ หลังเลิกรับใช้ชาติ
แน่นอนความสำเร็จย่อมมาพร้อมกับความกดดัน โดยจากนี้ เจนจิรา มีโปรแกรมแข่งขัน ฮ่องกง โอเพน เดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นรายการตัดตัวนักกีฬาทีมชาติไทยเพื่อลุย ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่เนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ พร้อมตั้งเป้าหยิบอย่างน้อย 2 เหรียญทองจากประเภทใดประเภทหนึ่งมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นฟรีสไตล์ 50 เมตรหญิง, ฟรีสไตล์ 4x100 เมตรหญิงและผีเสื้อ 100 เมตรหญิง ซึ่งเชื่อว่าหลายคนกำลังเอาใจช่วยเธออยู่ในฐานะความหวังใหม่ของไทย
