“ช้างศึก” ทัพนักเตะทีมชาติไทย อันดับพุ่งขึ้น 4 ขั้นมาอยู่ที่ 138 ของโลก และรั้งอันดับ 20 ของเอเชีย พร้อมกับแซงเวียดนาม กลับเป็นทีมนำในภูมิภาคอาเซียนได้สำเร็จ หลังจากทำผลงานเยี่ยม เอาชนะจีน 5-1 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ขณะที่เบอร์ 1 โลก ยังตกเป็นของ “กระทิงดุ” สเปน ด้าน ญี่ปุ่น ครองเจ้าเอเชีย
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา ได้ทำการจัดอันดับโลกล่าสุดผ่านทาง FIFA.COM ปรากฏว่า ทีมอันดับ 1 ของโลกยังตกเป็นของ “กระทิงดุ” สเปน ที่มี 1,532 คะแนน ตามด้วย เยอรมนี, โคลอมเบีย, อาร์เจนตินา, เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, โปรตุเกส, โครเอเชีย และ บราซิล ด้านทัพ “ซามูไร” ญี่ปุ่น ยังคงรั้งเบอร์ 1 เอเชีย มี 689 คะแนน อันดับหล่นไปอยู่ที่ 37 ของโลก ตามด้วย ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้, อิหร่าน, อุซเบกิสถาน, จอร์แดน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ขณะที่ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่สามารถเอาชนะจีน 5-1 ในเกมอุ่นเครื่อง เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ทำให้อันดับพุ่งขึ้นมาที่ 138 จากเดิมอยู่อันดับที่ 142 ของโลก และอันดับที่ 20 ของเอเชีย มี 223 คะแนน ขึ้นแซงเวียดนาม ที่รั้งอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียนเป็นเวลานาน ร่วงไปอยูอันดับ 145 ของโลก, อันดับ 24 ของเอเชีย มี 182 คะแนน และอันดับ 3 โซนอาเซียน โดยมี ฟิลิปปินส์ ขึ้นมาสอดแทรกเป็นลำดับที่ 2 แทน
อันดับโลกเฉพาะโซนอาเซียน มีดังนี้
1.ไทยแลนด์ (อันดับ 138 ของโลก, อันดับ 20 ของเอเชีย) 223 คะแนน
2.ฟิลิปปินส์ (อันดับ 144 ของโลก, อันดับ 23 ของเอเชีย) 203 คะแนน
3.เวียดนาม (อันดับ 145 ของโลก, อันดับ 24 ของเอเชีย) 182 คะแนน
4.สิงคโปร์ (อันดับ 156 ของโลก, อันดับ 30 ของเอเชีย) 146 คะแนน
5.มาเลเซีย (อันดับ 159 ของโลก, อันดับ 31 ของเอเชีย) 136 คะแนน
6.เมียนมาร์ (อันดับ 163 ของโลก, อันดับ 32 ของเอเชีย) 129 คะแนน
7.อินโดนีเซีย (อันดับ 168 ของโลก, อันดับ 34 ของเอเชีย) 112 คะแนน
8.ลาว (อันดับ 173 ของโลก, อันดับ 38 ของเอเชีย) 87 คะแนน
9.บรูไน (อันดับ 182 ของโลก, อันดับ 41 ของเอเชีย) 52 คะแนน
10.ติมอร์ เลสเต (อันดับ 182 ของโลก, อันดับ 42 ของเอเชีย) 52 คะแนน
11.กัมพูชา (อันดับ 198 ของโลก, อันดับ 44 ของเอเชีย) 20 คะแนน
