เอเยนซี - ซัมเมอร์นี้คอลูกหนังไม่มีเหงา เพราะมีศึก “ฟีฟา คอนเฟเดอเรชันส์ คัพ 2013” ที่กำลังจะโม่แข้งกันระหว่างวันที่ 15-30 มิถุนายนนี้ โดย บราซิล เป็นเจ้าภาพ ตามธรรมเนียมทัวร์นาเมนต์นี้มีขึ้นเพื่อให้ชาติที่จะรับหน้าเสื่อบอลโลกเตรียมความพร้อม ดังนั้นทั้ง 8 ทีมที่เข้าร่วมแข่งขันจึงเต็มไปด้วยดีกรีแชมป์แทบทั้งสิ้น ซึ่งแน่นอนว่านอกจาก “แซมบ้า” อีก 2 ตัวเต็งที่น่าจะเป็นเสี้ยนหนามในการเตะ เวิลด์ คัพ ปีหน้าก็คือ สเปน และ อิตาลี อย่างไรก็ตามทั้งหมดยังมีอีกหลายจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไขและต้องให้เสร็จสิ้นก่อนที่งานช้างจะมาถึง
สเปน - เบอร์ 1 ของโลกและชาติแรกที่ทำสถิติคว้าแชมป์ 3 รายการเมเจอร์ติดต่อกัน (ยูโร 2008, บอลโลก 2010, ยูโร 2012) บิเซนเต เดล บอสเก นำระบบ “ติกี้-ตาก้า” คือ 4-6-0 ปราศจากกองหน้ามาใช้จนสร้างความฮือมาแล้ว แม้ว่าจะประสบความสำเร็จ แต่ไม่ใช่ธรรมชาติของเกมลูกหนังที่จะต้องมีศูนย์หน้าอาชีพ โดยไม่อยากจะเชื่อเลยว่า “กระทิงดุ” ทีมที่ดีที่สุดในโลกจะไม่มีกองหน้าตัวจริง โดยเชื่อว่ากุนซือวัย 62 ปี ไม่ประทับใจ ดาบิด บีญา, เฟร์นานโด ตอร์เรส, โรเบอร์โต โซลดาโด และ เปโดร โรดริเกซ ส่วน อัลบาโร เนเกรโด กับ เฟร์นานโด ยอเรนเต ก็เหมือนเกิดมาเพื่อเป็นซูเปอร์ซับมากกว่า จึงให้กองกลางสอดขึ้นมาจากแถว 2 จนปั้น เชส ฟาเบรกาส จาก บาร์เซโลนา กลายเป็นกองกลางจอมถล่มประตูไปแล้ว ล่าสุดหลังเกมอุ่นเครื่องที่ชนะ ไอร์แลนด์ 2-0 จนยืดสถิติไม่แพ้เป็น 21 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2011 หอกจาก บาเลนเซีย ซัดได้ด้วย แต่ก็บอกว่ายังไม่ตัดสินใจว่าใครจะเป็นตัวเลือกแรก ซึ่งเมื่อฟุตบอลโลกมาถึงอาจถูกคู่แข่งจับทางได้ก็ไม่แน่ ส่วนขุมกำลังอื่นๆ ถือว่าหายห่วง เพราะยังมีจากแข้งชุดยู 21 ปีที่ตอนนี้กำลังเตะ ยูโร 2013 พร้อมขึ้นมาทดแทนได้
บราซิล - แชมป์โลกสูงสุด 5 สมัยไร้ซึ่งมนต์ขลังเสียแล้ว เพราะอันดับรูดไปรั้งที่ 22 โดย เวิลด์ คัพ 2 หนหลังสุดตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ดังนั้นทัวร์นาเมนต์นี้ที่เป็นแชมป์เก่า 2 สมัยและแชมป์สูงสุด 3 สมัย จะต้องอุ่นเครื่องให้ดี เนื่องจากการเป็นเจ้าภาพปี 2014 พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงกับความกดดันที่ต้องแบกรับ แม้ว่าจะหวนใช้บริการของ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ที่เคยพาคว้าแชมป์โลกปี 2002 แต่โฉมหน้าทัพ “เซเลเซา” เปลี่ยนไปอย่างน่าใจหาย ล้วนแต่เป็นแข้งเลือดใหม่อย่าง เนย์มาร์, ออสการ์, เปาลินโญ, ลูคัส มูรา และ ดาวิด ลุยซ์ ถึงจะมีแข้งเปี่ยมทักษะให้เลือกใช้ล้นมือก็ตาม ทว่าฝีเท้ายังไม่ถึงระดับตำนานอย่าง โรนัลโด, ริวัลโด, โรนัลดินโญ และ กาก้า ปัญหาที่ “บิ๊กฟิล” จะต้องใช้ศึก คอนเฟเดอเรชันส์ คัพ หนนี้ลองผิดลองถูกแก้ให้ตกมีหลายจุดไร้ตั้งแต่แบ็กที่ไม่มีตัวเติมดีๆ อย่าง มาร์กอส คาฟู หรือ โรเบอร์โต คาร์ลอส ที่จะช่วยเกมรุกในระบบ 4-2-2-2 ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว ดาเนียล อัลเวส อยู่ในช่วงโรย ด้าน มาร์เซโล หายเจ็บกลับมาก็เล่นให้ รีล มาดริด ไม่เหมือนเดิม นอกจากนี้มิดฟิลด์ก็ไม่มีตัวคุมจังหวะสไตล์ ดุงก้า หรือ กิลเบอร์โต ซิลวา ส่วนกองหน้าตัวที่เหลือก็เป็น เฟรด, ฮัล์ค และ โช ที่ดูแล้วเหมาะกับตัวสำรองมากกว่า
อิตาลี - หลายคนบอกว่า “อัซซูรี” แชมป์โลก 4 สมัยเป็นทีมที่มีธรรมชาติเรื่อยๆ มาเรียงๆ พอถึงทัวร์นาเมนต์จริงแล้วถึงจะพีคสุดขีดยิ่งเล่นยิ่งดีจนอาจถึงขั้นก้าวไปคว้าแชมป์ แต่อาจจะไม่ใช่กับยุคนี้ เพราะหลังได้แชมป์โลกปี 2006 ก็เริ่มถอยหลังเข้าคลอง แม้ว่า ยูโร 2012 ที่ โปแลนด์ และ ยูเครน จะเข้าชิง แต่ถูก สเปน ยำใหญ่ 0-4 แถมกุนซือเป็น เซซาเร ปรันเดลลี ที่ประสบการณ์ยังไม่มากพอคุมทีมชาติเป็นครั้งแรก ภาระยังหนักอึ้งเพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายพอดี กองหน้า มาริโอ บาโลเตลลี ที่เล่นได้โดดเด่นใน ยูโร หนล่าสุดคู่กับ สเตฟาน เอล ชาราวี เพื่อนร่วมค่าย เอซี มิลาน ทั้งคู่อายุเพียง 22 และ 20 ปีตามลำดับเท่านั้น ส่วนกองกลางยังต้องพึ่ง อันเดรีย ปิร์โล และ ดานิเอลเล เด รอสซี ที่พออุ่นใจ เพราะมี เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ จาก ยูเวนตุส มาเสริมงาน ด่านสุดท้ายที่ถือเป็นสไตล์ของ อิตาลี ก็คือเกมรับยังมีจุดแข็ง จานลุยจิ บุฟฟอน รับหน้าที่มือกาว และ จอร์โจ คิเอลลินี คุมแดนหลัง ซึ่งใครเป็นแฟนบอลรับรองเชียร์แต่ละนัดอึดอัดและลุ้นกันเหนียวแน่นอน จนทำให้เริ่มย้อนนึกถึงพวกตำนานเพลย์เมกเกอร์ไล่ตั้งแต่ โรแบร์โต บาจโจ, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร และ ฟรานเชสโก ต็อตติ ที่ตอนนี้ไม่สามารถหาทายาทได้แล้ว