ไมอามี ฮีต คืนฟอร์มเก่ง หลังเปิดบ้านถลุง ชิคาโก บูลล์ส 115-78 ส่วน โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส บุกสยบ ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส คาถิ่น 100-91 ในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) รอบเพลย์ออฟ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา
ที่ไมอามี : หลังเกิดเทคนิเกิลฟาวล์ 9 ครั้ง มีผู้เล่นถูกไล่ออก 2 คน ในเกมที่เต็มไปด้วยการผลักอกและปะทะกันอย่างดุเดือด บทสรุปลงท้ายด้วยชัยชนะด้วยสกอร์มโหฬารสุดในประวัติศาสตร์ของ แชมป์เก่า ก่อนตีเสมอซีรีส์ 1-1 เกม (ฝ่ายใดชนะ 4 ใน 7 เกม ก่อนเป็นผู้ชนะ) ในรอบรองชนะเลิศ สายตะวันออก
โดยเกมนี้ โจอาคิม โนอาห์ และ ทาจ์ กิ๊บสัน 2 ฟรอนต์คอร์ตของ “กระทิงเปลี่ยว” ถูกไล่ออกควอเตอร์ 4 รวมทั้งมีผู้เล่นถูกกรรมการเป่าฟาวล์เทคนิกถึง 6 ราย มากสุดในบรรดาทีมอื่นๆ รอบเพลย์ออฟ 1 เกม นับตั้งแต่ บอสตัน เซลติกส์ พบ อินเดียนา เพเซอร์ส เมื่อปี 2005
โดยเกมนี้ เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์ขวัญใจแห่งถิ่น อเมริกัน แอร์ไลนส์ อารีนา ซัด 19 แต้ม 5 รีบาวนด์ 9 แอสซิสต์ ดีเวย์น เหว็ด การ์ดคู่หู ช่วย 15 แต้ม 5 แอสซิสต์ เรย์ อัลเลน มือปืนรุ่นลายคราม ส่อง 21 แต้ม นอร์ริส โคล เสริม 18 แต้ม 6 รีบาวนด์ “อวตาร” คริส บอช ทะลวง 13 แต้ม 5 รีบาวนด์
ด้าน บูลล์ส ซึ่งยิงฟิลด์โกลเข้าเป้า 27 จาก 76 ครั้ง (คิดเป็น 35.5 เปอร์เซ็นต์) อาศัย มาร์โก เบลิเนลลี จอมแม่นอิตาเลียน สอย 13 แต้ม 6 แอสซิสต์ เนต โรบินสัน การ์ดร่างเล็ก ทำ 11 แต้ม โนอาห์ เซ็นเตอร์จอมขยัน บวกอีก 12 แต้ม คาร์ลอส บูเซอร์ ฟอร์เวิร์ดจอมเก๋า โชว์ฟอร์มไม่ออก เก็บได้เพียง 8 แต้ม 4 รีบาวนด์ ก่อนแพ้ยับเยินสุดในประวัติศาสตร์เพลย์ออฟ
ข้ามฟากมาสายตะวันตก โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส บุกปล้นซีรีส์จากรัง เอที แอนด์ ที เซ็นเตอร์ สำเร็จ โดยพึ่งพา เคลย์ ธอมป์สัน การ์ดดาวรุ่ง เหมา 34 แต้ม 14 รีบาวนด์ และ สตีเฟน เคอร์รี ซัด 22 แต้ม ก่อนพิชิต ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ซึ่งได้ ทิม ดันแคน ฟอร์เวิร์ดตัวเก๋า แบกทีม 23 แต้ม 9 รีบาวนด์ และ โทนี พาร์เกอร์ ช่วย 20 แต้ม 100-91 เสมอกัน 1-1 เกม
ที่ไมอามี : หลังเกิดเทคนิเกิลฟาวล์ 9 ครั้ง มีผู้เล่นถูกไล่ออก 2 คน ในเกมที่เต็มไปด้วยการผลักอกและปะทะกันอย่างดุเดือด บทสรุปลงท้ายด้วยชัยชนะด้วยสกอร์มโหฬารสุดในประวัติศาสตร์ของ แชมป์เก่า ก่อนตีเสมอซีรีส์ 1-1 เกม (ฝ่ายใดชนะ 4 ใน 7 เกม ก่อนเป็นผู้ชนะ) ในรอบรองชนะเลิศ สายตะวันออก
โดยเกมนี้ โจอาคิม โนอาห์ และ ทาจ์ กิ๊บสัน 2 ฟรอนต์คอร์ตของ “กระทิงเปลี่ยว” ถูกไล่ออกควอเตอร์ 4 รวมทั้งมีผู้เล่นถูกกรรมการเป่าฟาวล์เทคนิกถึง 6 ราย มากสุดในบรรดาทีมอื่นๆ รอบเพลย์ออฟ 1 เกม นับตั้งแต่ บอสตัน เซลติกส์ พบ อินเดียนา เพเซอร์ส เมื่อปี 2005
โดยเกมนี้ เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์ขวัญใจแห่งถิ่น อเมริกัน แอร์ไลนส์ อารีนา ซัด 19 แต้ม 5 รีบาวนด์ 9 แอสซิสต์ ดีเวย์น เหว็ด การ์ดคู่หู ช่วย 15 แต้ม 5 แอสซิสต์ เรย์ อัลเลน มือปืนรุ่นลายคราม ส่อง 21 แต้ม นอร์ริส โคล เสริม 18 แต้ม 6 รีบาวนด์ “อวตาร” คริส บอช ทะลวง 13 แต้ม 5 รีบาวนด์
ด้าน บูลล์ส ซึ่งยิงฟิลด์โกลเข้าเป้า 27 จาก 76 ครั้ง (คิดเป็น 35.5 เปอร์เซ็นต์) อาศัย มาร์โก เบลิเนลลี จอมแม่นอิตาเลียน สอย 13 แต้ม 6 แอสซิสต์ เนต โรบินสัน การ์ดร่างเล็ก ทำ 11 แต้ม โนอาห์ เซ็นเตอร์จอมขยัน บวกอีก 12 แต้ม คาร์ลอส บูเซอร์ ฟอร์เวิร์ดจอมเก๋า โชว์ฟอร์มไม่ออก เก็บได้เพียง 8 แต้ม 4 รีบาวนด์ ก่อนแพ้ยับเยินสุดในประวัติศาสตร์เพลย์ออฟ
ข้ามฟากมาสายตะวันตก โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส บุกปล้นซีรีส์จากรัง เอที แอนด์ ที เซ็นเตอร์ สำเร็จ โดยพึ่งพา เคลย์ ธอมป์สัน การ์ดดาวรุ่ง เหมา 34 แต้ม 14 รีบาวนด์ และ สตีเฟน เคอร์รี ซัด 22 แต้ม ก่อนพิชิต ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ซึ่งได้ ทิม ดันแคน ฟอร์เวิร์ดตัวเก๋า แบกทีม 23 แต้ม 9 รีบาวนด์ และ โทนี พาร์เกอร์ ช่วย 20 แต้ม 100-91 เสมอกัน 1-1 เกม
