ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ขอเริ่มต้นทักทายด้วยคำว่า “สะบายดี” พร้อมละสายตาจากกอล์ฟทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติไว้สักฉบับ โดยสัปดาห์นี้ผู้เขียนขอเลาะตะเข็บชายแดนเยี่ยมเยียนวงการสวิงประเทศบ้านพี่เมืองน้องของไทยอย่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กับทัวร์นาเมนต์ระดับ อาเซียน พีจีเอ ทัวร์ รายการ “หลวงพระบาง ลาว โอเพน” ที่ปีนี้จัดแข่งเป็นหนที่ 2 และถือเป็นการเผยแพร่ให้คนในประเทศลาวได้ทำความรู้จักและสนใจกับกีฬากอล์ฟมากยิ่งขึ้น
การเดินทางในครั้งนี้ บริษัท ทรอปิคอล โฮสพิทอลิตี แมเนจเมนท์ จำกัด พร้อมคณะสื่อมวลชนไทยมุ่งตรงสู่หลวงพระบาง เมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นเมืองมรดกโลกของสปป.ลาว เพื่อทำข่าวการแข่งขันกอล์ฟ “หลวงพระบาง ลาว โอเพน” ครั้งที่ 2 ณ สนามหลวงพระบาง กอล์ฟ คลับ ระหว่างวันที่ 22-25 เมษายน ที่ผ่านมา งานนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.คำแพง ไชยสมแพง ท่านเจ้าแขวงหลวงพระบาง ร่วมต้อนรับและชมการแข่งขันด้วย
โดยรายการนี้ถือเป็นการจัดแข่งขันกอล์ฟระดับชาติรายการเดียวในประเทศ ที่ถูกบรรจุอยู่ในปฏิทินทัวร์ของ อาเซียน พีจีเอ ทัวร์ โดยมีนักกอล์ฟเจ้าถิ่นเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 21 คนและมีเพียง 2 รายที่เทิร์นโปรเป็นก้านเหล็กอาชีพคือ ดาริยะ สายดารา กับ เพชรสมร สายสมวงศ์ ซึ่งไม่แปลกที่ทั้งประเทศจะมีโปรเพียง 2 ราย เนื่องจากกีฬากอล์ฟยังไม่เป็นที่แพร่หลายในหมู่คนลาวมากนัก ด้วยเหตุนี้ก่อนวันแข่งขันจริง “โปรบวร” บวร ชัยศรี ของไทยนำประสบการณ์ที่มีเปิดกอล์ฟ คลินิก ถ่ายทอดความรู้และให้บรรดาก้านเหล็กลาวได้เพิ่มทักษะไม่ว่าจะเป็นการเล่นลูกชิป ลูกพัต หรือเรื่องวงสวิงต่างๆ แบบไม่คิดเงินแม้แต่กีบเดียว
ส่วนหลวงพระบาง กอล์ฟ คลับ สังเวียนใช้จัดแข่งระยะ 7,318 หลา พาร์ 72 ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มนักลงทุนเกาหลี ตั้งแต่ปี 2010 อยู่ห่างจากตัวเมืองไม่ถึง 15 นาที เป็นสนามที่มีความสวยงามทางด้านภูมิประเทศ มีซิกเนเจอร์ โฮล อยู่ที่หลุม 17 พาร์ 3 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงพอดี กรีนมีสภาพสมบูรณ์ เมื่อบวกกับอุณหภูมิราว 34-35 องศาทำให้บรรยากาศไม่แพ้กันกับสนามกอล์ฟแถวหน้าของเมืองไทย ถ้ามีสิ่งที่แตกต่างสักเรื่องคงเป็นอินเตอร์เนตไวไฟ (WI-FI) และเครือข่าย 4G ของลาวที่เร็ว แรง และใช้กันเป็นปกติ แต่ของเรายัง.. (ฮ่า)
ด้านบัตรเข้าชมการแข่งในปีนี้ไม่มีจำหน่ายเหมือนเคย หลวงพระบาง กอล์ฟ คลับ แห่งนี้เปิดต้อนรับทุกเพศ ทุกวัยที่สนใจกอล์ฟให้เข้ามาชมได้ฟรีถึงขอบกรีน หรือสามารถรับชมสดผ่านโทรทัศน์ช่อง “ลาวสตาร์” ช่องทีวีชื่อดังของ สปป.สาว ซึ่งทัวร์นาเมนต์นี้ได้ “โปรสิงห์” สุทธิพันธุ์ กิมสวัสดิ์ ที่มีประสบการณ์ในวงการกอล์ฟกว่า 10 ปี เดินทางมาช่วยควบคุมทีมผลิตรายการสด คอยแนะเทคนิคการถ่ายภาพ และการบรรยายเสียงอีกแรง
ในวันที่คณะสื่อมวลชนไทยเดินทางถึงสนาม วันที่ศุกร์ที่ 26 เม.ย.การแข่งขันเข้าสู่รอบที่ 3 และไม่มีโปรกอล์ฟลาวผ่านการตัดตัวเข้ามาลุ้นแชมป์ใน 2 วันสุดท้าย แต่ได้มีโอกาสดีสัมภาษณ์ ดร.คำแพง ไชยสมแพง ถึงกระแสตอบรับและแนวโน้มในอนาคตกับในการจัดแข่งรายการนี้ ซึ่งท่านเจ้าแขวงหลวงพระบาง เผยว่า หนนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นเริ่มมีคนหันมาเล่นกอล์ฟมากว่าปีที่ผ่านมา โดยตามสัญญาที่เซ็นกับฝ่ายจัดการแข่งขันไว้ 3 ปี ทำให้ในปี 2014 มีการแข่งกอล์ฟที่หลวงพระบางอีกครั้ง และแว่วๆ มาว่า เริ่มมองถึงความเป็นไปได้ในการไปจัดที่นครหลวงเวียงจันทร์บ้างในอนาคต
ผู้เขียนมีโอกาสสอบถามถึงมุมมองของแฟนกอล์ฟชาวลาวและเขายอมรับว่า อาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่านักกอล์ฟลาวจะพัฒนาฝีมือขึ้นมาสู้ในระดับอาเซียน เนื่องจากคนลาวยังขาดทักษะพื้นฐาน มาเริ่มเล่นกอล์ฟจริงจังเอาในวัย 20 ปี ต่างจากนักกอล์ฟชาติอื่นที่เริ่มตีจริงตั้งแต่ 7-8 ขวบ ทำให้จังหวะและวงสวิงได้ไม่เท่ากัน แต่การมีทัวร์นาเมนต์แข่งขันระดับชาติในประเทศต่อเนื่องในทุกปี จะช่วยพัฒนากีฬกอล์ฟได้ดีและเห็นผลมากยิ่งขึ้น
ท้ายที่สุด แม้บรรยากาศการแข่งในรอบสุดท้ายจะเป็นก้านเหล็กไทยที่ลุ้นแชมป์กันเองท่ามกลางกองเชียร์ลาว ก่อนจะเป็น “โปรหยี” นำโชค ตันติโภคากุล ยึดแชมป์ไปครอง แต่เชื่อว่าหากมีการสนับสนุนและพัฒนาต่อเนื่อง อนาคตคงได้เห็นโปรกอล์ฟจากประเทศบ้านพี่เมืองน้องของเราก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์รายการระดับอาเซียนในไม่ช้า ดีไม่ดีอาจจะเร็วกว่าประเทศไทยได้ใช้เครือข่าย 4G เสียด้วย
เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล