“วิทยาศาสตร์การกีฬา” ต่อยอดไทยสู่เวทีสากล

ASTV ผู้จัดการรายวัน - ห่างย้อนไปหลายปีก่อน “วิทยาศาสตร์การกีฬา” ถือเป็นเรื่องไกลตัว ไม่เป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากนักในบ้านเรา ทั้งที่มีประโยชน์หลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรีดศักยภาพร่างกายของผู้เล่นออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่หรือช่วยเรื่องอาการบาดเจ็บหล่นระยะเวลาในการฟื้นตัว

แม้จะถือเป็นเรื่องใหม่ แต่ปัจจุบันได้มีหลากหลายประเภทกีฬาในเมืองไทยเริ่มให้ความสำคัญเกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์การกีฬา อาทิบรรดาสโมสรฟุตบอลระดับหัวแถวของศึก โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก ซึ่งที่เห็นผลชัดเจนเลยคือ สุพรรณบุรี เอฟซี น้องใหม่ฤดูกาลนี้ที่แข่งไป 7 นัดติดลมบนโดยยังไม่แพ้ใคร หรือนักกีฬาไทยอย่าง รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันสาว ที่ได้ไปฝึกปรือวิทยายุทธ์กับสโมสรชิงเต่า ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ฤดูกาลเต็มๆ ในปีที่แล้ว ซึ่งวิทยาการ ณ แดนมังกรเจาะลึกถึงขนาดตรวจเลือดและนำมาวิเคราะห์เพื่อออกมาแบบโปรแกรมการฝึกซ้อมเสริมสร้างกล้ามเนื้อลบจุดอ่อน รวมถึงอาหารการกินจำแนกผู้เล่นเป็นรายๆ ไปจน “น้องเมย์” สามารถไต่ขึ้นถึงมือ 6 ของโลกแล้วตอนนี้

องค์กรทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ที่เล็งเห็นความสำคัญของ วิทยาศาสตร์การกีฬา ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ โดยได้จัดตั้ง สถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกายกรุงเทพ หรือ BASEM ซึ่งผ่านเกณฑ์การรับรองจาก ฟีฟา ให้เป็น “FIFA Medical Centre of Excellence” มีนักกีฬาไทยอย่าง “ตอง” กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูมือ 1 ทีมชาติไทยของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บกระดูกหน้าแข้งแตกจากเกมอุ่นเครื่องกับ เซี่ยงไฮ้ อีสต์ เอเชีย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากตอนแรกที่คาดว่าจะต้องพักยาว 8-9 เดือน แต่ตอนนี้ 3-4 เดือนก็น่าจะกลับมาบินได้อีกครั้งหนึ่ง

นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ ได้เผยถึงวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งศูนย์แห่งนี้ว่า “สถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกายกรุงเทพ ริเริ่มขึ้นเพื่อสร้างมาตรฐานสากลในการดูแลนักกีฬาประเภทต่างๆ ทุกเพศทุกวัย รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการออกกำลังกายอย่างปลอดภัยแก่บุคคลธรรมดาด้วย โดยการดูแลรักษานักฟุตบอลมีมาตรฐานที่ดีที่สุด เช่น ป้องกันการบาดเจ็บ ดูแลรักษา ฟื้นฟู โภชนาการ จิตวิทยาทางการกีฬา ป้องกันการใช้สารกระตุ้น (Anti-doping) โดยมาตรฐานของ ฟีฟา กำหนดให้มีการดูแลการรักษาเป็นทีมในสาขาต่างๆ ทางการแพทย์ ซึ่งตอนนี้มี กวิน เข้ามารักษาและฟื้นฟูร่างกาย”

กรณีของ กวิน ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บหลังผ่าตัด นายอธิพล เมธาทิพย์ นักกายภาพบำบัด อธิบายว่า “หลังจากที่ผ่าตัดเชื่อมกระดูกโดยใช้แผ่นโลหะเชื่อมข้อกระดูกให้สมานเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งตอนนี้สภาพร่างกายของ กวิน พอเดินได้เกือบปกติแล้ว แต่สภาพกล้ามเนื้อขาด้านขวาไม่เท่ากับด้านซ้าย เนื่องจากไม่ได้ออกกำลังขาส่วนนั้นอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะเข้ารับการรักษาเพียง 2 เดือนกว่าเท่านั้น ซึ่งตรงนี้เราจะเริ่มต้นด้วยการอัลตราซาวด์และนวดคลายกล้ามเนื้อขา ก่อนจะปิดท้ายด้วยการใส่อุปกรณ์ถ่วงน้ำหนักเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อก่อนที่จะเริ่มใช้อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ได้ทำประจำ”

นายเมธาวี ขำแจง นักวิทยาศาสตร์การกีฬาประจำโรงพยาบาลกรุงเทพ ยังแนะนำอุปกรณ์ที่ช่วยให้มือกาว “กิเลนผยอง” ฟื้นตัวเร็วคือ “เราเริ่มต้นด้วยการปั่นจักรยาน เนื่องจากมีปัญหาการซ้อมด้วยการวิ่งให้เต็มศักยภาพได้ไม่เต็มที่นัก โดยใช้เวลาเพียง 20 นาที ก่อนที่จะเข้าสู่การใช้อุปกรณ์วิ่ง Anti-Gravity Treadmill ซึ่งตัวนี้มีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนการวิ่งธรรมดา เพราะจะมีอุปกรณ์แรงดันในถุงผ้าที่ติดมากับตัวเครื่อง พร้อมกับใส่กางเกงต้านแรงดัน และขณะที่ตัวผู้ใช้เคลื่อนไหวนั้น ผู้วิ่งจะมีความรู้สึกว่าการวิ่งจะไม่เจ็บที่เท้ามากนัก เนื่องจากจะลดการเหยียบพื้นเหลือเพียง 20 เปอร์เซนต์เท่านั้น โดยเครื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถออกกำลังกายด้วยการวิ่งได้เต็มที่”

ปัจจุบัน โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้เป็นพันธมิตรช่วยเหลือนักกีฬาประเภทอื่นอีกไม่ว่าจะเป็น ยกน้ำหนัก, แบดมินตัน, วอลเลย์บอล และ มวยสากลสมัครเล่น เพราะ สถาบันทางเวชศาสตร์การกีฬา ได้รับการรับรองจากรูปแบบต่างๆ ที่ถือว่าครอบคลุม เช่น วิธีธาราบำบัด ซึ่งเป็นการรักษาอาการบาดเจ็บโดยการแช่น้ำในสระ ซึ่งต่างประเทศนิยมใช้กับนักกีฬาอย่างแพร่หลาย เพราะน้ำมีคุณสมบัติช่วยพยุงร่างกาย ช่วยบุคคลที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายบนบกได้ โดยวิ่งเหยาะๆ ซอยท้า หรือใช้อุปกรณ์เวทเทรนนิงด้วยวัสดุโฟม และให้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายในน้ำ ซึ่งสระนั้นจะต้องมีอุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส คุณสมบัติก็เพื่อช่วยระบบหมุนเวียนเลือดและช่วยรักษาได้เร็วขึ้น

เหนืออื่นใดศักยภาพของนักกีฬาที่ผ่านการฝึกซ้อมอย่างหนักและต่อเนื่องต้องมาก่อนเป็นลำดับแรกหากอยากประสบความสำเร็จ ส่วน วิทยาศาสตร์การกีฬา ถือเป็นตัวเสริมที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยพัฒนาวงการเริ่มจากภายในประเทศไทยที่จะต้องนำเข้ามาใช้กับทุกสมาคมฯ เพื่อต่อยอดสู่ระดับสากลที่จะไปพิสูจน์กันในทัวร์นาเมนต์ระดับโลกอย่าง เอเชียน เกมส์ หรือ โอลิมปิก เกมส์