หลุยส์ ซัวเรส หัวหอกชาวอุรุกวัย มาสวมบทฮีไร่โขกประตูสำคัญช่วงทดเจ็บให้ทีมไล่ตามตีเสมอ เชลซี 2-2 หลังทำพลาดเสียจุดโทษไปก่อนต้องลงเอยด้วยการแบ่งกันไปทีมละแต้ม ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 2-2 เชลซี
เกมพรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมตช์ประจำวันอาทิตย์ ราฟาเอล เบนิเตซ นายใหญ่ เชลซี ได้โอกาสพาทีมกลับมาเยือนถิ่นเก่า เกมนี้เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ใช้งาน หลุยส์ ซัวเรซ เป็นกองหน้า และมี ฟิลิปเป คูตินโญ คอยทำเกม ส่วนทีมเยือนยังไม่มี แอชลีย์ โคล ต้องใช้ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ยืนแบ็กซ้าย โดยแนวรุกใช้ เฟร์นันโด ตอร์เรส ลงยิงทีมเก่า
เริ่มเกมมา 5 นาที ลิเวอร์พูล ทักทายน่ากลัว ซัวเรซ ไหล ให้ เกล็น จอห์นสัน ทะลุเข้ากรอบโทษแต่จิ้มบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นนาที 17 ยังเป็นเจ้าถิ่นบุกต่อเนื่อง สจ๊วร์ต ดาวนิง ลาดเข้าหามุมกรอบโทษด้านซ้ายแต่ซัดเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
โอกาสครั้งแรกของ “สิงห์บลูส์” มาในนาที 19 เอเดน ฮาซาร์ด ลากหนีแนวรับ “หงส์แดง” จ่ายต่อให้ รามิเรซ เติมขึ้นมาซัดแบบไม่จับบอลพุ่งตรง เรนา ชกทิ้งออกมาได้ทัน จากนั้นนาทีที่ 25 ลูกทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ มาได้ประตูออกนำ 1-0 ชนิด “เดอะค็อปส์” เงียบทั้งสนามจากลูกเตะมุม มาตา เปิดมาที่เสาแรก เจมี คาร์ราเกอร์ ประกบพลาดปล่อย ออสการ์ โขกยัดเสาแรกง่ายๆ
นาที 28 เชลซี ได้ฟรีคิกระยะ 30 หลา ดาวิด ลุยซ์ รับหน้าที่ตะบันข้ามกำแพง เรนา ตั้งซองรับบอลกระฉอกทำท่าจะปลิ้นเข้าประตูตัวเองยังดีตามตะครุบทัน งานนี้ทำเอาแฟนเจ้าถิ่นเสียวอีกครั้ง จากนั้นทั้งสองทีมผลัดกันครองบอล นาที 40 ซัวเรซ หลุดมาซัดมุมแคบ ปีเตอร์ เช็ก ยังปิดมุมบล็อกไว้ได้ทำให้จบครึ่งแรกเป็น เชลซี นำ 1-0
ลงมาครึ่งหลัง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส์ ส่ง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ลงมา และเกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะลากตัดเข้ามาไหลต่อให้ เจอร์ราร์ด จิ้มต่อบอลไปติดปลายเท้าของ เช็ก นิดเดียว นาทีถัดมา สเตอร์ริดจ์ มาสร้างโอกาสให้ตัวเองอีกครั้งจากการยิงไกลบอลพุ่งชนเสาเต็มๆ แบบไร้โชค
นาที 51 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูตีเสมอจนได้ ซัวเรซ โยนข้าม อิวาโนวิช มาเสาสองให้ สเตอร์ริดจ์ วิ่งมาตั้งเท้าแปส่งบอลตุงตาข่ายไล่มาเป็น 1-1 แต่แล้ว 3 นาทีถัดมา จากลูกเตะมุม ซัวเรซ ทำเสียจุดโทษจาการทำแฮนด์บอล และ ฮาซาร์ด รับหน้าที่สังหารหลอกยิงให้ เรนา พุ่งไปคนละทาง เชลซี ขยับนำอีกครั้งเป็น 2-1
นาที 69 “สิงห์บลูส์” ยังบุกต่อเพื่อประตูนำห่าง จากลูกเตะมุมแนวรับเจ้าบ้านเคลียร์ไม่ขาด มาอยู่ที่ ฮาซาร์ด แต่งเข้าขวาซัดเต็มๆ ยังดีที่ โฆเซ เอ็นริเก โหม่งที่ออกหลังไปได้ เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เชลซี ลงไปเน้นเกมรับมากขึ้นรักษาสกอร์นำ นาที 84 เฮนเดอร์สัน จ่ายต่อให้ จอนโจ เชลวีย์ ที่ลงมาเป็นสำรองปกเน้นๆ บอลหลุดเสาแรกออกไปนิดเดียว
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 6 นาที แข้ง “สิงห์บลูส์” ลงไปคุมพื้นที่ในแดนตัวเอง แต่มาพลาดเสียประตูตีเสมอจากลูกโขกผีจับยัดของ ซัวเรซ ชนิดที่ เช็ก ไม่ต้องเซฟ ไล่มาเป็น 2-2 ลงเอยด้วยการแบ่งกันไปทีมละแต้ม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, เจมี คาร์ราเกอร์, เกล็น จอห์นสัน, แดเนียล แอกเกอร์, โฆเซ เอ็นริเก, สจ๊วร์ต ดาวนิง, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ลูคัส เลวา, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟิลิปเป คูตินโญ, หลุยส์ ซัวเรซ
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา, ไรอัน เบอร์ทรานด์, จอห์น โอบี มิเกล, รามิเรส, เอเดน ฮาซาร์ด, ออสการ์, ฆวน มาตา, เฟร์นันโด ตอร์เรส