xs
xsm
sm
md
lg

ประมุขกำปั้นไทย ขอพิชิตใจ “ไอบา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิชัย ตั้งเป้าทวงเหรียญทองโอลิมปิก
ASTV ผู้จัดการรายวัน – นับตั้งแต่ พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในเวลานั้น ออกมาวิจารณ์การคัดเลือกผู้ตัดสินลงทำหน้าที่ในกีฬาโอลิมปิก 2008 ที่ประเทศจีน ของสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ หรือ "ไอบา" ภายใต้การบริหารงานของ ชิง กัวะ วู ประธานใหญ่ชาวไต้หวัน ก็ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างสมาคมกำปั้นไทย กับ ไอบา ขาดสะบั้น พร้อมส่งผลกระทบจนคนอย่าง "เสธ.วีป" ถูกแบนจากวงการมวยถึง 2 ปี ขณะที่ทีมกำปั้นไทยวิปโยคหนักถูกแขวนห้ามเข้าร่วมการแข่งขันภายใต้การรับรองของ ไอบา ในทุกรายการเป็นเวลาถึง 1 ปี แถมยังลามมาถึงยุคที่ "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ก้าวขึ้นกุมบังเหียนสมาคมมวยเสื้อกล้ามไทย ชวดเหรียญทองโอลิมปิก 2012 "ลอนดอนเกมส์" จนนายทหารแก่ สปอร์ต ใจดี ถึงกับประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับ ไอบา ตามมาเป็นครั้งที่ 2 หลัง แก้ว พงษ์ประยูร คว้ามาได้เพียงแค่เหรียญเงิน เมื่อแพ้ต่อ ซู ซิ หมิง นักชกจีนบุตรบุญธรรมของ "ประธานชิง" แบบค้านสายตาคนทั้งโลก

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ พิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการ บริษัท บางจาก ปิโตเลียม จำกัด ได้รับการชูมือจากสโมสรสมาชิก จำนวน 61 เสียง ขึ้นนั่งตำแหน่งประมุขเสื้อกล้ามไทยอย่างเป็นทางการแบบไร้คู่ต่อกร เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 จึงทำให้สปอร์ตไลท์ทุกดวงจับจ้องไปที่นายกสมาคมป้ายแดง ว่าเป็นใคร มาจากไหน และจะกำหนดทิศทางกำปั้นไทยให้ออกมาในรูปแบบใด

โดย “บิ๊กบางจาก” ย้อนถึงความหลังก่อนที่จะมายืนบนจุดนี้ว่าชื่นชอบกีฬามวยมาตั้งแต่เด็ก “ผมชอบกีฬามวยมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะมวยไทย เนื่องจากได้มีโอกาสย้ายบ้านไปอยู่แถวเวทีมวยลุมพินี และช่วงเวลานั้นมวยไทยกำลังเป็นที่นิยมมาก จึงเข้าไปดูบ่อย ดูทั้งนักมวย ลีลาการการชก และบรรยากาศต่างๆ ผมว่ามันสนุกดี จนโตขึ้นแม้จะทำธุริจ แต่ก็ได้มีโอกาสร่วมงานกับนายทหารหลายคนที่คลุกคลีในวงการกีฬา เช่น พี่อ๊อด ยุทธศักดิ์ ศศิประภา (ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย) และ พี่อ้าย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ก่อนที่จะถูกเชิญให้ไปเป็นผู้จัดการทีมมวยสากลฯที่ลอนดอนเกมส์ ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้มีบทบาทอะไรมากคอยประสานงานเรื่องภายนอกสมาคม แต่ก็พอเห็นถึงปัญหาบางส่วน เช่น การการจัดการ เรื่องนักกีฬา หรืองบประมาณที่ยังขาดอยู่ จนคิดว่าถ้าเราได้เข้ามารับหน้าที่ดูแลจุดนี้ เรามั่นใจว่าเราจะทำได้ดี”

ด้วยความเป็นนักธุรกิจและถูกมองว่าไม่ใช่คนในวงการมวยมาก่อน จึงถูกหลายฝ่ายค่อนขอดว่าจะสามารถบริหารงานได้ดีเทียบเท่าสายทหารที่เคยครองเก้าอี้ตัวนี้มายาวนานได้อย่างไร ในเมื่อนักกีฬาเกือบทุกคนล้วนสังกัดภายใต้ 4 เหล่าทัพ แทบทั้งสิ้น แต่ “บิ๊กบางจาก” ทราบดีถึงจุดอ่อนของตัวเอง จึงทำการเปิดตัวทีมงานคณะบริหารสายพันธุ์ใหม่ ให้เป็นที่ประจักษ์ เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา โดยมีนายทหารจากทั้ง 4 เหล่าทัพ ไม่ว่าจะเป็นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ รวมถึงยังมีนายตำรวจ และ พลเรือน ร่วมงาน ไล่ตั้งแต่ อุปนายกสมาคมอย่าง พล.อ.อ.ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ อดีตรองเสนาธิการทหารกองทัพเรือไทย, พล.อ.จิระเดิช โมกขะสมิต ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก, พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผู้บัญชาการตำรวจปราบยาเสพติด, สมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดี กรมสรรพสามิตร โดยมี วินัย รอดจ่าย อดีตรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นเลขาธิการสมาคม ขณะที่ในส่วนนักกีฬาได้ พล.อ.อ.ไพบูลย์ สิงหามาตย์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สนง.ปลัดกระทรวงกลาโหม นั่งแท่นประธานเทคนิค พร้อมทั้งดัน โอมาร์ มาลากอน โค้ชชาวคิวบา ขึ้นเป็นเฮด ร่วมงานกับ “ตลาดแขก" น.ท.ทวีวัฒน์ อิสลาม และ แก้ว พงษ์ประยูร กับ วรพจน์ เพชรขุ้ม 2 ฮีโรเหรียญเงินโอลิมปิก

“ที่ใครหลายคนเป็นห่วงว่าผมเป็นแค่พลเรือนจะบริหารจัดการได้ไม่สะดวกนั้น ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากทีมงานชุดนี้มีครบทุกเหล่าทัพมาช่วยดูแลในด้านต่างๆทั้ง ทหาร ตำรวจ และ ประชาชน จึงทำให้การประสานงาน การจัดการแข่งขัน หรือการขอตัวนักมวย ง่ายขึ้นและไม่มีปัญหา จากนี้เราจะเจาะเข้าไปในแต่ละสโมสรเลยว่านักมวยมีกี่คน ประเภทใดบ้าง รุ่นอะไร เพื่อที่จะคัดหาหน้าใหม่เข้ามา แล้วต้องเตรียมตัวตั้งแต่รุ่นเยาวชน อายุ 17-18 ปี ซึ่งจุดนี้ก็ต้องดูว่าเราจะทำอย่างไรให้พวกเขาเหล่านั้นใช้เวลากับเรื่องนี้มากที่สุด เนื่องจากยังไม่เป็นอาชีพ จึงต้องวางแผนด้านการศึกษาให้สอดคล้องไปด้วย และต้องวางเส้นทางให้ครอบครัวเขาสบายใจและสนับสนุนให้เดินทางนี้แล้วสามารถเลี้ยงชีพได้ ในขณะที่เงินสนับสนุนนั้นไม่เป็นปัญหาถ้าเรามีผลงานทุกฝ่ายก็พร้อมเข้ามาสนับสนุน” พิชัยเผย

พร้อมกันนี้ประมุขกำปั้นไทยวัย 64 ปี ยังกล่าวถึงแผนงานของตนว่าไม่ขัดข้องแต่อย่างใดกับการที่ “ไอบา” ปรับเปลี่ยนกฎและแบ่งประเภทการชกขึ้นมาใหม่เพื่อให้มีความใกล้เคียงกับมวยสากลอาชีพมากขึ้น “เราคงต้องเดินตามนโยบายของ ไอบา เนื่องจากข้อบังคับได้รับการอนุมัติจากโอลิมปิกสากลแล้ว ถึงแม้จะมีทาง รัสเซีย และ คิวบา คัดค้านอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็คงไม่เป็นผล ซึ่งผมมองในแง่ดีว่านักมวยของเรานอกเหนือจากลีลาและเทคนิคแล้ว ผมว่าลักษณะเด่นของนักกีฬาเราโดยเฉพาะพวกที่พัฒนามาจากมวยไทย จะมีความอดทนเป็นหลัก การที่ไม่มีเฮดการ์ด ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเรามากกว่า ส่วนในเรื่องการให้คะแนนที่มักจะเป็นปัญหา ต้องถามว่าใครเป็นคนให้ คำตอบคือผู้ตัดสิน แล้วต้องถามต่อว่าเรามีผู้ตัดสินกี่คนที่เข้าไปอยู่ในนั้น รู้จักกรรมการชาติอื่นกี่คน และมีความสัมพันธ์กันดีไหม ซึ่งจุดนี้คือปัญหาหลักที่เราต้องทำ ต้องผลักดันโดยการเปิดอบรมกติกาพร้อมจัดสอบ และดูประสบการณ์ ที่สำคัญสุดคือภาษา เราต้องคัดผู้ที่เหมาะสมและผลักดันให้เข้าไปอยู่ในมาตรฐานโอลิมปิกให้ได้”

สำหรับเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายจับตามองว่าจะมีวิธีการรับมือกับ ชิง กัวะ วู ประธานไอบา อย่างไร “ผมรู้จัก ชิง กัวะ วู มาพอประมาณ แม้ไม่สนิท แต่คิดว่าวิสัยทัศน์ของเขานั้นกว้างไกลมาก จึงไม่เป็นปัญหาที่จะทำงานร่วมกัน โดยขั้นแรกเราได้เชิญเขามาร่วมเป็นประธานจัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์ประเทศไทย วันที่ 21-26 เมษายนนี้ แต่ยังไม่ทราบว่าจะติดภารกิจอะไรบ้าง แต่ถึงแม้มาไม่ได้ผมก็พร้อมที่จะเดินทางไปหาเขาด้วยตนเอง เพื่อที่จะพูดคุยในหลายๆ เรื่อง เช่น ด้านเทคนิคต่างๆ และการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการสำคัญๆ อย่างคัดเลือกปรีโอลิมปิก ที่เราต้องดึงมาให้ได้ รวมถึงแสดงเจตนารมณ์ว่าต้องการที่จะส่งผู้ตัดสินเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ก่อนหน้านี้ผมพอจะรู้จักกับนักธุรกิจชาวไต้หวันอยู่บ้าง ซึ่งก็อยู่ในกลุ่มเดียวกับ จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลี ในส่วนตัวผมเองก็เคยว่าจ้างให้คนเหล่านั้นทำงานใหญ่มาก่อน บางงานมีมูลค่าหลักหมื่นล้านบาทก็จ้างมาแล้ว และเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์เหล่านี้จะช่วยให้ ชิง กัวะ วู มองสมาคมมวยสากลสมัครเล่นไทยด้วยสายตาที่เป็นมิตรมากขึ้น”

สุดท้ายนี้ “เสี่ยพิชัย” ได้กล่าวถึงเป้าหมายสูงสุดที่เล็งไว้คือการทวงคืนเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ “แน่นอนว่าเป้าหมายสูงสุดที่เราต้องการคือคว้าเหรียญทองที่ ริโอเกมส์ 2016 ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนชาวไทยคาดหวังไว้ แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าเราเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลง ผมต้องทำความเข้าใจระหว่างทีมงานใหม่และทีมงานเก่า ไม่ว่าจะเป็นตัวนักกีฬา โค้ช หรือ คนดูแลผู้ตัดสิน ต้องเชื่อมทั้งสองส่วนให้ได้ และผมได้คุยกับทั้ง พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ และ พล.อ.บุญเลิศ เป็นที่เรียบร้อย เวลาที่เราจะเริ่มทำอะไรมันไม่สามารถจะสำเร็จภายใน 1-2 วันได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไป อะไรที่เสร็จไวแล้วเห็นผลมันมักไม่ยั่งยืน เราต้องวางรากฐานให้แน่น ฉะนั้นเป้าหมายอันดับแรกของเราคือทวง 4 เหรียญทอง ในประเภทชาย ศึกซีเกมส์ปลายปีนี้ให้ได้ก่อน และผมให้สัญญาว่าทีมงานชุดนี้จะพยายามทำงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้วงการมวยกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง”
ทีมงานครบทั้ง 4 เหล่าทัพ
โอมาร์ มาลากอน ขึ้นเป็นเฮดโค้ช
แก้ว พงษ์ประยูร 1 ในสตาฟฟ์
ชิง กัวะ วู ประธาน ไอบา
ชวดเหรียญทองโอลิมปิก 2012
กำลังโหลดความคิดเห็น