ซาเมียร์ นาสรี กับ เซร์คิโอ อเกวโร สองนักเตะ แมนเชสเตอร์ ซิตี ช่วยกันซัดคนละ 1 ประตู พาทีมปราบ เชลซี ซึ่งตีไข่แตกจาก เดมบา บา อย่างหวุดหวิด 2-1 ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ
เชลซี 1-2 แมนฯ ซิตี
เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 4 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี ทักทายก่อน ยายา ตูเร ฝ่าแนวรับคู่แข่งก่อนไหลมาทางกรอบโทษด้านซ้าย เซร์คิโอ อเกวโร ซัดมุมแคบเข้าหน้าต่าง ต่อมา 2 นาที “เรือใบสีฟ้า” เร่งเครื่องต่อ ยายา สะกิดเปลี่ยนทางลูกยิงไกลของ แกเร็ธ แบร์รี แฉลบ เซร์คิโอ อเกวโร ทว่า ปีเตอร์ เช็ก พุ่งปัดทันท่วงที
แม้ถูกบดอยู่นาน เชลซี หวิดขึ้นนำนาที 24 เอเดน ฮาซาร์ด วอลเลย์สวนจังหวะเก็บตกหลังแนวรับคู่แข่งสกัดลูกเปิดฟรีคิกฝั่งซ้าย บอลกระดอนพื้นกำลังจะเข้าประตู แว็งซ็องต์ คอมปานี สกัดบนเส้น ต่อมา ทั้งคู่เปิดเกมแลกกันอย่างสนุก เข้าสู่นาที 35 กองเชียร์ แมนฯ ซิตี ได้เฮ ยายา ตูเร ลุยมาถึงหน้ากรอบโทษด้านขวา แล้วหักเข้ากลาง เซร์คิโอ อเกวโร เบิ้ลสั้นให้ ซาเมียร์ นาสรี ทะลุมาตรงกลาง แล้วแประยะเผาขนตุงตาข่าย
รูปเกมยังคงสูสี จนถึงนาที 40 ซิตี น่าได้ลูก 2 เจมส์ มิลเนอร์ เก็บตกจังหวะชุลมุนบริเวณจุดโทษก่อนซัดติด คาร์ลอส เตเบซ เด้งมาเข้ามือ ปีเตอร์ เช็ก ต่อมา รองจ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก บุกได้น้ำได้เนื้อกว่า จนเกือบทิ้งห่างนาที 45+2 เจมส์ มิลเนอร์ ลากเดี่ยวเข้ามาทางกรอบโทษด้านซ้าย แล้วยิงติดมือ เช็ก ก่อน คอมปานี ตามซ้ำทางเสาสองไม่ตรงกรอบ จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี นำ 1-0
ครึ่งหลังเปิดฉากเพียง 2 นาที สาวก “เดอะ ซิตีเซ็นส์” ได้เฮอีกครั้ง แกเร็ธ แบร์รี บรรจงหยอดจากหน้ากรอบโทษด้านขวามาทางเสาไกล เซร์คิโอ อเกวโร โหม่งเล่นทางย้อนศรไม่มีเหลือ หลังถูกทิ้งห่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เปิดโหมดลุยแหลก แต่ทำได้เพียงผ่านบอลไปมาหน้าพื้นที่อันตรายเท่านั้น
เข้าสู่นาที 66 แฟนบอล “เดอะ บลูส์” เริ่มมีความหวัง ดาวิด ลุยซ์ ทิ้งบอลยาวจากแดนตัวเอง แว็งซ็องต์ คอมปานี โหม่งสกัดพลาด มาเข้าทาง เดมบา บา ลอยตัวตวัดยิงบริเวณกรอบโทษด้านซ้ายเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม ต่อมา 3 นาที ยักษ์ใหญ่กรุงลอนดอน ทำเสียว เอเดน ฮาซาร์ด ไหลบอลสั้นเกินไป ทว่า มาติยา นาสตาซิช สไลด์พลาดเข้าทาง มาตา ก่อน คอสเทล พานติลิมอน มาคว้าบอลจากเท้า
เกมดำเนินมาถึงนาที 81 “เอล กุน” รอดจากการถูกไล่ออก หลังกระแทกใส่ ดาวิด ลุยซ์ ทางด้านหลัง พร้อมย่ำเท้าคู่ใส่ ปราการหลังบราซิเลียน ทว่า ผู้ตัดสินไม่ลงโทษแต่อย่างใด ต่อมา ทั้งคู่ผลัดกันรุกและรับ แต่ไม่มีสกอร์เพิ่ม ครบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี ชนะ 2-1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับ วีแกน แอธเลติก
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา, ดาวิด ลุยซ์, ไรอัน เบอร์ทรานด์, รามิเรส, ฆวน มาตา, ออสการ์, จอน โอบี มิเกล, เอเดน ฮาซาร์ด, เดมบา บา
แมนฯ ซิตี : คอสเทล พานติลิมอน, แว็งซ็องต์ ปาโบล ซาบาเลตา, กาแอล กลิชี, มาติยา นาสตาซิช, เจมส์ มิลเนอร์, ซาเมียร์ นาสรี, แกเร็ธ แบร์รี, ยายา ตูเร, เซร์คิโอ อเกวโร, คาร์ลอส เตเบซ
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ
เชลซี 1-2 แมนฯ ซิตี
เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 4 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี ทักทายก่อน ยายา ตูเร ฝ่าแนวรับคู่แข่งก่อนไหลมาทางกรอบโทษด้านซ้าย เซร์คิโอ อเกวโร ซัดมุมแคบเข้าหน้าต่าง ต่อมา 2 นาที “เรือใบสีฟ้า” เร่งเครื่องต่อ ยายา สะกิดเปลี่ยนทางลูกยิงไกลของ แกเร็ธ แบร์รี แฉลบ เซร์คิโอ อเกวโร ทว่า ปีเตอร์ เช็ก พุ่งปัดทันท่วงที
แม้ถูกบดอยู่นาน เชลซี หวิดขึ้นนำนาที 24 เอเดน ฮาซาร์ด วอลเลย์สวนจังหวะเก็บตกหลังแนวรับคู่แข่งสกัดลูกเปิดฟรีคิกฝั่งซ้าย บอลกระดอนพื้นกำลังจะเข้าประตู แว็งซ็องต์ คอมปานี สกัดบนเส้น ต่อมา ทั้งคู่เปิดเกมแลกกันอย่างสนุก เข้าสู่นาที 35 กองเชียร์ แมนฯ ซิตี ได้เฮ ยายา ตูเร ลุยมาถึงหน้ากรอบโทษด้านขวา แล้วหักเข้ากลาง เซร์คิโอ อเกวโร เบิ้ลสั้นให้ ซาเมียร์ นาสรี ทะลุมาตรงกลาง แล้วแประยะเผาขนตุงตาข่าย
รูปเกมยังคงสูสี จนถึงนาที 40 ซิตี น่าได้ลูก 2 เจมส์ มิลเนอร์ เก็บตกจังหวะชุลมุนบริเวณจุดโทษก่อนซัดติด คาร์ลอส เตเบซ เด้งมาเข้ามือ ปีเตอร์ เช็ก ต่อมา รองจ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก บุกได้น้ำได้เนื้อกว่า จนเกือบทิ้งห่างนาที 45+2 เจมส์ มิลเนอร์ ลากเดี่ยวเข้ามาทางกรอบโทษด้านซ้าย แล้วยิงติดมือ เช็ก ก่อน คอมปานี ตามซ้ำทางเสาสองไม่ตรงกรอบ จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี นำ 1-0
ครึ่งหลังเปิดฉากเพียง 2 นาที สาวก “เดอะ ซิตีเซ็นส์” ได้เฮอีกครั้ง แกเร็ธ แบร์รี บรรจงหยอดจากหน้ากรอบโทษด้านขวามาทางเสาไกล เซร์คิโอ อเกวโร โหม่งเล่นทางย้อนศรไม่มีเหลือ หลังถูกทิ้งห่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เปิดโหมดลุยแหลก แต่ทำได้เพียงผ่านบอลไปมาหน้าพื้นที่อันตรายเท่านั้น
เข้าสู่นาที 66 แฟนบอล “เดอะ บลูส์” เริ่มมีความหวัง ดาวิด ลุยซ์ ทิ้งบอลยาวจากแดนตัวเอง แว็งซ็องต์ คอมปานี โหม่งสกัดพลาด มาเข้าทาง เดมบา บา ลอยตัวตวัดยิงบริเวณกรอบโทษด้านซ้ายเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม ต่อมา 3 นาที ยักษ์ใหญ่กรุงลอนดอน ทำเสียว เอเดน ฮาซาร์ด ไหลบอลสั้นเกินไป ทว่า มาติยา นาสตาซิช สไลด์พลาดเข้าทาง มาตา ก่อน คอสเทล พานติลิมอน มาคว้าบอลจากเท้า
เกมดำเนินมาถึงนาที 81 “เอล กุน” รอดจากการถูกไล่ออก หลังกระแทกใส่ ดาวิด ลุยซ์ ทางด้านหลัง พร้อมย่ำเท้าคู่ใส่ ปราการหลังบราซิเลียน ทว่า ผู้ตัดสินไม่ลงโทษแต่อย่างใด ต่อมา ทั้งคู่ผลัดกันรุกและรับ แต่ไม่มีสกอร์เพิ่ม ครบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี ชนะ 2-1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับ วีแกน แอธเลติก
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา, ดาวิด ลุยซ์, ไรอัน เบอร์ทรานด์, รามิเรส, ฆวน มาตา, ออสการ์, จอน โอบี มิเกล, เอเดน ฮาซาร์ด, เดมบา บา
แมนฯ ซิตี : คอสเทล พานติลิมอน, แว็งซ็องต์ ปาโบล ซาบาเลตา, กาแอล กลิชี, มาติยา นาสตาซิช, เจมส์ มิลเนอร์, ซาเมียร์ นาสรี, แกเร็ธ แบร์รี, ยายา ตูเร, เซร์คิโอ อเกวโร, คาร์ลอส เตเบซ
