xs
xsm
sm
md
lg

นักกอล์ฟจำไว้….ต่อไปจะไม่กินเค็ม!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“กูก็จ่ายทุกทีนี่หว่า…ทำไมไอ้หมอมันว่ากูเค็มวะ!”

“เสี่ยโป้” พ่อเลี้ยงใจกว้างดั่งมหาสมุทร ของก๊วนเราบ่น…(น้ำเสียงกึ่งน้อยใจกึ่งเคืองนิดๆ)… ขณะกำลังตักน้ำปลาพริก เต็มช้อนเล็ก ราดไปบนไข่ดาวที่โปะอยู่บนข้าวกะเพราหมู

“เปล่าครับเฮีย!... ผมหมายถึง… อยากให้เฮียลดกินเค็มลงหน่อย กลัวเฮียจะเป็นโรคไตน่ะครับ”

เพื่อนักกอล์ฟทราบไหมครับว่า เกลือโซเดียมส่วนเกินในอาหาร ที่เค็มเกินไป เป็นเพชฌฆาตเงียบ! ทำลายไต พบว่าปัจจุบันคนไทยเป็นโรคไตเกือบ 8 ล้านคน กระทรวงสาธารณะสุขร่วมกับราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย จัดงานส่งเสริม วันไตโลก “ลดเค็มครึ่งหนึ่ง” พร้อมกันทั่วประเทศ 11-17 มีนาคม ที่ผ่านมา เน้นให้ลดกินเค็มลงครึ่งหนึ่ง โดยลดการเติมเครื่องปรุงรสเค็ม ในอาหารให้น้อยลงกว่าที่เคยใช้ โดยลดลงให้ได้ร้อยละ 50

สาเหตุใหญ่ที่สุดของโรคไตเสื่อม ในคนไทยเรา ร้อยละ 60 เกิดจากเบาหวาน และความดันโลหิตสูง โดยโรคนี้มีผู้ป่วยรวมกันเกือบ 15 ล้านคน จากข้อมูลล่าสุด คนไทยเป็นโรคไตประมาณ 8 ล้านคน และป่วยเพิ่มขึ้นปีละกว่า 7,800 ราย

หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเร่งด่วน จะเกิดโรคแทรกซ้อนถึงฃั้นเสียชีวิต หรือต้องฟอกไตยืดชีวิต หรือรอการเปลี่ยนไตใหม่ โดยมีผู้ป่วยที่ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายประมาณ 40,000 ราย ซึ่งต้องผ่าตัดเปลี่ยนไตใหม่ หรือที่วงการแพทย์เรียกว่า การปลูกถ่ายไต ซึ่งมีขั้นตอนในการรักษาที่ยุ่งยาก และเสียค่าใช้จ่ายสูง ปีละประมาณ 2 แสนบาทต่อคน แต่ต้องรอไตจากผู้บริจาคไตด้วย ดังนั้นในปี 2555 จึงมีผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไต เพียง 4,000 ราย เท่านั้น

ร่างกายได้รับโซเดียม จากอาหารที่บริโภคร้อยละ 90 – 95 รวมทั้งเครื่องปรุงรส และอาหารที่มีส่วนประกอบของโซเดียม เช่น ผงชูรส ผงปรุงรส ผงฟู โดยค่ามาตรฐานใน 1 วัน ร่างกายต้องการไม่เกิน 2,000 มิลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับเกลือ 1 ช้อนชาต่อวัน แต่จากการสำรวจครั้งล่าสุดพบว่า คนไทยบริโภคเกลือหรือโซเดียมเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด ถึง 2 เท่า

เมื่อร่างกายมีโซเดียมคั่ง จะมีการดึงน้ำไว้ในร่างกาย ซึ่งจะเพิ่มแรงดันในหลอดเลือดให้สูงขึ้น ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้น และจะเกิดปัญหากับหลอดเลือด ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่ไปเลี้ยงอวัยวะทั่วร่างกาย ให้ปรับตัวหนาและแข็งตามมา โดยเฉพาะที่ไตจะมีผลกระทบมาก เนื่องจากมีเส้นเลือดฝอยเล็กๆมาเลี้ยงเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นกว่าปกติ จึงเป็น เพชฌฆาตเงียบ ที่คร่าชีวิตคน “กินเค็ม” นอกจากนี้ยังขอให้ลด การบริโภคเบเกอรี ขนมปัง ขนมเค้ก ซึ่งมีผงฟูเป็นส่วนผสมด้วย

“น่ากลัวไหมครับเฮียโป๊ จำไว้นะ…ต่อไปอย่ากินเค็ม!”
กำลังโหลดความคิดเห็น