"บิ๊กอ๊อด" พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ทำใจชวดเจ้าเหรียญทองซีเกมส์อีกสมัย จากการชิงชัยทั้งหมด 33 ชนิดกีฬา 460 เหรียญทองหลังจากมีจำนวนกีฬาพื้นบ้านลงชิงชัยเป็นจำนวนมาก พร้อมกับเป็นห่วงกีฬาฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดซีเกมส์มากที่สุด ย้ำต้องคว้าเหรียญทองมาให้ได้
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่พม่า จะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 11-22 ธ.ค.นั้นล่าสุด ได้ข้อสรุปที่แน่นอนแล้วว่าเจ้าภาพจะกำหนดจัดชิงชัยรวมทั้งสิ้น 33 ชนิดกีฬา แบ่งเป็นกีฬาบังคับ 2 ชนิด คือ กรีฑาและว่ายน้ำ กีฬาที่มีการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์และเอเชี่ยนเกมส์ 24 ชนิด คือ บิลเลียด-สนุกเกอร์, เรือแคนู, เรือกรรเชียง, จักรยาน, ขี่ม้า, ฟุตบอล-ฟุตซอล, ตะกร้อ, บาสเกตบอล, เทเบิลเทนนิส, เรือใบ-วินด์เซิร์ฟ, แบดมินตัน, ยิงปืน, มวยปล้ำ, ยิงธนู, เทควันโด, มวยสากล, วอลเลย์บอล, ยกน้ำหนัก, วูซู, ยูโด, กอล์ฟ, ฮอกกี้ และกีฬาอื่นๆ รวมถึงกีฬาประจำชาติ หรือกีฬาพื้นบ้านอีก 9 ชนิด คือ มวย (มวยไทย), เรือยาวประเพณี, ปันจักสีลัต, เปตอง, คาราเต้-โด, เคมโป, โววีนัม, เพาะกาย, หมากรุกสากล และชินลอน (กีฬาตะกร้อประจำชาติพม่า รวมอยู่กับ ตะกร้อ) ชิงชัย 460 เหรียญทอง
โดย "บิ๊กอ๊อด" พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า "ตามข้อมูลการแข่งขันดังกล่าวนี้ กีฬาที่ไม่มีในการแข่งขันโอลิมปิกและเอเชี่ยนเกมส์ 9 ชนิดกีฬา คิดเป็นเหรียญทอง 141 เหรียญทอง หรือ 31 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเหรียญทองทั้งหมด ซึ่งนักกีฬาไทยมีโอกาสได้รับเหรียญทองจากกีฬาเหล่านี้ค่อนข้างน้อย ส่วนความคาดหวังเหรียญทองทั้งหมดนั้นคาดว่ากีฬาสากลใกล้เคียงกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ส่วนโอกาสที่ไทยจะเป็นเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 27 คงจะเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เนื่องจากกีฬาพื้นบ้านที่นักกีฬาไทยไม่ค่อยถนัด และบางชนิดไทยไม่ส่งแข่งขัน มีเหรียญทองค่อนมากถึง 31 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากไม่สามารถทำเหรียญทองจากกีฬาเหล่านี้ก็คงเป็นเรื่องที่ยากในการจะเป็นเจ้าซีเกมส์ ครั้งที่ 27
"ขณะนี้นักกีฬาไทยที่เตรียมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ได้เริ่มเก็บตัวฝึกซ้อมแล้ว ซึ่งในช่วงเวลา 8 เดือนจากนี้ไปนักกีฬาทุกคนและทุกสมาคมกีฬาที่เข้าแข่งขันจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะคว้าเหรียญทองให้ได้มากที่สุด ส่วนฟุตบอลที่เคยคว้าเหรียญทองมาก่อนหน้านี้ 8 สมัยซ้อน แต่ตกรอบแรกในซีเกมส์ 2 ครั้งหลังสุดนั้น ในเมื่อฟุตบอลเป็นกีฬาความหวังสูงสุดของคนไทย ซึ่งจะต้องทำผลงานให้ดีที่สุด คือการเข้าชิงชนะเลิศเพื่อคว้าเหรียญทองมาให้ได้ ซึ่งการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศก็มีผลต่อการเตรียมทีม จึงต้องให้เวลากับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยอีกสักระยะหนึ่ง แต่ยังเชื่อมั่นว่าสมาคมฟุตบอลฯ ก็คงไม่ต้องการให้ทีมลูกหนังไทยตกรอบแรกซีเกมส์ 3 ครั้งติดต่อกันแน่นอน ยอมรับว่าเป็นห่วงกีฬาฟุตบอลมากที่สุด และไม่อยากให้คนดูผิดหวัง"