เอเยนซี - รีล มาดริด แชมป์ยุโรปสูงสุด 9 สมัยเตรียมกรีฑาทัพเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยความฮึกเหิม หลังคว้าชัยศึก “เอล กลาซิโก” 2 นัดซ้อน ภายใต้ข้อแม้จะต้องยิงประตูให้ได้เกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง วันอังคารที่ 5 มีนาคม 2556 เพราะเสียเปรียบเล็กน้อยจากการโดนอเวย์โกล์นัดแรกมาด้วยสกอร์ 1-1 แต่ไฮไลต์ก็คือการกลับมาถิ่นเก่า โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ คริสเตียโน โรนัลโด แข้งค่าตัวสูงสุดในโลก
เกมนี้กล้องทุกตัวคงแพลนไปรอบๆ สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อดูปฎิกิริยาสาวก “เรด เดวิลส์” เกี่ยวกับการต้อนรับ โรนัลโด จนถึงวินาทีที่ปีกทีมชาติโปรตุเกสเดินลงสนาม แม้จะเป็นภายใต้สีเสื้อ รีล มาดริด ทว่าสิ่งที่แข้งค่าตัว 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,680 ล้านบาท) ฝากเอาไว้ตลอดระยะเวลา 6 ปีก่อนย้ายออกไปเมื่อปี 2009 ถือว่ายังอยู่ในความทรงจำ
อย่างไรก็ตามหน้าที่ต้องมาก่อน เพราะ รีล มาดริด หวังคว้าแชมป์ยุโรป หลังห่างหายมาตั้งแต่ปี 2002 โรนัลโด จึงออกมาประกาศลั่นยิงประตู แมนฯยู อีกครั้ง “จะต้องเป็นความรู้สึกที่เร้าใจอย่างยิ่ง ถ้าหากผมยิงประตู แมนฯยู ตอนนี้คงบอกไม่ได้ว่าจะมีปฎิกิริยาอย่างไรหลังจากนั้น แต่ทุกอย่างถือเป็นสัญชาตญาณและตัวเองก็ชอบสถานการณ์เช่นนี้ ผมแน่ใจว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างดี หลังจากใช้เวลาอยู่ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลายปีและมีความสัมพันธ์อันดี มั่นใจได้เลยว่าจะต้องได้รับการปรบมือและถือเป็นช่วงเวลาที่สวยงามอย่างยิ่ง”
นัดแรกที่ ซานติอาโก เบร์นาบิว โรนัลโด ก็โหม่งเซฟ รีล มาดริด ให้รอดพ้นจากความปราชัย โดยถือว่าฟอร์มกำลังเข้าฝักเพิ่งซัดเบิ้ลศึก โคปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง บุกถล่ม บาร์เซโลนา 3-1 คา คัมป์ นู พร้อมผ่านเข้าชิงได้สำเร็จ ส่วนเกม ลา ลีกา สเปน นัดล่าสุดที่เปิดบ้านย้ำแค้น บาร์ซ่า 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 2 มีนาคมได้พักก่อนลงมายืดเส้นยืดสายในฐานะตัวสำรอง เพราะเป้าหมายของ "ราชันชุดขาว" อยู่แค่บอลถ้วย 2 รายการ เนื่องจากในลีกตามหลังถึง 13 แต้ม
สำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู รีล มาดริด จะใช้ ดิเอโก โลเปซ ที่ดึงมาจาก เซบีญา เมื่อช่วงตลาดเปิดเดือนมกราคม เพราะ อีเคร์ คาซิยาส ยังไม่หายเจ็บจากกระดูกข้อมือแตก ขณะที่แนวรุกอย่าง กอนซาโล ฮิกัวอิน, โรนัลโด, อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล และ ซามี เคดิรา ที่ได้พักในเกม ลา ลีกา สเปน กับ บาร์ซา จะคืนตัวจริงทั้งหมด เรียกได้ว่ายกกันมาแบบเต็มอัตราศึกเลยทีเดียว
ขณะที่ โชเซ มูรินโญ ก็จะมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในฐานะโค้ชสโมสรต่างชาติเป็นหนที่ 6 ครั้งแรกคือเมื่อเดือนมีนาคมปี 2004 ที่พา ปอร์โต ทำแสบเขี่ย แมนฯยู ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายจากประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ คอสตินโญ ก่อนที่จากนั้น 3 เดือนจะก้าวไปคว้าแชมป์ยุโรปได้สำเร็จ โดยถือเป็น 1 ใน 3 กุนซือที่คว้าแชมป์รายการนี้กับ 2 สโมสรที่แตกต่างกันอีกทีมก็คือ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งก็จะได้พบกับเพื่อนเก่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ว่ากันว่าจะมาเป็นทายาททันทีที่สละเก้าอี้นายใหญ่ “ผีแดง”
ส่วนเจ้าบ้าน แมนฯยูไนเต็ด ที่กำลังลุ้นคว้าทริปเปิลแชมป์ต่อจากปี 1999 สถานการณ์ภายในลีกทิ้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี 15 แต้มก่อนที่ "แชมป์เก่า" จะไปเยือน แอสตัน วิลลา คืนวันจันทร์ที่ 4 มีนาคมนี้ ด้าน เอฟเอ คัพ ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายพบกับ เชลซี และถ้วยยุโรปที่ เซอร์ อเล็กซ์ หมายมั่นปั้นมือจะคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ของตนเองและสมัยที่ 4 ของทีมให้ได้ หลังจากก่อนหน้านี้วืดในการเข้าชิงปี 2009 และ 2011 ด้วยการเสียท่าให้ บาร์เซโลนา
เฟอร์กี กล่าวว่า “การชนะ รีล มาดริด ที่สนามของเราจะถือเป็นการก้าวไปข้างหน้าครั้งสำคัญ ซึ่งแน่นอนจะส่งให้เรามีโอกาสดีมากในการคว้าแชมป์อีกครั้ง” อย่างไรก็ตามเจอกัน2 ครั้งหลังสุดรอบ 8 ทีมสุดท้ายเริ่มจากฤดูกาล 2002-03 แมนฯยู เปิดรังชนะ 3-2 แต่ตกรอบด้วยประตูรวม 5-6 และย้อนไปปี 1999-2000 แพ้คาบ้าน 2-3 พร้อมร่วงไปด้วยสกอร์นี้
ความพร้อมของ แมนฯยู ต้องลุ้นว่าจะได้ ฟิล โจนส์ ตัวตัดเกมสารพัดประโยชน์ที่ช่วยเกมรับได้อย่างไร้ที่ติในนัดแรกหายเจ็บลงช่วย ไมเคิล คาร์ริค ไล่บอลได้หรือไม่ ส่วนตำแหน่งอื่นพร้อมเต็มที่โดยเฉพาะคู่หน้า เวย์น รูนีย์ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี รวมถึง ไรอัน กิ๊กส์ ปีกวัย 39 ปีที่น่าจะได้ลงเล่นนัดที่ 1,000 หลังได้พักเกมลีกที่เปิดบ้านเอาชนะ นอริช ซิตี 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา