คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
วอชิงตัน เรดสกินส์ ปิดฉากฤดูกาล 2012/13 ในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทว่า สื่อมะกันยังคงเล่นประเด็นการตกรอบไวลด์การ์ดของ “อินเดียนแดง” ไม่เว้นแต่ละวัน บ้างพุ่งเป้าไปที่การตัดสินใจของหัวหน้าโค้ช ไมค์ ชานาแฮน บ้างก็ตำหนิ โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด ที่โกหกว่าฟิตพอลงสนาม ซึ่งสุดท้ายก็ต้องเขยกออกจากเกมช่วงท้าย
ใครที่เป็นแฟนเรดสกินส์ และได้ชมเกมถ่ายทอดสดคงรู้สึกอึดอัดและนั่งกันไม่ติด แม้สกอร์นำ 14-0 ตั้งแต่ควอเตอร์แรกจากการขว้างไป 2 ทัชดาวน์ของ กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด ทว่า หลังจากนั้นช่วง 2 ควอเตอร์เศษ ควอเตอร์แบ็ก “นัมเบอร์ ทูว์ ดราฟท์” แสดงอาการเจ็บซ้ำที่เข่าข้างขวา วิ่งก็ไม่ได้ ขว้างก็ไม่แม่น ต้องออกไปเช็คอาการเป็นระยะ จึงไม่น่าแปลกใจที่เกมบุก “อินเดียนแดง” ได้ระยะเพียง 41 หลา ท้ายที่สุด ทีมรับก็ค้ำยัน รัสเซลล์ วิลสัน จอมทัพรุคกี้และ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส ไม่อยู่โดนรันคืน 24 แต้ม “เหยี่ยวทะเล” ตีตั๋วเข้าสู่รอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ สำเร็จ
ส่วน เรดสกินส์ การเข้าเพลย์ออฟหนแรกตั้งแต่ปี 2007 แล้วต้องมาเสีย “อาร์จีทรี” ให้กับอาการบาดเจ็บเอ็นเข่าไขว้ด้านหน้าและเอ็นเข่าด้านข้าง ซึ่งต้องเข้ารับการผ่าตัด ไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบในฤดูกาล 2013/14 หรือปีต่อๆ ไปมากน้อยแค่ไหน ชั่วโมงนี้หากย้อนเวลากลับไปได้ สาวก “อินเดียนแดง” บางท่านอาจอยากให้ ดัลลัส คาวบอยส์ คู่ปรับตลอดกาลเข้ามาแทน เพื่อที่ควอเตอร์แบ็กแห่งแฟรนไชส์อย่าง กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด จะได้พักประคบประหงมแผลที่เข่าให้สมานกลับมาได้เร็วขึ้น ดังคำที่ ดร.เจมส์ แอนดรูว์ส แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเคยแนะนำ ชานาแฮน ให้เลือกพักผู้เล่นจอมห้าวรายนี้สัก 1-2 สัปดาห์ตั้งแต่ช่วงปลายเรคกูลา ซีซีน
ซึ่งใครได้ดูเกมจะสังเกตเห็น ดร.แอนดรูว์ส เดินมากระซิบข้างหู ชานาแฮน เรื่อยๆ แต่เฮดโค้ชวัย 60 ปี ยังตัดสินใจให้ “อาร์จีทรี” ปักหลักนำทัพต่อ ถึงแม้ ชานาแฮน เผยว่าผู้เล่นยืนยันพร้อมลงสนาม แต่ประสบการณ์คนทำงานในลีกอาชีพมาเกือบ 30 ปี ย่อมต้องประเมินสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีกว่านี้ ผู้เขียนไม่ได้บอกว่าถ้าเลือกส่ง เคิร์ก เคาซินส์ ลงมาแล้ว เรดสกินส์ จะเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าเลือกให้โอกาสควอเตอร์แบ็กรุคกี้อีกคนลงมา เรดสกินส์ คงไม่ต้องหลังพิงเชือกให้ ซีฮอว์คส ถลุงใส่อยู่ฝ่ายเดียว ในเมื่อ เคาซินส์ พิสูจน์ตัวเองจากการลงมาเป็นสำรองนำต้นสังกัดต่อเวลาเฉือน บัลติมอร์ เรฟเวนส์ และนำทัพขว้าง 2 สกอร์ใส่ คลีฟแลนด์ บราวน์ส จนคว้าชัยมาแล้ว
ที่สำคัญ เคาซินส์ คงไม่ถึงกับต้องตื่นสนามในบรรยากาศเพลย์ออฟอะไรมากมาย ในเมื่อขณะนั้น อัลเฟร็ด มอร์ริส ก็ยังวิ่งได้เห็นผล ซึ่งหาก เคาซินส์ มีเวลาลงสนามมากกว่าช่วง 5 นาทีสุดท้าย มิติเกมบุกของเรดสกินส์ คงไม่มีอยู่แบบเดียว จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ ชานาแฮน ต้องโดนติติงก็ในเมื่อการตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับโค้ชใหญ่ในสนาม ถึงแม้พอทราบดีว่ามีแรงกดดันจาก แดน สนายเดอร์ เจ้าของทีมอยู่ไม่น้อยก็ตาม
ด้าน “อาร์จีทรี” ก็เข้าใจในอะดรีนาลีนที่พรั่งพรูกับเพลย์ออฟเกมแรกในชีวิต ทั้งยังชื่นชมหัวจิตหัวใจกับความต้องการแสดงความเป็นผู้นำและความเป็นนักสู้ แต่ผู้เล่นวัย 22 ปี ยังต้องเรียนรู้ความเป็นมืออาชีพกันอีกเยอะ ถ้าเชื่อฟังผลวินิจฉัยอาการบาดเจ็บที่ ดร.แอนดรูว์ส เตือนแล้วเตือนอีก เรดสกินส์ อาจไม่ได้เข้าเพลย์ออฟในฐานะแชมป์กลุ่มตะวันออก ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1999 แต่อย่าลืมว่าอนาคตของจอมทัพวัย 22 ปี มันยังอีกยาวไกล การบาดเจ็บตั้งแต่ขวบปีแรก ยิ่งมีสไตล์การเล่นแบบนี้อยู่แล้วด้วย เกรงว่า จะไม่อยู่โยง อย่าลืมว่าอาการบาดเจ็บเข่า ถ้ารักษาไม่หายขาดมันจะเรื้อรัง เราต้องเห็นนักกีฬาอาชีพฝีมือดีหลายคนจบเห่เพราะเจ็บเข่ามานักต่อนัก นี่อาจประเมินได้ว่าเป็นการเสี่ยงที่ได้ไม่คุ้มเสียเอาเสียเลย
วอชิงตัน เรดสกินส์ ปิดฉากฤดูกาล 2012/13 ในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทว่า สื่อมะกันยังคงเล่นประเด็นการตกรอบไวลด์การ์ดของ “อินเดียนแดง” ไม่เว้นแต่ละวัน บ้างพุ่งเป้าไปที่การตัดสินใจของหัวหน้าโค้ช ไมค์ ชานาแฮน บ้างก็ตำหนิ โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด ที่โกหกว่าฟิตพอลงสนาม ซึ่งสุดท้ายก็ต้องเขยกออกจากเกมช่วงท้าย
ใครที่เป็นแฟนเรดสกินส์ และได้ชมเกมถ่ายทอดสดคงรู้สึกอึดอัดและนั่งกันไม่ติด แม้สกอร์นำ 14-0 ตั้งแต่ควอเตอร์แรกจากการขว้างไป 2 ทัชดาวน์ของ กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด ทว่า หลังจากนั้นช่วง 2 ควอเตอร์เศษ ควอเตอร์แบ็ก “นัมเบอร์ ทูว์ ดราฟท์” แสดงอาการเจ็บซ้ำที่เข่าข้างขวา วิ่งก็ไม่ได้ ขว้างก็ไม่แม่น ต้องออกไปเช็คอาการเป็นระยะ จึงไม่น่าแปลกใจที่เกมบุก “อินเดียนแดง” ได้ระยะเพียง 41 หลา ท้ายที่สุด ทีมรับก็ค้ำยัน รัสเซลล์ วิลสัน จอมทัพรุคกี้และ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส ไม่อยู่โดนรันคืน 24 แต้ม “เหยี่ยวทะเล” ตีตั๋วเข้าสู่รอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ สำเร็จ
ส่วน เรดสกินส์ การเข้าเพลย์ออฟหนแรกตั้งแต่ปี 2007 แล้วต้องมาเสีย “อาร์จีทรี” ให้กับอาการบาดเจ็บเอ็นเข่าไขว้ด้านหน้าและเอ็นเข่าด้านข้าง ซึ่งต้องเข้ารับการผ่าตัด ไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบในฤดูกาล 2013/14 หรือปีต่อๆ ไปมากน้อยแค่ไหน ชั่วโมงนี้หากย้อนเวลากลับไปได้ สาวก “อินเดียนแดง” บางท่านอาจอยากให้ ดัลลัส คาวบอยส์ คู่ปรับตลอดกาลเข้ามาแทน เพื่อที่ควอเตอร์แบ็กแห่งแฟรนไชส์อย่าง กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด จะได้พักประคบประหงมแผลที่เข่าให้สมานกลับมาได้เร็วขึ้น ดังคำที่ ดร.เจมส์ แอนดรูว์ส แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเคยแนะนำ ชานาแฮน ให้เลือกพักผู้เล่นจอมห้าวรายนี้สัก 1-2 สัปดาห์ตั้งแต่ช่วงปลายเรคกูลา ซีซีน
ซึ่งใครได้ดูเกมจะสังเกตเห็น ดร.แอนดรูว์ส เดินมากระซิบข้างหู ชานาแฮน เรื่อยๆ แต่เฮดโค้ชวัย 60 ปี ยังตัดสินใจให้ “อาร์จีทรี” ปักหลักนำทัพต่อ ถึงแม้ ชานาแฮน เผยว่าผู้เล่นยืนยันพร้อมลงสนาม แต่ประสบการณ์คนทำงานในลีกอาชีพมาเกือบ 30 ปี ย่อมต้องประเมินสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีกว่านี้ ผู้เขียนไม่ได้บอกว่าถ้าเลือกส่ง เคิร์ก เคาซินส์ ลงมาแล้ว เรดสกินส์ จะเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าเลือกให้โอกาสควอเตอร์แบ็กรุคกี้อีกคนลงมา เรดสกินส์ คงไม่ต้องหลังพิงเชือกให้ ซีฮอว์คส ถลุงใส่อยู่ฝ่ายเดียว ในเมื่อ เคาซินส์ พิสูจน์ตัวเองจากการลงมาเป็นสำรองนำต้นสังกัดต่อเวลาเฉือน บัลติมอร์ เรฟเวนส์ และนำทัพขว้าง 2 สกอร์ใส่ คลีฟแลนด์ บราวน์ส จนคว้าชัยมาแล้ว
ที่สำคัญ เคาซินส์ คงไม่ถึงกับต้องตื่นสนามในบรรยากาศเพลย์ออฟอะไรมากมาย ในเมื่อขณะนั้น อัลเฟร็ด มอร์ริส ก็ยังวิ่งได้เห็นผล ซึ่งหาก เคาซินส์ มีเวลาลงสนามมากกว่าช่วง 5 นาทีสุดท้าย มิติเกมบุกของเรดสกินส์ คงไม่มีอยู่แบบเดียว จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ ชานาแฮน ต้องโดนติติงก็ในเมื่อการตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับโค้ชใหญ่ในสนาม ถึงแม้พอทราบดีว่ามีแรงกดดันจาก แดน สนายเดอร์ เจ้าของทีมอยู่ไม่น้อยก็ตาม
ด้าน “อาร์จีทรี” ก็เข้าใจในอะดรีนาลีนที่พรั่งพรูกับเพลย์ออฟเกมแรกในชีวิต ทั้งยังชื่นชมหัวจิตหัวใจกับความต้องการแสดงความเป็นผู้นำและความเป็นนักสู้ แต่ผู้เล่นวัย 22 ปี ยังต้องเรียนรู้ความเป็นมืออาชีพกันอีกเยอะ ถ้าเชื่อฟังผลวินิจฉัยอาการบาดเจ็บที่ ดร.แอนดรูว์ส เตือนแล้วเตือนอีก เรดสกินส์ อาจไม่ได้เข้าเพลย์ออฟในฐานะแชมป์กลุ่มตะวันออก ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1999 แต่อย่าลืมว่าอนาคตของจอมทัพวัย 22 ปี มันยังอีกยาวไกล การบาดเจ็บตั้งแต่ขวบปีแรก ยิ่งมีสไตล์การเล่นแบบนี้อยู่แล้วด้วย เกรงว่า จะไม่อยู่โยง อย่าลืมว่าอาการบาดเจ็บเข่า ถ้ารักษาไม่หายขาดมันจะเรื้อรัง เราต้องเห็นนักกีฬาอาชีพฝีมือดีหลายคนจบเห่เพราะเจ็บเข่ามานักต่อนัก นี่อาจประเมินได้ว่าเป็นการเสี่ยงที่ได้ไม่คุ้มเสียเอาเสียเลย