ไนกี้ ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลก เผยโฉม “ไนกี้ จีเอส 2” สุดยอดนวัตกรรมแห่งรองเท้าฟุตบอลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและงานดีไซน์ ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดและเร็วที่สุดเท่าที่ไนกี้เคยผลิตมา ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกับเทคโนโลยี ออล คอนดิชันส์ คอนโทรล ที่เพิ่มสมรรถนะการครองบอลในวันที่ฝนตกหรือแดดออก
ไนกี้ จีเอส 2 (Nike GS 2 ) เป็นสุดยอดนวัตกรรมรองเท้าฟุตบอลรุ่นที่สองจากคอลเลคชั่นรุ่น ไนกี้ จีเอส ที่มีคุณสมบัติที่โดดเด่นที่เน้นการดีไซน์ให้ตัวรองเท้ามีน้ำหนักเบาเพียง 160 กรัม ด้วยการนำวัสดุที่เหลือใช้ที่สามารถกลับมาใช้งานได้อีกมาผลิตร่วมกับวัสดุชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกับเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมบอลในสภาพสนามที่เปียกชื้นและแห้ง ด้วยการผสมผสานเทคโนยี ออล คอนดิชันส์ คอนโทรล ( All Conditions Control ) หรือ ACC ที่มีการพัฒนาวัสดุในส่วนบนของตัวรองเท้า เพื่อให้เกิดแรงเสียดทานในขณะที่รองเท้ากำลังสัมผัสกับลูกฟุตบอล
รองเท้าฟุตบอลรุ่น ไนกี้ จีเอส 2 เป็นการรวมเอาประสิทธิภาพและวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาผลิตรวมไว้ในรองเท้าคู่เดียวกัน โดยถือกำเนิดและผลิตเป็นครั้งแรกในประเทศอิตาลี โดยที่ส่วนประกอบรองเท้าด้านบนผลิตมาจากวัสดุที่เหลือใช้และวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ขณะที่ส่วนพื้นรองเท้าและปุ่มรองเท้าถูกผลิตจากเมล็ดละหุ่งและวัสดุเหลือใช้ ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ตัวรองเท้า ส่วนตัวบุด้านในตัวรองเท้าผลิตจากเมล็ดละหุ่ง 100% เช่นเดียวกับเชือกผูกรองเท้า และ ลิ้นรองเท้า ที่ผลิตจากวัสดุใช้แล้วถึง 70% ขณะที่รูปลักษณ์ด้านนอก ทีมออกแบบได้ดีไซน์ให้ตัวรองเท้ามีส่วนประกอบด้านบนเป็นสีขาวและดำ ตัดกับตัวพิมพ์หนาที่พิมพ์คำว่า All Conditions Control และ ACC
ไนกี้ จีเอส 2 เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะสนาม ด้วยการผสมผสานความแข็งแกร่งและความคล่องแคล่วปราดเปรียว ด้วยแผ่นพื้นรองเท้าที่ถูกผลิตจากส่วนผสมของเมล็ดละหุ่ง 97% และวัสดุ TPU ของวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ซึ่งส่งผลให้ตัวรองเท้ามีน้ำหนักเบากว่ารองเท้าฟุตบอลรุ่นอื่นๆถึง 15% นอกจากนี้ ทีมออกแบบยังได้ดีไซน์ให้ปุ่มรองเท้าสอดคล้องตามหลักกายวิภาคศาสตร์ เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วสำหรับการออกตัวในทุกทิศทางที่ช่วยตอบสนองและสร้างความมั่นใจในการก้าวเท้าทุกจังหวะของเกม โดยมีแกนเรียบๆทรงข้าวหลามตัด คอยเพิ่มความยืดหยุ่นและเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวให้คล่องแคล่วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ขณะเดียวกันมีการเพิ่มจุดสัมผัสและการควบคุมบอล ด้วยวัสดุสังเคราะห์ Kanga-Lite ที่ช่วยสร้างการสัมผัสบอลที่เบาสบายและเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมบอลในทุกสภาวะ โดยมีชิ้นส่วนสังเคราะห์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวบริเวณกลางเท้าและส่วนโค้งของเท้า ขณะที่ด้านในถูกบุด้วยวัสดุที่ผลิตจากเมล็ดละหุ่ง 100% เพื่อช่วยให้รองเท้ามีน้ำหนักเบา ปราศจากสารเคมี และกระชับเท้าในการสัมผัสลูกฟุตบอล
นอกจากนี้ยังเพิ่มความมั่นคงในการทรงตัวและช่วยพยุงเท้า ด้วยวัสดุชีวภาพที่ผลิตมาจากน้ำมันละหุ่งในส่วนส้นเท้า ที่ช่วยสร้างความสมดุลให้กับข้อเท้าและเพิ่มประสิทธิภาพการรองรับเท้าให้ยึดติดกับรองเท้าและเสริมความมั่นคงในการทรงตัวและช่วยการพยุงตัวได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับรองเท้าฟุตบอลรุ่น ไนกี้ จีเอส 2 จะถูกสวมใส่โดยนักฟุตบอลดาวรุ่งจากสโมสรชั้นนำในลีกยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ธีโอ วัลคอตต์, เอเดน ฮาซาร์ด, ราฮีม สเตอริ่ง, มาริโอ กอสต์, คริสเตียน อิริคสัน และ แอล ชาลาวี ซึ่งในประเทศไทยจะมีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ในราคา 9,900 บาท ที่ร้าน ไนกี้ สาขาสยามสแควร์, ร้านอารี ฟุตบอล คอนเซ็ปต์ สโตร์ และ ร้านนกแก้ว