xs
xsm
sm
md
lg

"ชุดขาว" 10 คนยันเสมอ 1-1 ถีบ "เรือ" ร่วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โรนัลโด โชว์ฟอร์มเด่นแม้ยิงไม่ได้
"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเชสเตอร์ ซิตี ตกรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน หลังเปิดบ้านทำได้แค่เสมอกับ รีล มาดริด ที่เหลือผู้เล่น 10 คน 1-1 ในแมตชี้ชะตาเมื่อคืนวันพุธที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ส่วน "ราชันชุดชาว" เข้ารอบเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่ม

ฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-1 รีล มาดริด

เกมชี้ชะตาโอกาสเขารอบของ แมนเชสเตอร์ ซิตี หลังผ่าน 4 เกมมีแค่ 2 แต้ม ที่สนาม เอติฮัด สเตเดียม ต้องการชัยชนะสถานเดียว เกมนี้ โรแบร์โต มันชินี ใช้ เอดิน เซโก และ เซร์คิโอ อากูเอโร ลงล่าตาข่ายพร้อมกัน ขณะที่ โชเซ มูรินโญ จัดเต็มสูบไม่แพ้กันมี คาริม เบนเซมา เป็นหอกเป้าและใช้ ลูกา โมดริช กับ คริสเตียโน โรนัลโด คอยทำเกม

ออกสตาร์ทเพียง 8 นาที "ชุดขาว" ทำเอาแฟนเจ้าถิ่นช็อกกันทั้งสนามเมื่อ อังเกล ดิ มาเรีย เปิดข้ามมาเสาสอง คาริม เบนเซมา สลัดหนี ไมคอน มาแปบอลเข้าซุกก้นตาข่ายเป็นประตูออกนำ 1-0 รีล มาดริด บุกต่อเนื่องเป็นชุด โรนัลโด เปิดจากซ้ายเข้าไปที่เสาแรก ซามี เคดิรา โฉบมาโขกเน้นๆ บอลลอยเข้าหน้าต่างแบบได้ลุ้น

นาที 14 โรนัลโด เจ้าเก่าหลุดกับดับล้ำหน้าไปกระกดหนี โจ ฮาร์ท บอลลอยกำลังจะเข้าประตู แต่ พาโบล ซาบาเลตา ตามมาสกัดจาดเส้นได้หวุดหวิด 10 นาทีถัดมา "เรือใบ" ได้โอกาสลุ้นครั้งแรกและเกือบตีเสมอได้ เซร์คิโอ อากูเอโร ปั้นโค้งกะให้เสียบใต้คานในจังหวะที่ อิเคร์ กาซึยาส ออกมาไกล ทว่านายทวารสเปนยังปัดทิ้งออกหลังได้ทัน

ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกม ซิตี เริ่มตั้งเกมตัวเองได้บ้าง และมีลุ้นอีกครั้งจากฟรีคิกของ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ บอลข้ามกำแพงได้แต่ก็เลี้ยวหลุดออกหลังเช่นกัน ช่วงที่เหลือเกมตกเป็นของ "เรือใบสีฟ้า" แต่ยังคลำประตูกันเพิ่มไม่ได้จบครึ่งแรก เป็น รีล มาดริด บุกมานำอยู่ 1-0 เดือดร้อนให้ มันชินี ต้องไปแก้เกมกันยกใหญ่

กลับมาลงสนามครึ่งหลัง เจ้าถิ่นปรับไปเล่นระบบ 4-5-1 ตามถนัดโดนส่ง ฆาบี การ์เซีย ลงมาคุมเกมตรงกลางแทนที่ของ โคลาลอฟ และเดินเครื่องบด รีล มาดริด อยู่ฝ่ายเดียว เข้าสู่นาที 60 เจ้าถิ่นต้องเติม คาร์ลอส เตเวซ ลงไปแทน นาสรี จากนั้นนาที 62 ซิตี น่าจะได้ประตูตีเสมอสุดๆ ไมคอน เปิดมาเสาสองให้ อากูเอโร ชาร์ต จ่อๆ แต่ กาซึยาส เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ

นาทีถัดมา โรนัลโด ลากบอลขึ้นมากลางสนามก่อนวางเท้ายิงเต็มๆ ด้วยขวา บอลพุ่งเข้ากลางประตู โจ ฮาร์ท รับกระฉอก เบนเซมา พยายามตามซ้ำแต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าก่อน จังหวะสำคัญของเกมมาเกิดขึ้นนาทีที่ 72 อัลบาโร อเบลัว ไปเบียด เชโก ล้มลงในเขตโทษกรรมการให้ใบเหลืองที่ 2 ไล่ออกจากสนามทันที และเป็น อากูเอโร ซัดไล่มาเป็น 1-1 สำเร็จ

ช่วงท้ายเกม แมนฯ ซิตี ไม่มีทางเลือกต้องเปิดเกมแลกเพื่อประตูชัยแต่ไม่สามารถเจาะประตูอาคันตุกะจากแดนกระทิงดุได้ จบ 90 นาที เสมอกัน 1-1 "เรือใบสีฟ้า" มี 3 แต้มจบอันดับบ๊วยของกลุ่มดี ตกรอบฟุตบอลยุโรปถ้วยใบใหญ่เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ "ราชันชุดขาว" มี 8 แต้มผ่านเข้าเข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่ม

ขณะที่ผลการแข่งขันในกลุ่ม บี "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล เปิดสนามเอาชนะ มงต์เปลลิเยร์ จากฝรั่งเศส 2-0 ได้ประตูจาก แจ็ค วิลเชียร์ ในนาที 49 และ ลูคัส โพดอลสกี นาที 63 เก็บเพิ่มเป็น10 แต้มจาก 5 เกม ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย พร้อมกับ ชาร์ลเก ต่อไป

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี : โจ ฮาร์ท, แวงซองต์ กอมปานี, พาโบล ซาบาเลตา, มาติยา นาสตาซิช, ไมคอน, ซาเมียร์ นาสรี, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, ดาบิด ซิลบา, ยายา ตูเร, เอดิน เซโก, เซร์คิโอ อากูเอโร
รีล มาดริด : อิเคร์ กาซึยาส, เปเป, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โคเอนเทรา, อัลบาโร อเบลัว, ซามี เคดิรา, คริสเตียโน โรนัลโด, ชาบี อลอนโซ, อังเกล ดิ มาเรีย, คาริม เบนเซมา, ลูกา โมดริช

สรุปผลการแข่งขันฟุตบอล ยูฟาแชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำวันพุธที่ 21 พ.ย. 2555

กลุ่มเอ
ปอร์โต (โปรตุเกส) 3-0 ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย)
[1-0 ลูโช กอนซาเลซ น.20, 2-0 เจา มูตินโญ น.67, 3-0 ซิลเวสเต วาเรลา น.85]

ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) 0-2 เปแอสเช (ฝรั่งเศส)
[0-1 เอเซเกล ลาเวซซี น.45, 0-2 เอเซเกล ลาเวซซี น.52]

กลุ่มบี
อาร์เซนอล (อังกฤษ) 2-0 มงต์เปลลิเยร์ (ฝรั่งเศส)
[1-0 แจ็ค วิลเชียร์ น.49, 2-0 ลูคัส โพดอลสกี น.63]

ชาลเก04 (เยอรมนี) 1-0 โอลิมเปียกอส (กรีซ)
[1-0 คริสเตียน ฟุคช์ส น.77]
 
กลุ่มซี
เซนิต เซนต์ ปีเตอร์lเบิร์ก (รัสเซีย) 2-2 มาลากา (สเปน)
[0-1 ดีเอโก บัวนานอตเต น.8, 0-2 เซบา เฟร์นันเดซ น.9, 1-2 แดนนี น.49, 2-2 วิคตอร์ ฟายซุลิน น.86]

อันเดอร์เลชท์ (เบลเยียม) 1-3 เอซี มิลาน (อิตาลี)

[0-1 สเตฟาน เอล ชาราวี น.47, 0-2 ฟิลลิปป์ แมกแซส น.71, 1-2 ทอม เดอ ซุตเตอร์ น.78, 1-3 อเลสซานเดร ปาโต น.90]

กลุ่มดี
อาแจ๊กซ์ (ฮอลแลนด์) 1-4 ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี)
[0-1 มาร์โก รอยซ์ น.8, 0-2 มาริโอ เกิร์ทเซ น.36, 0-3 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี น.41, 0-4 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี น.67, 1-4 แดนนี ฮอยเซน น.86]

แมนฯ ซิตี (อังกฤษ) 1-1 เรอัล มาดริด (สเปน)
[0-1 คาริม เบนเซมา น.10, 1-1 เซร์คิโอ อกูเอโร น.73(จุดโทษ)]
อลอนโซ ไล่ตามประกบ การ์เซีย
วิลเชียร์ กลับมาพา ปืนใหญ่ เข้ารอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น