คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์มันส์ๆ ในวงการหมัดมวย บ้านเราถึง 2 เรื่องด้วยกันนะครับ เริ่มจากเมื่อวันพฤหัสฯ ศึกยอดมวย (ในอดีต) สมรักษ์ คำสิงห์ ขึ้นสังเวียนในวัย 39 กะรัต พบกับ ยอดวันเผด็จ ผู้ครองฟ้า วัย 51 ปี พร้อมเดิมพันสูงเป็นประวัติการณ์ ปรากฏว่าทั้งคู่ขึ้นมาวาดลวดลายกันพอให้หายคิดถึงได้ 3 ยก "น้องบาส" ก็เอาศอกจิ้มหน้ารุ่นพี่เอาชนะแตกไป แต่เชื่อว่าแฟนๆ ก็คงพอได้เห็นว่าทั้งสองนั้นเชิงมวยขนาดไหน นี่ขนาดช้าลงไปเยอะ ใจสู้สมองสั่งแต่สังขารไม่เอา ยังมีลูกเตะซ้ายหนักๆ จาก ยอดวันเผด็จ ให้เห็น ส่วนผู้ชนะนั้นโชว์ทั้งศอกกลับ จระเข้ฟาดหาง หรือลูกดึงจังหวะหลบแข้งยังเนียนเหมือนเดิม แต่วัยที่ห่างกันมากก็ค่อนข้างมีผลกับการชกไฟต์นี้
ถัดมาวันอาทิตย์สายๆ คมพยัคฆ์ ซีพีเฟรชมาร์ท ก็ขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นไลต์ฟลายเวท 108 ปอนด์ของ สภามวยโลก พบกับแชมป์โลกคนเดิม เอเดรียน เฮอร์นันเดซ ที่เอาเข็มขัดมาทิ้งไว้ให้เมื่อปีที่แล้วที่ราบ 11 มาคราวนี้เราก็ไปป้องกันตำแหน่งถึงเม็กซิโกเลยทีเดียยว
ก่อนขึ้นเวทีทั้งคู่ก็ผ่านการชั่งน้ำหนักแบบสบายๆ พอขึ้นชกแล้วก็แลกกันสนุกเลยทีเดียว ทางแชมป์โลกชาวไทยโดน เฮอร์นันเดซ ดักฮุคขวาหนักๆ หลายหมัด แล้วก็แก้ไม่ตกซะด้วย แต่เราก็ตอบโต้ได้ด้วยหมัดดักขวาหนักๆ หลายหมัดด้วยกัน ดูแล้วจะเห็นเลยว่าทั้งสองฝ่ายก็อ่วมพอๆ กัน ทาง คมพยัคฆ์ ตาซ้ายปูดเกือบปิด ส่วนเจ้าถิ่นก็ดั้งจมูกแตก เรียกว่าบอบช้ำทั้งคู่
แต่พอขึ้นยก 6 ทางผู้ท้าชิงจังโก้ได้จังหวะอัปเปอร์คัตขวาเข้าเป้า 2-3 หมัด จากนั้นต่อเป็นชุดด้วยหมัดตัดลำตัว ทำเอาเราออกอาการจนได้จังหวะฮุคขวาเต็มเหนี่ยวเข้ากรามของนักชกไทยเรา ส่ง คมพยัคฆ์ ลงไปนอนฟังกรรมการนับ แม้จะสวมหัวใจสิงห์ลุกขึ้นมาได้และพยายามยกการ์ดให้กรรมการดูว่าพร้อมแล้ว แต่ขาสั่นเห็นๆ และพอลองสั่งให้เดินเข้าไปหาก็ยืนนิ่งไม่ตอบสนองเห็นท่าไม่ดีแน่เลยจับนักมวยเราแพ้ไปในยกนี้
ว่ากันจริงๆ ก็ไม่เหนือกว่าความคาดหมายเท่าไหร่นะครับ เพราะฟอร์มหลัง คมพยัคฆ์ ก็ไม่ได้สวยหรูแต่อย่างใด ไฟต์นี้แฟนมวยชาวไทยที่ดูการถ่ายทอดสดก็คงเห็นแล้วว่าเราแพ้จริงๆ ทั้งเชิงมวย การป้องกันตัว หรือการแก้เกมการชกต่างๆ เป็นรองหมด มีแต่ใจเท่านั้นที่สู้สุดฤทธิ์ แต่ก็ไม่พอนะครับ จากนี้ก็คงยากที่จะกลับมา ทั้งวัย ทั้งสังขาร ทั้งไฟในการที่จะกลับมาจะมีแค่ไหน แชมป์โลกสถาบันหลักชาวไทยตอนนี้เลยเหลืออยู่คนเดียว คือ เทพฤทธิ์ ศิษย์หมอเส็ง ก็ต้องตามดูกันต่อไปว่าจะป้องกันตำแหน่งไว้ได้อีกนานแค่ไหน และเมื่อไหร่เราจะมีแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยที่จะเป็นขวัญใจชาวไทยจริงๆ ชนิดขึ้นชกเมื่อไหร่ ชาวไทยรอติดตามเอาใจช่วย และพูดถึงการชกชนิดเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” อย่างแต่ก่อนอีก
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์มันส์ๆ ในวงการหมัดมวย บ้านเราถึง 2 เรื่องด้วยกันนะครับ เริ่มจากเมื่อวันพฤหัสฯ ศึกยอดมวย (ในอดีต) สมรักษ์ คำสิงห์ ขึ้นสังเวียนในวัย 39 กะรัต พบกับ ยอดวันเผด็จ ผู้ครองฟ้า วัย 51 ปี พร้อมเดิมพันสูงเป็นประวัติการณ์ ปรากฏว่าทั้งคู่ขึ้นมาวาดลวดลายกันพอให้หายคิดถึงได้ 3 ยก "น้องบาส" ก็เอาศอกจิ้มหน้ารุ่นพี่เอาชนะแตกไป แต่เชื่อว่าแฟนๆ ก็คงพอได้เห็นว่าทั้งสองนั้นเชิงมวยขนาดไหน นี่ขนาดช้าลงไปเยอะ ใจสู้สมองสั่งแต่สังขารไม่เอา ยังมีลูกเตะซ้ายหนักๆ จาก ยอดวันเผด็จ ให้เห็น ส่วนผู้ชนะนั้นโชว์ทั้งศอกกลับ จระเข้ฟาดหาง หรือลูกดึงจังหวะหลบแข้งยังเนียนเหมือนเดิม แต่วัยที่ห่างกันมากก็ค่อนข้างมีผลกับการชกไฟต์นี้
ถัดมาวันอาทิตย์สายๆ คมพยัคฆ์ ซีพีเฟรชมาร์ท ก็ขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นไลต์ฟลายเวท 108 ปอนด์ของ สภามวยโลก พบกับแชมป์โลกคนเดิม เอเดรียน เฮอร์นันเดซ ที่เอาเข็มขัดมาทิ้งไว้ให้เมื่อปีที่แล้วที่ราบ 11 มาคราวนี้เราก็ไปป้องกันตำแหน่งถึงเม็กซิโกเลยทีเดียยว
ก่อนขึ้นเวทีทั้งคู่ก็ผ่านการชั่งน้ำหนักแบบสบายๆ พอขึ้นชกแล้วก็แลกกันสนุกเลยทีเดียว ทางแชมป์โลกชาวไทยโดน เฮอร์นันเดซ ดักฮุคขวาหนักๆ หลายหมัด แล้วก็แก้ไม่ตกซะด้วย แต่เราก็ตอบโต้ได้ด้วยหมัดดักขวาหนักๆ หลายหมัดด้วยกัน ดูแล้วจะเห็นเลยว่าทั้งสองฝ่ายก็อ่วมพอๆ กัน ทาง คมพยัคฆ์ ตาซ้ายปูดเกือบปิด ส่วนเจ้าถิ่นก็ดั้งจมูกแตก เรียกว่าบอบช้ำทั้งคู่
แต่พอขึ้นยก 6 ทางผู้ท้าชิงจังโก้ได้จังหวะอัปเปอร์คัตขวาเข้าเป้า 2-3 หมัด จากนั้นต่อเป็นชุดด้วยหมัดตัดลำตัว ทำเอาเราออกอาการจนได้จังหวะฮุคขวาเต็มเหนี่ยวเข้ากรามของนักชกไทยเรา ส่ง คมพยัคฆ์ ลงไปนอนฟังกรรมการนับ แม้จะสวมหัวใจสิงห์ลุกขึ้นมาได้และพยายามยกการ์ดให้กรรมการดูว่าพร้อมแล้ว แต่ขาสั่นเห็นๆ และพอลองสั่งให้เดินเข้าไปหาก็ยืนนิ่งไม่ตอบสนองเห็นท่าไม่ดีแน่เลยจับนักมวยเราแพ้ไปในยกนี้
ว่ากันจริงๆ ก็ไม่เหนือกว่าความคาดหมายเท่าไหร่นะครับ เพราะฟอร์มหลัง คมพยัคฆ์ ก็ไม่ได้สวยหรูแต่อย่างใด ไฟต์นี้แฟนมวยชาวไทยที่ดูการถ่ายทอดสดก็คงเห็นแล้วว่าเราแพ้จริงๆ ทั้งเชิงมวย การป้องกันตัว หรือการแก้เกมการชกต่างๆ เป็นรองหมด มีแต่ใจเท่านั้นที่สู้สุดฤทธิ์ แต่ก็ไม่พอนะครับ จากนี้ก็คงยากที่จะกลับมา ทั้งวัย ทั้งสังขาร ทั้งไฟในการที่จะกลับมาจะมีแค่ไหน แชมป์โลกสถาบันหลักชาวไทยตอนนี้เลยเหลืออยู่คนเดียว คือ เทพฤทธิ์ ศิษย์หมอเส็ง ก็ต้องตามดูกันต่อไปว่าจะป้องกันตำแหน่งไว้ได้อีกนานแค่ไหน และเมื่อไหร่เราจะมีแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยที่จะเป็นขวัญใจชาวไทยจริงๆ ชนิดขึ้นชกเมื่อไหร่ ชาวไทยรอติดตามเอาใจช่วย และพูดถึงการชกชนิดเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” อย่างแต่ก่อนอีก