ยุโรปซูเปอร์คัมแบ็ก “ไรเดอร์ คัพ” นี้เพื่อ ”เซวี”

เอเยนซี-“สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร” คำพูดเด็ดนี้ถูกพิสูจน์แล้วอีกครั้งในศึกกอล์ฟแห่งศักดิ์ศรี “ไรเดอร์ คัพ” ครั้งที่ 39 หลังจากทีมยุโรปภายใต้การนำของ โฆเซ มาเรีย โอลาซาบัล กัปตันทีมชาวสเปน ที่ปรับแต่งทัพใหม่ในวันสุดท้าย จนสามารถพลิกกลับมาเอาชนะทีมสหรัฐฯ ในการแข่งแบบซิงเกิลแมตช์เพลย์ ป้องกันแชมป์รายการนี้เอาไว้ได้อีกสมัยด้วยสกอร์รวม 14 ครึ่ง ต่อ 13 ครึ่ง

ศึกกอล์ฟประเภททีมรายการเก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ไรเดอร์ คัพ ครั้งที่ 39 ณ สนามเมดินาห์ คันทรี คลับ เมืองเมดินาห์ รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐฯ ที่เพิ่งจบลงเมื่อช่วงเช้ามืดของวันจันทร์ที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา กับความยอดเยี่ยมของทีม “แชมป์เก่า” ที่ทำผลงาน “ซูเปอร์คัมแบ็ก” ซิวแชมป์สมัยที่ 5 ในการแข่ง 6 ครั้งหลัง ทำให้นึกย้อนถึง เหตุการณ์ในไรเดอร์ คัพ ครั้งที่ 33 เมื่อปี 1999 ที่เดอะคันทรี คลับ เมืองบรู๊คลิน รัฐแมสซาชูเซตส์ หากแต่ว่าหนดังกล่าวสลับโฉมหน้าแชมป์จากทีมรวมยุโรปเป็นทีมก้านเหล็กมะกันที่กลับมาแย่งแชมป์ได้ไป ซึ่งทั้ง เดวิส เลิฟ เดอะเธิร์ด และ โอลาซาบัล ต่างเป็นผู้เล่นในสมัยนั้น

โดยผลงาน 5 คู่แรกในวันสุดท้าย ลูกทีมของกัปตันสเปนออกสตาร์ทสวยหรูคว้าชัยเรียบจาก ลุก โดนัลด์ ชนะ บับบา วัตสัน 2 และ 1 (นำ 2 อัพเหลือ 1 หลุม), เอียน โพลเตอร์ ชนะ เว็บบ์ ซิมพ์สัน 2 อัพ, รอรีย์ แม็คอิลรอย ชนะ คีแกน แบรดลีย์ 2 และ 1, จัสติน โรส ชนะ ฟิล มิคเคลสัน 1 อัพ และ พอล ลอว์รี ชนะ แบรนด์ท สนีเดเกอร์ 5 และ 3 พลิกสถานการณ์จากตาม 6-10 มานำ 11-10 ขอเพียงอีก 3 คะแนนจะป้องกันแชมป์สำหรับตามข้อแม้ของแชมป์เก่าจะจะป้องกันแชมป์ได้ที่ 14 แต้ม

และแม้คู่หู ดัสติน จอห์นสัน และ แซ็ค จอห์นสัน จะเก็บแต้มได้ใน 2 แมตช์ถัดมา ช่วยให้ทีมก้านเหล็กลุงแซมนำ 12-11 ทว่าจุดเปลี่ยนมาอยู่ที่ความพ่ายแพ้ของ จิม ฟิวริก ต่อ เซร์คิโอ การ์เซีย ทำให้โมเมนตัมเอียงไปฝั่ง “แชมป์เก่า” ทันที ก่อนจบคู่ที่ 10 สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 13-13

ไฮไลท์สำคัญที่ มาร์ติน คายเมอร์ ผู้เล่นที่ถูกมองว่าผลงานรวมตลอดปีแย่ที่สุดในทีมยุโรป นำ สตีฟ สตริคเกอร์ 1 อัพ ในหลุม 18 ต้องการพัตต์ระยะ 4 ฟุตเพื่อเซฟพาร์ตามโปรมะกันไปให้ได้และเก็บ 1 คะแนนรักษาแชมป์เอาไว้ที่หลุมนี้ ซึ่งก้านเหล็กเมืองเบียร์ไม่ทำให้ผิดหวังพัตต์ลงหลุมไปพร้อมวิ่งโผกอดเพื่อนร่วมทีมท่ามกลางเสียงโห่ร้องจากแฟนกอล์ฟยุโรปที่ตามมาเชียร์หนาตา ป้องกันแชมป์ไว้ได้โดยไม่ต้องใส่ใจคู่ของ ไทเกอร์วูดส์ และ ฟรานเชสโก โมลินารี ที่เพิ่งตีลูกจากแท่นทีออฟหลุมสุดท้าย

อย่างไรก็ดี ฝ่ายจัดการแข่งต้องเคลียแฟร์เวย์เพื่อเปิดโอกาสให้ ไทเกอร์ ที่นำ 1 อัพ เก็บแต้มตามตีเสมอ กู้หน้าให้บ้านเกิด ทว่ากลับชิพเข้ามาห่างปากหลุมเพียง 5 ฟุต และพัตต์ไม่ลงเสียโบกียอมจับมือกับโปรแดนมักโรนีแบ่งกันไปคนละครึ่งแต้มในแมตช์สุดท้าย ส่งให้ทีมยุโรปย้ำชัยชนะด้วยสกอร์ 14 ครึ่ง ต่อ 13 ครึ่ง ส่วนตนเองปิดฉากไรเดอร์ คัพ ปีนี้เก็บได้เพียงครึ่งคะแนนจากการจากการแข่ง 3 แมตช์

หลังทราบผล พอล ลอว์รีย์ ก้านเหล็กจอมเก๋าชาวสกอตต์ ที่ติดทีมเป็นครั้งที่ 2 โดยหนแรกในเหตุการณ์ที่ถูกทีมมะกันแย่งแชมป์ เมื่อปี 1999 ถึงกับหลั่งน้ำตาพร้อมกุมที่แขนเสื้อซึ่งมีโลโกของ เซวี บาเยสเตรอส ตำนานก้านเหล็กชาวสเปนและอดีตกัปตันทีมไรเดอร์คัพ ยุโรปที่เสียชีวิตเมื่อปี 2011

ขณะที่ โอลาซาบัล ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนซี้ของ เซวี เคยจับคู่กันในปี 1993 และเคยเป็นลูกทีมในปี 1997 ให้สัมภาษณ์ขออุทิศแชมป์ไรเดอร์คัพหนนี้ให้แก่ บาเยสเตรอส เพื่อสนิทที่ต้องลาโลกไปด้วยโรคเนื้องอกในสมอง อีกทั้งชื่นชมลูกทีมทุกคนที่ทำผลงานกลับมาครองแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ "สิ่งนี้เพื่อ บาเยสเตรอส สัญลักษณ์ของเขาบนเสื้อแข่งวันสุดท้ายเป็นชุดที่มีเกียรติมาก ในวันนี้ผมไม่สามารถคาดหวังอะไรได้เลย แต่ลูกทีมทุกคนทำได้เยี่ยมมากๆ บางทีพวกเขาอาจจะรู้ว่าแชมป์มันมีความหมายกับผมขนาดไหน"

ด้าน เอียน โพลเตอร์ นักกอล์ฟรายเดียวที่คว้าชัยทั้ง 4 แมตช์ในทัวร์นาเมนต์ กล่าวเสริมว่า "ผมมี เซวี อยู่ที่แขนเสื้อ บนถุงกอล์ฟ และอยู่ในใจของผมด้วย พวกเรารู้ว่าเขามองลงมาและหวังให้เราชนะ ซึ่ง บาเยสเตรอส ได้สร้างสปิริตที่ยอดเยี่ยมให้กับทีมในการแข่งปีนี้" ส่วน จัสติน โรส ก้านเหล็กผู้ดีที่เอาชนะ ฟิล มิคเคลสัน ในวันสุดท้าย เผยเพียงสั้นๆ ว่า "เซวี คือแรงบันดาลใจของพวกเราในอาทิตย์นี้อย่างแท้จริง"