สุดเขต ประภากมล และ ร.อ.หญิง สราลีย์ ทุ่งทองคำ พ่ายในนัดที่สองรอบแบ่งกลุ่มให้กับคู่มือสองจากจีน ต้องไปลุ้นต่อในการแข่งขันนัดที่สาม ซึ่งต้องลงสนามพบกับมาเลเซีย ขณะที่ชายคู่ไทยยังแรงไม่หยุดเอาชนะคู่จากโปแลนด์ไปได้ 2-1 เซต โดยนักตบลูกขนไก่โปลเข่าหลุดในช่วงเซตที่สาม ส่งให้ทีมชายคู่ไทยผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมโดยเป็นที่หนึ่งของกลุ่ม ทางด้าน ศ.เจริญ วรรธนะสิน กล่าวขอบคุณคนไทยที่ส่งแรงใจมาเชียร์ ประกาศสู้จนสุดฤทธิ์เพื่อสร้างเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้กับแบดมินตันให้ได้
การแข่งขันแบดมินตันในลอนดอนเกมส์ วันที่สาม ซึ่งนักกีฬาไทยลงสนามด้วยกันสองประเภท คือ คู่ผสม ร.อ.หญิง สราลีย์ ทุ่งทองคำ และ สุดเขต ประภากมล ที่ลงสนามเป็นนัดที่สองโดยการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มนัดแรกเอาชนะ นักแบดมินตันจากไต้หวัน มาได้ นัดนี้ทั้งคู่พบกับนักตบลูกขนไก่จากจีน ซึ่งเป็นมือวางอันดับสองของรายการอย่าง หลู่ เชง และ หม่า จิง ซึ่งผลการแข่งขัน ปรากฏว่า ทีมคู่ผสมไทยพ่ายไป 2-0 เซตสกอร์ 19-21/ 12-21 รั้งอันดับที่สองในสายแข่งสองครั้งชนะหนึ่งแพ้หนึ่ง โดยนัดที่สามจะพบกับนักตบลูกขนไก่จากมาเลเซียที่แพ้มารวดสองนัด
โดยภายหลังการแข่งขัน สุดเขต และ ร.อ.หญิง สราลีย์ ได้กล่าวถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในเกมว่าอยู่ที่เซตแรกในระหว่างที่แต้มกำลังนำอยู่ที่ 18-19 โดย สราลีย์ ได้เผยด้วยความรู้สึกเสียดายว่า “ตอนจังหวะที่กรรมการจับ โอเวอร์เนต ตรงนั้นทางฝ่ายเรามองว่าไม่น่าจะตัดสินแบบนั้นและทำให้กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกม เพราะเรากำลังอยู่ในจังหวะนำพอโดนตัดสินแบบนี้ก็เสียจังหวะเลยเสียเซตแรกไป ส่วนเซตที่สองนั้น ยอมรับว่า ยังปรับสภาพจิตใจไม่ได้แล้วทางจีนนำห่างเลยทำสกอร์ตามได้ยาก”
เมื่อถามถึงรอบต่อไปที่จะต้องพบกับมาเลเซีย สราลีย์ กล่าวว่า “นัดหน้ามาเลเซียลงสนามแบบไม่กดดัน เพราะเขาแพ้มาแล้วทั้งสองนัด ลงแข่งแบบไม่มีผลอะไร ขณะที่ เราแพ้หนึ่ง ชนะหนึ่ง และนัดนี้ต้องชนะเท่านั้น เพื่อเข้าเป็นที่สองของกลุ่ม ซึ่งส่วนตัวแล้วจะทำให้ดีที่สุดตอนนี้ขอมองแบบรอบต่อรอบไม่อยากกดดันตนเอง และเราสองคนต้องขอบคุณคนไทยที่คอยให้กำลังใจมาตลอด”
ส่วนผลการแข่งขันในประเภทชายคู่ ซึ่ง บดินทร์ อิสระ และ มณีพงศ์ จงจิตร ปรากฏว่า สองนักหวดลูกขนไก่ดาวรุ่ง พลิกเกมจากที่ตามอยู่หนึ่งเซตมาเป็นฝ่ายเอาชนะทีมชายคู่ของโปแลนด์ได้สำเร็จ 2-1 เซต โดยในเซตที่สามนักตบลูกขนไก่ชาวโปล หัวเข่าบิดขณะทำการแข่งขันโดยทีมชายคู่ไทยนำอยู่ 17-15 ทั้งนี้ ทีมชายคู่ไทยจะลงสนามในรอบ 8 ทีมโดยเป็นที่หนึ่งของกลุ่มบี
หลังจบการแข่งขัน ทั้ง บดินทร์ และ มณีพงศ์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงผลงานอันยอดเยี่ยมของตนเอง ว่า “เซตแรกพวกเราเล่นได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะไม่ค่อยเจอเกมแบบยุโรป ซึ่งสร้างความกดดันให้เราได้ตลอดทั้งเซต แต่พอเซตสองเริ่มจับทางได้เลยทำให้สกอร์พลิกกลับมาเป็นฝ่ายเก็บเซต ส่วนเซตสุดท้ายต้องบอกว่า นักแบดโปแลนด์ โชคร้ายจริงๆ ซึ่งพวกเราเองก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกัน ต้องแสดงความเสียใจกับพวกเขาด้วยจริงๆ”
ทั้ง บดินทร์ และ มณีพงศ์ นั้น ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยเป็นที่หนึ่งของกลุ่มบี ซึ่งต้องรอการไขว้สายไปพบกับกลุ่มดี นั่นหมายถึงสองหนุ่มนักแบดไทยมีโอกาสพบกับนักแบดจากมาเลเซีย หรือ เกาหลีใต้ ที่ต้องรอผลว่าคู่ใดจะเป็นที่สองของสาย ซึ่งถ้าเป็นไปได้ทั้งคู่เผยว่าอยากพบกับนักแบดจากมาเลเซีย มากกว่า เพราะนั่นหมายถึงโอกาสเข้าถึงรอบตัดเชือกที่เพิ่มมากขึ้นไปด้วย นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังกล่าวขอบคุณชาวไทยที่คอยให้กำลังใจมาโดยตลอด และให้สัญญาว่าจะคว้าเหรียญรางวัลกลับไปให้ได้
ทางด้าน โค้ชสมพล คูเกษมกิจ ได้กล่าวหลังจบเกม ว่า “ผลงานในคู่ผสมเป็นที่น่าพอใจ เพราะกับคู่ต่อสู้จากจีนคู่นี้ เราก็ผลัดกันแพ้ชนะมาโดยตลอด เสียดายที่เซตแรกเสียสมาธิในช่วงท้ายเกม ทำให้กระเทือนมาถึงเซตที่สอง” สำหรับการลงสนามพบกับทีมมาเลเซีย ในรอบที่สาม โค้ชสมพล กล่าวว่า “ตอนนี้ผมว่าโอกาสเรายังมี และ ถ้าเต่ากับส้มเล่นกันได้เข้าฟอร์มของตนเองแล้วน่าจะเข้ารอบ 8 เหมือนที่ปักกิ่งเกมส์ได้”
ส่วนโค้ช ศิริพงษ์ ศิริกุล ในประเภทชายคู่นั้น กล่าวถึงผลงานของ บดินทร์ และ มณีพงศ์ ว่า “วันนี้ทั้งคู่มีล้าไปหน่อยในเซตแรก แล้วไม่ค่อยได้เจอกับนักตบลูกขนไก่จากยุโรป เลยทำให้ต้องแก้ไขกันใหม่ในเซตที่สอง ซึ่งเขาก็ทำได้ดี” ส่วนรอบ 8 ทีมนั้น โค้ชศิริพงษ์ กล่าวว่า “เวลานี้พบกับใครก็ได้ เพราะมาถึงขั้นนี้แล้ว นักกีฬาของเราต่างก็ทำผลงานกันอย่างเต็มที่”
นอกจากนี้ ศ.เจริญ วรรธนะสิน ได้ทิ้งท้ายถึงผลงานของนักแบดไทย ว่า “วันนี้ผมภูมิใจกับนักแบดมินตันไทยมาก โดยเฉพาะในประเภทชายคู่ และ คู่ผสมของเราเล่นกันอย่างเต็มที่จริงๆ ถึงเวลานี้ ผมยังเชื่อว่าเรายังมีโอกาสสร้างเหรียญประวัติศาสตร์ให้กับทีมลูกขนไก่ไทย เพราะปีนี้แม้ว่าเราจะมีทางเลือกไม่มากนักแต่ทุกคนเต็มที่กับเกมจริงๆ”
