เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์บาร์เซโลนายิงประตูสำคัญช่วย “แชมป์เก่า” สเปน ไล่ตามตีเสมอ อิตาลี 1-1 แบ่งกันทีมละแต้ม ในเกมนัดประเดิมสนามกลุ่มซี ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2012 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ฟุตบอลยูโร 2012 รอบสุดท้าย กลุ่มซี
สเปน 1 - 1 อิตาลี
เกมที่สนามกดังส์ค อารีนา ในเมืองกดังส์ค ประเทศโปแลนด์ กลุ่มซีคู่ระหว่าง “แชมป์เก่า” สเปน เจอกับ อิตาลี อดีตแชมป์ปี 1968 เกมนี้ บิเซนเต เดล บอสเก โค้ช “กระทิงดุ” จัดทัพแบบแปลกๆ 4-3-3 ไม่มีศูนย์หน้าตัวเป้าขยับ เชส ฟาเบรกาส ยืนทำเกมร่วมกับ อันเดรส อิเนสตา และ ดาบิด ซิลบา ขณะที่ เซซาเร ปรันเดลลี เทรนเนอร์อัซซูรี วางระบบ 3-5-2 อันเดรีย ปิร์โล มิดฟิลด์ตัวเก๋าคอยคุมเกมตรงกลาง โดยมี มาริโอ บาโลเตลลี และ อันโตนิโอ คาสซาโน ยืนเป็นคู่กองหน้าร่วมกัน
เริ่มครึ่งแรก สเปน เป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่า โดยใช้การต่อบอลทำชิ่งกันตามช่องเพื่อเจาะแนวรับอิตาลี ขณะที่อัซซูรีตั้งรับแล้วคอยจังหวะสวนกลับ เกมมาถึงนาที 11 บาโลเตลลี เสียบอลในแดนตัวเองทำให้กระทิงดุทำเกมโต้กลับเร็ว อิเนสตา จ่ายบอลให้ ซิลบา หลุดเข้าเขตโทษ แต่ซัดเรียดเบาเกินไปและตรงตัว จานลุยจิ บุฟฟอน รับสบาย
อีก 2 นาทีถัดมา อิตาลี มีลุ้นฟรีคิกระยะประมาณ 20 หลาหน้ากรอบเขตโทษ ปิร์โล ปั่นทะลุกำแพงให้ อีเกร์ คาซิยาส ต้องทุบออกไป ทีมของปรันเดลลีครองบอลน้อยแต่จังหวะเข้าทำดูจะแจ้งกว่า ในนาที 22 เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ จ่ายบอลเข้าเขตโทษ คาสซาโน ใช้ตัวบังบอล ก่อนตวัดยิงผ่านมือ คาซิยาส แต่บอลกลิ้งหลุดเสาสอง
ต่อมานที 33 ปิร์โล วางบอลไปทางริมเส้นด้านซ้าย คาสซาโน โยกหลบ อัลบาโร อาร์เบลัว ก่อนสับไกยิงในเขตโทษติดเซฟ คาซิยาส อีก 3 นาทีถัดมากองหน้าเอซี มิลานได้บอลขึ้นมาทางซ้ายอีกครั้ง ก่อนวางบอลกลับมาหน้าเขตโทษ มาร์คิซิโอ วิ่งมาวอลเลย์แบบไม่จับ แต่บอลตรงตัวนายทวารรีล มาดริดรับติดสองมือ
แชมป์เก่าพยายามต่อบอลเพื่อเจาะเข้าไปลุ้นทำประตู แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ลงล็อก กระทั่งนาที 44 ชาบี จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ อิเนสตา พยายามกระดกบอลข้ามหัว บุฟฟอน แต่บอลก็เลยออกหลังไป ขณะที่ อิตาลี มีโอกาสทองในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก คาสซาโน เก็บบอลได้ทางกราบขวา ก่อนหยอดบอลมาเข้าหัว ติอาโก มอตตา ขึ้นโหม่งหน้าประตูคนเดียว แต่ไม่ผ่านมือ คาซิยาส สุดท้ายทำอะไรกันไม่ได้จบครึ่งแรกเสมอ 0-0
สเปน กลับมาบุกทันทีในครึ่งหลัง นาที 49 ฟาเบรกาส สับไกยิงหน้าเขตโทษให้ บุฟฟอน พุ่งปัดออกไป อีก 2 นาทีถัดมาอดีตมิดฟิลด์อาร์เซนอลเลี้ยงบอลจี้มาหน้าเขตโทษ ก่อนไหลให้ อิเนสตา หลุดเข้าไปซัดมุมแคบติดปลายมือ บุฟฟอน ขณะที่ บาโลเตลลี เกือบจะทำประตูให้ อิตาลี ในนาที 53 หลังแย่งบอลมาได้จาก เซร์คิโอ รามอส จนหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่ตัดสินใจช้า ทำให้ รามอส แก้ตัวตามมาสกัดได้ ต่อมา บาโลเตลลี ก็ถูกเปลี่ยนตัวออก อันโตนิโอ ดิ นาตาเล ถูกส่งลงมาแทน
หลังจากนั้น กองหน้าอูดิเนเซกลายเป็นซูเปอร์ซับมายิงประตูให้ อัซซูรี ออกนำ 1-0 ในนาที 61 หลังได้บอลจาก ปิร์โล จนหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษแล้วซัดผ่านตัว คาซิยาส เข้าเสาสอง แต่เสียประตูเพียง 2 นาที แชมป์เก่ามมาตามตีเสมอ 1-1 แบบทันควันจากจังหวะต่อบอลอย่างสวยงาม ก่อนที่ ซิลบา จ่ายบอลเข้าเขตโทษ ฟาเบรกาส โฉบมายิงบอลสวนตัว บุฟฟอน ซุกก้นตาข่าย
ทั้งสองทีมเปลี่ยนตัวผู้เล่นพร้อมกันในนาที 65 อิตาลี เอา คาสซาโน ออกให้ เซบาสเตียน โจวินโก ลงมาแทน ขณะที่ สเปน ส่ง เฆซุส นาบาส แทน ซิลบา หลังจากนั้นนาที 74 ฟาเบรกาส หลีกทางให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงมาล่าตาข่ายแล้วเพียงอึดใจเดียวหัวหอกเชลซีก็ได้โอกาสหลุดเดี่ยว แต่ถูก บุฟฟอน ออกมาตัดเร็วเตะเคลียร์ออกไปได้แบบหวุดหวิด
หลังจากตั้งรับอยู่พักใหญ่ๆ อิตาลีเกือบมาทำประตูนำอีกครั้งในนาที 77 มอตตา วางบอลเข้าเขตโทษให้ ดิ นาตาเล ซึ่งไม่มีใครประกบ วอลเลย์หน้าประตู แต่หลุดเสาออกไป ต่อมานาที 84 ตอร์เรส ทำชิ่ง 1-2 กับ ชาบี จนหลุดเข้าไปลุ้นทำประตู เห็น บุฟฟอน ออกมาจากเส้น พยายามชิพบอลข้ามหัวนายทวารยูเวนตุส แต่ก็แรงเกินไปออกหลัง
ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ทั้งสองทีมแรกคนละหมัด นาบาส สับไกยิงมุมแคบติดเซฟ บุฟฟอน ขณะที่ มาร์คิซิโอ ก็หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษให้ อิตาลี แต่ก็ไม่ผ่านมือ คาซิยาส สเปนมีโอกาสลุ้นครั้งสุดท้ายจากลูกยิงไกลของ ชาบี อลอนโซ แต่ก็ไม่ตรงกรอบ สุดท้ายไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้จบเกมเสมอกัน 1-1 แบ่งกันทีมละคะแนน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
สเปน - อีเกร์ คาซิยาส, เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปิเก, ฆอร์ดี อัลบา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เซร์คิโอ บุสเกตส์, ชาบี อลอนโซ, ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนสตา, เชส ฟาเบรกาส, ดาบิด ซิลบา
อิตาลี - จานลุยจิ บุฟฟอน, ดานิเอเล เด รอสซี, เลโอนาร์โด โบนุชชี, จอร์โจ คิเอลลินี, ติอาโก มอตตา, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, อันเดรีย ปิร์โล, คริสเตียน มัจโจ, เอมานูเอเล จัคเครินี, อันโตนิโอ คาสซาโน, มาริโอ บาโลเตลลี