ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - แบรนเดน เกรซ โปรหนุ่มชาวแอฟริกาใต้ สร้างประวัติศาสตร์ให้ตัวเอง โดยเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ที่คว้าแชมป์ยูโรเปียน ทัวร์ 3 รายการในฤดูกาลแรกที่เข้ามาเล่นในทัวร์จากการผ่านควอลิฟาย หลังก้านเหล็กวัย 23 ปีผงาดคว้าแชมป์รายการ วอลโว ไชนา โอเพน ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านั้น เกรซ คว้าแชมป์ยูโรเปียน ทัวร์ 2 รายการจากศึก โจเบิร์ก โอเพน และ วอลโว กอล์ฟ แชมเปียนชิป ที่ประเทศบ้านเกิด ช่วงเดือนมกราคมไม่กี่สัปดาห์หลังจากซิวการ์ด ทัวร์ โดยนักกอล์ฟคนแรกที่เคยทำสถิติดังกล่าวคือ โยฮัน เอดฟอร์ส โปรชาวสวีดิช ที่คว้าแชมป์ 3 รายการในฤดูกาลแรกที่เข้ามาเล่นเมื่อปี 2006
ด้วยวัย 23 ปี เกรซ ยังเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดลำดับสามที่คว้าแชมป์ยูโรเปียน ทัวร์ 3 รายการในฤดูกาลเดียว เป็นรองนักกอล์ฟระดับตำนานอย่าง เซวี บาเยสเตรอส ชาวสแปนิช ที่เคยสร้างสถิติระหว่างปี 1977-1980 และ แซนดี ไลล์ ชาวสกอตต์ ที่ฝากผลงานไว้ในปี 1979
ก้านเหล็กหนุ่มชาวเมืองพริทอเรียรายนี้เป็นนักกอล์ฟอีกคนจากผลผลิตของ “เออร์นี เอลส์ แอนด์ แฟนคอร์ต ฟาวน์เดชั่น” มูลนิธิของ เออร์นี เอลส์ อดีตมือ 1 ของโลกขวัญใจชาวแอฟริกาใต้ ซึ่งให้การสนับสนุนเด็กและเยาวชนในท้องถิ่นที่ด้อยโอกาสแต่มีแววได้เข้ามาสู่เกมกีฬากอล์ฟ เช่นเดียวกับ หลุยส์ อุสต์ไฮเซน เจ้าของแชมป์ดิ โอเพน ปี 2010 ที่ผ่านการฝึกปรือจากมูลนิธิของบิ๊กอีซีย์เหมือนกัน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 เกรซ เคยคว้าตั๋วลุยศึกยูโรเปียน ทัวร์ มาแล้วจากการผ่านคิว-สคูล ปี 2008 แต่ทำผลงานไม่ดีนัก โดยทำเงินรางวัลอยู่อันดับที่ 148 จนเสียทัวร์การ์ดไป แต่ความสำเร็จในปีนี้เกิดจากประสบการณ์ที่มากขึ้น
โดย เกรซ เปิดเผยหลังจากคว้าแชมป์วอลโว ไชนา โอเพน ว่า “ผมคิดว่าผมเติบโตขึ้นในฐานะผู้เล่น เติบโตขึ้นมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผมทำสิ่งที่แตกต่างจากที่เคยทำเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมไม่มีการวางแผนที่ดีเดาสุ่มไปเรื่อย แต่ตอนนี้ผมรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร การแข่งขันระดับสูงต้องมีความตั้งใจและทำสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้อง ผมยังมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น การฝึกซ้อมและอะไรต่างๆ รู้จักวิเคราะห์เกมหลังการเล่นเพื่อทำมาปรับปรุง ผมยังตีลูกไกลกว่าเดิม การพัตต์ก็เฉียบคม เช่นเดียวกับสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งและมันก็ได้แสดงให้เห็นแล้ว”
นอกจากการเติบโตขึ้นแล้ว เกรซ ยังมีแรงบันดาลใจจาก อุสต์ไฮเซน และ ชาร์ล ชวาร์ตเซล เจ้าของแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส 2011 ซึ่งส่งผลต่อนักกอล์ฟแอฟริกาใต้หลายคน “ผมรู้จักหลุยส์ และ ชาร์ลดี และรู้สึกว่าความสำเร็จของพวกเขาเป็นแรงกระตุ้นของผม หลุยส์ และผมเป็นเพื่อนสนิทกัน ดังนั้น มันก็เยี่ยมที่ได้เห็นเขาบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ ตอนที่หลุยส์คว้าแชมป์ดิ โอเพน เราเพิ่งเล่นด้วยกันก่อนหน้านั้น 2-3 สัปดาห์ และมันทำให้คุณคิดว่า ถ้าหากเขาคว้าแชมป์ได้ อะไรก็เป็นไปได้ การเห็นว่าพวกเขาทำได้ ทำให้คุณเกิดความรู้สึกที่จะต้องเอาชนะสิ่งกีดขว้างซึ่งมันจะทำให้คุณขยับเข้าใกล้จุดนั้น สิ่งที่ หลุยส์ และ ชาร์ล ทำในเมเจอร์ ส่งผลให้ผมเกิดความพยายามที่จะก้าวข้ามอุปสรรคเพื่อประสบชัยชนะเช่นกัน”
ขณะที่ เอลส์ ร่วมแสดงความยินดีกับเด็กปั้นของตัวเองโดยเขียนผ่านทางเวบบล็อกบนเวบไซต์พีจีเอ ทัวร์ ว่า “ผมต้องแสดงความยินดีกับอดีตสมาชิกของ เออร์นี เอลส์ แอนด์ แฟนคอร์ต ฟาวน์เดชัน, แบรนดอน เกรซ ที่คว้าแชมป์รายการวอลโว ไชนา โอเพนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นคนที่ 2 ที่คว้าแชมป์ 3 รายการหลังจากผ่านการควอลิฟายและนี่แค่เดือนพฤษภาคมเท่านั้น ยังไม่ผ่านครึ่งฤดูกาลด้วยซ้ำ ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเป็นเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา ความสำเร็จของเขาเป็นเหมือนข้อความที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจ ไม่ใช่เพียงแค่สมาชิกของมูลนิธิปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักกอล์ฟอายุน้อยในแอฟฟริกาใต้คนอื่นด้วย เหมือนอย่างที่ผมเคยพูด ถ้าหากคุณฝันให้ไกลและทำงานอย่างหนัก อะไรก็เป็นไปได้ในชีวิต”
เกรซ เริ่มต้นปีมีอันดับโลกอยู่อันดับ 258 แต่ปัจจุบันกระโดดขึ้นมาอยู่ใน 60 อันดับแรกของโลก ขณะที่ยูโรเปียน ทัวร์ ฤดูกาลนี้ผ่านมาเพียง 15 รายการ ซึ่งถ้าหากยังทำผลงานได้ดีต่อไป บางทีเราอาจได้เห็นก้านเหล็กหนุ่มสร้างประวัติศาสตร์อีกในช่วงที่เหลือของฤดูกาล
เรื่องโดย วุฒิวรรณ วิศาลวรรณ์