โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสอดีตมือ 1 โลกชาวสวิส มั่นใจว่า สภาพร่างกายของตัวเองยังฟิตสมบูรณ์พอที่จะลงแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ 2016 ที่บราซิลในอีก 4 ปีข้างหน้า พร้อมตั้งเป้าขอคว้าแชมป์แกรนด์สแลมวิมเบิลดัน และเหรียญทองหวด “ลอนดอนเกมส์” ให้ได้ในปีนี้
หวดวัย 30 ปี เตรียมจับแร็กเกตลงสนามประเดิมฤดูกาลคอร์ตดินในรายการ มูตัว มาดริด โอเพน ที่จะเริ่มเปิดฉากตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคมนี้ ที่ประเทศสเปน แต่ระหว่างหยุดพักผ่อนกับครอบครัว เจ้าตัวก็เปิดใจกับสื่อในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเป้าหมายหลักคือการคว้าแชมป์ วิมเบิลดัน และ เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน เมืองผู้ดี
โดย เฟเดอเรอร์ กล่าวถึงเป้าหมายของตัวเองผ่าน “บริค” แท็บลอยด์ชื่อดังของเมืองเบียร์ ว่า “สำหรับผม วิมเบิลดัน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมเสมอ ไอดอลของผมอย่าง บอริส เบ็คเกอร์, สเตฟาน เอ็ดเบิร์ก และ พีท แซมพราส พวกเขาคว้าแชมป์รายการนี้รวมกันมากกว่า 10 ครั้ง หากย้อนไปถึงวันที่ผมครองแชมป์เป็นครั้งแรกในระดับเยาวชน ถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก”
“จากนั้น พวกเราจะมีโปรแกรมลงเล่นที่วิมเบิลดันอีกครั้งเพื่อไล่ล่าเหรียญรางวัลในโอลิมปิก ถือเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาในยุคของเรา สำหรับผมแล้ว ไม่ได้ชื่นชอบรายการใดเป็นพิเศษ เพราะมันสำคัญเท่ากันหมด” เฟดเอ็กซ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน แชมป์แกรนด์สแลม 16 สมัย ให้ความเชื่อมั่นกับแฟนหวดว่า “ลอนดอนเกมส์” จะไม่ใช่การลงแข่งโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของตน และมั่นใจด้วยว่าร่างกายของตัวเองยังฟิตพอที่จะลงหวดต่อใน “ริโอเกมส์ 2016” ที่บราซิล อีก 4 ปีข้างหน้า เช่นกัน “ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องประหลาดสักนิด หากคิดจะลงเล่นต่อในปี 2016 แล้วเรามาคอยดูกัน”
หวดวัย 30 ปี เตรียมจับแร็กเกตลงสนามประเดิมฤดูกาลคอร์ตดินในรายการ มูตัว มาดริด โอเพน ที่จะเริ่มเปิดฉากตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคมนี้ ที่ประเทศสเปน แต่ระหว่างหยุดพักผ่อนกับครอบครัว เจ้าตัวก็เปิดใจกับสื่อในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเป้าหมายหลักคือการคว้าแชมป์ วิมเบิลดัน และ เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน เมืองผู้ดี
โดย เฟเดอเรอร์ กล่าวถึงเป้าหมายของตัวเองผ่าน “บริค” แท็บลอยด์ชื่อดังของเมืองเบียร์ ว่า “สำหรับผม วิมเบิลดัน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมเสมอ ไอดอลของผมอย่าง บอริส เบ็คเกอร์, สเตฟาน เอ็ดเบิร์ก และ พีท แซมพราส พวกเขาคว้าแชมป์รายการนี้รวมกันมากกว่า 10 ครั้ง หากย้อนไปถึงวันที่ผมครองแชมป์เป็นครั้งแรกในระดับเยาวชน ถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก”
“จากนั้น พวกเราจะมีโปรแกรมลงเล่นที่วิมเบิลดันอีกครั้งเพื่อไล่ล่าเหรียญรางวัลในโอลิมปิก ถือเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาในยุคของเรา สำหรับผมแล้ว ไม่ได้ชื่นชอบรายการใดเป็นพิเศษ เพราะมันสำคัญเท่ากันหมด” เฟดเอ็กซ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน แชมป์แกรนด์สแลม 16 สมัย ให้ความเชื่อมั่นกับแฟนหวดว่า “ลอนดอนเกมส์” จะไม่ใช่การลงแข่งโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของตน และมั่นใจด้วยว่าร่างกายของตัวเองยังฟิตพอที่จะลงหวดต่อใน “ริโอเกมส์ 2016” ที่บราซิล อีก 4 ปีข้างหน้า เช่นกัน “ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องประหลาดสักนิด หากคิดจะลงเล่นต่อในปี 2016 แล้วเรามาคอยดูกัน”