เอมิลิโอ บูตราเกนโญ ตำนานแข้ง รีล มาดริด ฐานะผู้อำนวยการฝ่ายความสัมพันธ์ประจำสโมสรและคลับแอมบาสเดอร์ ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีเซ็นสัญญาร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ กับ “ช้าง” ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสัญชาติไทย พร้อมเปรยซัมเมอร์ ปี 2013 อาจจะนำทัพซูเปอร์สตาร์ “ราชันชุดขาว” เหินฟ้าฟาดแข้งเมืองไทย เนื่องจากเป็นไปตามเป้าหมายขยายตลาดไปทั่วเอเชียถึงได้มีการจับมือกันเกิดขึ้น
เมื่อวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2555 รีล มาดริด จ่าฝูง ลา ลีกา สเปน ที่กำลังขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ครั้งแรกรอบ 4 ปี หลังเกม “เอล กลาซิโก” เมื่อ 2 วันก่อน บุกเชือด บาร์เซโลนา พังพาบคาถิ่น คัมป์ นู 2-1 ทิ้ง 7 แต้ม เหลืออีก 4 นัด ได้เปิดห้องบอร์ดบริหารประจำถิ่น ซานติอาโก เบร์นาเบว ต้อนรับ “ช้าง” นำโดยบรรดาผู้บริหารทั้ง แมทธิว กิจโอธาน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ สรกฤต ลัทธิธรรม ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตราช้าง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เกตติง จำกัด รวมถึงกองทัพนักข่าวจากประเทศไทย โอกาสเซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุน “ราชันชุดขาว” เป็นระยะเวลา 3 ปี ภายใต้แคมเปญ “ช้างแชมป์เหนือแชมป์” ภายใต้คอนเซปต์ “Live Like You Mean It!” (ชีวิตของเรา...ใช้ซะ)
พิธีดำเนินไปอย่างเรียบง่าย มีเพียงการแลกกันเซ็นสัญญาระหว่าง แมทธิว และ บูตราเกนโญ รวมถึงของที่ระลึก คือ เสื้อ รีล มาดริด สกรีนเบอร์ 8 ที่ถือเป็นเลขนำโชค พร้อมชื่อ แมทธิว และ สรกฤต มอบให้ ส่วน ไทย ได้ให้รูปปั้นกระเบื้องช้าง แต่งองค์ทรงเครื่องสีทอง ก่อนที่จะมีการสัมภาษณ์อดีตกองหน้าประจำถิ่น ซานติอาโก เบร์นาเบว วัย 48 ปี เปิดใจถึงการร่วมมือกันครั้งนี้
“ถือเป็นวันที่พิเศษจริงๆ เพราะเราได้เปิดห้องประชุมของบอร์ดบริหาร ที่มีถ้วยแชมป์ยุโรปของจริง รับรองคณะของช้างและนักข่าวจากประเทศไทย เรารู้ดีว่า ทวีปเอเชีย รวมประเทศไทย มีฐานแฟนบอลขนาดใหญ่ จะทำให้ รีล มาดริด เติบโตเร็วมาก การเซ็นสัญญาครั้งนี้ เราเน้นเรื่องความผูกพันและต้องการให้สโมสรใกล้ชิดกับทุกคนมากยิ่งขึ้น เลยตัดสินใจเลือกช้าง” กองหน้าทีมชาติสเปน ที่ยิง 26 ประตู จาก 69 นัดเปิดเผย
เมื่อถูกถามถึงการกลับไปเยือนประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากเดินทางมาอุ่นเครื่องเมื่อปี 2005 บูตราเกนโญ ที่เล่นให้ “ชุดขาว” ระหว่างปี 1984-1995 กล่าวว่า “เราจะกลับไปหาแฟนบอลไทยอีกครั้งอย่างแน่นอน หลังประทับใจที่ไปเยือนเมื่อครั้งล่าสุด ทุกอย่างติดตาตรึงใจคนไทยอบอุ่น ดังนั้น จึงมีแผนกลับไปไม่แน่อาจจะเป็นปีหน้า”
ส่วนคำถามทิ้งท้ายคงหนีไม่พ้นเรื่องทักษะและความสามารถของนักเตะไทยปัจจุบันพัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว เทียบเคียงเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่มีแข้งตระเวนค้าแข้งอยู่ทั่วยุโรปได้หรือยัง ดาวยิงที่พา รีล มาดริด คว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน 6 สมัย กล่าวว่า “ทุกวันนี้เห็นได้ชัดว่า ช่วงห่างแคบลง เอเชียพัฒนาจนเกือบไม่มีกำแพงกั้นแล้ว จากนั้นเป็นเรื่องของการวางกลยุทธ์ โค้ชกับแข้งระดับเยาวชนสำคัญมากที่จะผลักดันใครสักคนให้ก้าวขึ้นมาสู่เวทีระดับโลก”