“สิงห์บลู” เชลซี พลาดโอกาสทำแต้มเท่ากับคู่แข่งลุ้นตั๋วยูฟา แชมเปียนส์ ลีก อย่าง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หลังถูก “เจ้าสัวน้อย” ฟูแลม ตามตีเสมอช่วงท้ายเกม 1-1 หล่นมาอยู่ที่ 6 ของตาราง ในเกมพรีเมียร์ชิป อังกฤษ คู่สุดท้าย คืนวันจันทร์ที่ 9 เม.ย.2555
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ฟูแลม 1 - 1 เชลซี
เชลซี ทีมอันดับ 6 ของตาราง บุกเยือน ฟูแลม ทีมอันดับ 11 ที่สนามคราเวท คอทเทจ โดยมีเป้าหมายเก็บ 3 แต้ม เพื่อให้เท่ากับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่ลงสนามก่อนหน้านี้ สำหรับเกมนี้ทีมของ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ ต้องเข็น จอห์น เทอร์รี กัปตันทีมลงสนามแม้มีปัญหาซี่โครงร้าว โดยจับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ กับ แกรี เคฮิลล์ ขณะที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด คุมแดนกลาง ส่วนแดนหน้ามี ซาโลมง กาลู, รามิเรส และ เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็น 3 ประสาน ทางฝั่งเจ้าบ้านของกุนซือ มาร์ติน โยล วาง คลินท์ เดมป์ซีย์ และ มุสซา เดมเบเล เป็นหัวหอกคู่กัน
เปิดฉากครึ่งแรก เกมทั้งสองทีมค่อนข้างสูสี ยังไม่มีโอกาสหวาดเสียว ต้องรอกระทั่งนาที 25 ฟูแลม มีโอกาสก่อน มุสซา เดมเบเล ทำเกมขึ้นมาทางซ้าย ก่อนไหลมาให้ คลินท์ เดมป์ซีย์ ยิงจากระยะ 10 หลาตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก นายด่านทีมเยือน เจ้าถิ่นมีลุ้นอีกครั้งในนาทีถัดมาจากจังหวะโต้กลับเร็ว เคริม ฟราย อาศัยความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงบอลแหวกแนวรับ “สิงห์บลู” ซัดหน้าเขตโทษให้ เช็ก พุ่งปัดปลายมือออกหลัง
ด้านลูกทีมของ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย พับสนามบุกอย่างหนัก กระทั่งก่อนจบครึ่งแรกนาทีเดียว ก็มาได้จุดโทษ หลังจาก ซาโลมง กาลู ถูกเสียบสองเท้าจาก แดนนี เมอร์ฟีย์ ก่อนที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด จะรับหน้าที่สังหารซัดบอลผ่านมือ มาร์ก ชวาร์เซอร์ ให้ทีมเยือนนำ 1-0 เมื่อจบ 45 นาทีแรก
เชลซี ลงสนามมาในครึ่งหลังบุกต่อทันที นาที 48 แลมพาร์ด ตะบันด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษ บอลหลุดเสาเหลี่ยมออกไป อีก 3 นาทีถัดมา รามิเรส ได้บอลทางริมเขตโทษด้านขวา ก่อนเลี้ยงตัดมายิงตรงกลาง แต่บอลตรงตัว ชวาร์เซอร์ รับเข้าซอง ก่อนที่นาที 53 เฟร์นานโด ตอร์เรส แตะบอลย้อนมาให้ ราอูล เมเรเลส ซัดจากหน้าเขตโทษเหินข้ามคาน
หลังจากปล่อยให้ เชลซี บุกใส่พักใหญ่ เจ้าบ้านก็มาได้ลุ้นบ้างในนาที 62 ฟราย แทงบอลให้ ยอห์น อาร์เน รีเซ เติมเกมบุกขึ้นมาทางซ้ายหลุดเข้าไปในเขตโทษ ฟูลแบ็กนอร์เวย์พยายามปั่นไซด์ก้อยให้บอลเข้าเสาไกล แต่เลี้ยวไม่พอบอลหลุดกรอบประตูแบบได้ลุ้น
เกมมาถึงนาที 66 เป็นโอกาสของทีมเยือน แลมพาร์ด หยอดบอลเข้าไปในเขตโทษ แต่ กาลู เหินโหม่งข้ามคานออกไป อีก 5 นาทีถัดมา เชลซี เปลี่ยนตัวคนแรก ฆวน มาตา ลงมาแทน เมเรเลส ขณะที่ มาร์ติน โยล กุนซือ “เจ้าสัวน้อย” ปรับแทกติกเช่นกัน เมอร์ฟีย์ ถูกเปลี่ยนออกแล้วส่ง ดิกสัน อีตูฮู ลงมาคุมเกมตรงกลางแทน
ฟูแลม ทำเกมโต้กลับเร็วนาที 78 แนวรับ เชลซี สกัดไม่ขาด ก่อนที่บอลมาเข้าทาง เดมป์ซีย์ ส่องจากนอกเขตโทษไปตรงตัว เช็ก เจ้าถิ่นเดินหน้าบุกต่อนาที 81 จากจังหวะเตะมุม อารอน ฮิวจ์ส เติมเกมขึ้นมาโหม่ง แต่ยังไม่ผ่านมือนายด่านร่างโย่ง อย่างไรก็ตาม จังหวะเตะมุมถัดมาเจ้าบ้านก็ทำประตูตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ เดมป์ซีย์ โขกบอลเข้าเสาสองโดยที่ เช็ก ได้แต่ยืนมอง
ดิดิเยร์ ดร็อกบา ต้องถูกส่งลงสนามมาแทนที่ รามิเรส ในนาที 84 แต่เกมของทีมเยือนยังปั่นป่วนถูก ฟูแลม ทำเกมบุกมาอีกครั้ง นาที 85 จากลูกเตะมุม ออร์แลนโด ซา อีกหนึ่งตัวสำรองขึ้นโขก แต่ตรงตัว เช็ก ล้มตัวรับได้ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มจบเกมแบ่งกันทีมละแต้ม โดย เชลซี มี 57 คะแนนอยู่ที่ 6 ของตาราง ตามหลัง สเปอร์ส และ นิวคาสเซิล ทีมอันดับ 4 และ 5 อยู่ 2 คะแนน ส่วน ฟูแลม มี 13 คะแนน อยู่ที่ 10 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
ฟูแลม - มาร์ก ชวาร์เซอร์, เบรเด ฮันเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, ยอห์น อาร์เน รีเซ, สตีเฟน เคลลี, แดนนี เมอร์ฟีย์, มาฮามาดู ดิยาร์รา, เคริม ฟราย, ดาเมียน ดัฟฟ์, คลินท์ เดมป์ซีย์, มุสซา เดมเบเล
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, แกรี เคฮิลล์, ไรอัน เบอร์ทรานด์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แฟรงค์ แลมพาร์ด, จอห์น โอบี มิเกล, ซาโลมง กาลู, รามิเรส, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ราอูล เมเรเลส
สเปอร์ส แพ้ นอริช ซิตี 1-2
[0-1 : แอนโธนีย์ พิลคิงตัน น.12], [1-1 : เจอร์แมน เดโฟ น.33], [1-2 : เอลเลียตต์ เบนเนตต์ น.66]
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ชนะ โบลตัน 2-0
[1-0 : ฮาเตม เบน อาฟรา น.72], [2-0 : ปาปิสส์ ซิสเซ น.83]
แอสตัน วิลลา เสมอ สโต๊ค ซิตี 1-1
[1-0 : แอนเดรียส ไวแมนน์ น.32], [1-1 : โรเบิร์ต ฮุธ น.70]
ฟูแลม เสมอ เชลซี 1-1
[0-1 : แฟรงค์ แลมพาร์ด ลูกจุดโทษ น.45], [1-1 : คลินท์ เดมป์ซีย์ น.83]