มิเกล อาร์เตตา ทำประตูดับฝันในการลุ้นแชมป์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี ช่วยให้ อาร์เซนอล ที่บุกกดดันตลอดในช่วงท้ายเกม เอาชนะไปได้ 1-0 โอกาสลุ้นแชมป์ของ ซิตี้ ยากขึ้นไปอีก เมื่อมีแต้มตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8 แต้ม ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ.2555
อาร์เซนอล 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี
ที่สนามเอมิเรสต์ สเตเดียม แมนเชสเตอร์ ซิตี ลงทำศึกพรีเมียร์ลีก ซูเปอร์ซันเดย์ คู่สุดท้ายของคืนวันอาทิตย์ ทีมเยือนต้องเก็บชัยให้ได้เพื่อทำแต้มไล่จี้จ่าฝูง เกมนี้ได้นักเตะสำคัญที่หายจากอาการบาดเจ็บคืนทีมครบ โจลีออน เลสคอตต์ กับ เซร์คิโอ อเกวโร ได้ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริง ขาดแต่เพียง ดาบิด ซิลวา คนเดียว ด้านเจ้าถิ่น อาร์แซน เวนเกอร์ จัดทัพมาสู้เต็มสูบแนวรุกนำโดยกัปตันทีม โรบิน ฟาน เพอร์ซี โดยมี โธมัส โรซิคกี และ อเล็ก ซง คอยปั้นเกมด้านหลัง
เริ่มเกมมาไม่ถึง 2 นาที ยังไม่ทันมีจังหวะลุ้นประตูแต่ ยายา ตูเร โดนใบเหลืองก่อนจากการไปดึง โรซิคกี ช่วงตันเกมแดนกลางของเจ้าถิ่นเก็บบอลจังหวะสองบุกกดดันได้มากกว่า และได้ลุ้นก่อน บาการี ซานญา โยนข้ามมาเสาสอง โรซิคกี ได้ยืนวอลเลย์โล่งๆ เป็น แวงซอง กอมปานี ที่ปรี่เข้ามาบล็อกบอลออกหลังไปได้ทัน นาที 14 ทีมเยือนเสียหายหนักเมื่อ ยายา ตูเร กองกลางคนสำคัญเกิดอาการเจ็บเล่นต่อต้องเปลี่ยนเอา ดาวิด ปิซาโร ลงแทน
ตัดกลับมา อาร์เซนอล น่าจะเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อนจากลูกเตะมุม อาร์เตตา โยนโค้งเข้าหัว ฟาน เพอร์ซี สะบัดเต็มๆ ทว่าไปติดตัว โธมัส แฟร์มาเลน ที่กระโดดขึ้นพร้อมกันบอลเปลี่ยนทางออกหลังอย่างน่าเสียดาย นาที 25 ซิตี ตั้งเกมได้บ้างมีลุ้นเกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกเตะมุม บาโลเตลลี วิ่งเข้ามาชาร์ตเปลี่ยนทางแถวจุดโทษ บอลพุ่งไปติด คีแรน กิบส์ ที่ยืนเกะกะอยู่ทางเสาสองพอดี
เกมผ่าน 30 นาที เกมเริ่มสูสีกันแต่ยังไม่จังหวะเข้าทำที่ได้ลุ้น กระทั่ง 5 นาที ถัดมา ปิซาโร วางบอลยาวให้ บาโลเตลลี ฉีกแนวรับ อาร์เซน่อลหลุดเดี่ยวขึ้นมา แต่ยังดี วอเซียค เซอเชสนีย์ อ่านเกมได้ดีวิ่งออกมาเกือบครึ่งสนามเคลียทิ้งไปได้ เวลาที่เหลือสองทีมผลัดกันครองบอล โดยในช่วงท้ายครึ่งแรก “ปืนใหญ่” กลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับ “เรือใบสีฟ้า” เข้าไปลุ้นประตูได้ ทำให้จบ 45 นาทีแรก ยังทำอะไรกันไม่ได้เสมออยู่ 0-0
เริ่มครึ่งหลังเป็นทีมเยือนแก้เกมมาได้ดีกว่า ครองบอลได้มากว่าครึ่งแรกชัดเจน และเกือบได้นำก่อนนาที 53 ซามีร์ นาสรี ตักบอลเข้ามาที่หน้าเขตโทษ แต่ ปาโบล ซาบาเลตา ที่เติมขึ้นมาไปทับตำแหน่งกับ อเกวโร ทำให้แย่งกันโหม่งบอลลอยไปตกหลังประตูอย่างน่าเสียดาย ดำเนินถึงนาที 60 ยอสซี เบนายูน เลี้อยตัดจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ามา ก่อนหาจังหวะกดด้วยขวา บอลไม่มีน้ำหนัก โจ ฮาร์ท รับไว้ไม่ยาก
หลังจากนั้นไม่ถึงนาที ฟาน เพอร์ซี เกือบทำแสบ เมื่อ ซง บรรจงชิปเข้ามาให้หัวหอกชาวดัตช์โขกตามน้ำเน้นๆ บอลตกลงพื้นไปชนโคนเสากระดอนออกมาแบบไม่มีโชค 10 นาทีถัดมา เกม ซิตี ช็อตไปดื้อๆ และ ฟาน เพอร์ซี มีโอกาสส่งบอลเข้าไปกระทบตาข่ายได้จากการจ่ายของ ซง เจ้าเก่า ทว่า ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน จากนั้น “เดอะกันเนอร์ส” เดินหน้านวดทีมเยือน หวังทำประตูขึ้นนำให้ได้
ในนาที 75 อาร์เซนอล น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ โรซิคกี กลับตัวจ่ายมาให้ วัลคอตต์ ตัวสำรองแปเล่นทางไปเสาสอง แต่ โจ ฮาร์ท พุ่งสุดตัวมาปัดไว้ได้หวุดหวิดบอลมาเข้าทาง เบนายูน ยิงซ้ำไม่ถึง 5 หลาก็ไปติดตัวของ เลสคอตต์ ชนเสาออกหลังอีกหน เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่แล้ว อาร์เตตา ยิงไกลจากนอกกรอบบอลพุ่งเข้าไปอย่างสวยงาม อาร์เซน่อล ขึ้นนำ 1-0 ในนาที 87
ช่วงท้ายสถานการณ์ของทีมเยือนแย่ลงไปอีก บาโลเตลลี มาโดนใบเหลืองที่สองไล่ออกไป จบเกมเป็น อาร์เซนอล เอาชนะไปได้ 1-0 แซง สเปอร์ส ขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ส่วน มี 61 คะแนน ส่วน ซิตี โอกาสลุ้นแชมป์ยากขึ้นไปอีก โดน ยูไนเต็ด ทิ้งไปเป็น 8 แต้ม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : วอเซียค เซอเชสนีย์, บาการี ซานญา, โธมัส แฟร์มาเลน, โลรองต์ กอสเซียลนี, คีแรน กิบส์, โธมัส โรซิคกี, มิเกล อาร์เตตา, ธีโอ วัลคอตต์, อเล็ก ซง, ยอสซี เบนายูน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี
แมนเชสเตอร์ ซิตี : โจ ฮาร์ท, โจลีออน เลสคอตต์, แวงซอง กอมปานี, ปาโบล ซาบาเลตา, กาแอล กลิชี, ซามีร์ นาสรี, เจมส์ มิลเนอร์, แกเร็ธ แบร์รี, ยายา ตูเร, เซร์คิโอ อเกวโร, มาริโอ บาโลเตลลี