“แชมป์เก่า” บาร์เซโลนา ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือก ศึกฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ได้สำเร็จ หลังเปิดรังเอาชนะ “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน 3-1 โดย ลิโอเนล เมสซี ซัดสองจุดโทษ ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อคืนวันอังคารที่ 3 เม.ย.2555 เช่นเดียวกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ที่ย้ำแค้นอัด โอลิมปิก มาร์กเซย สบาย 2-0
ผลฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง
บาร์เซโลนา (สเปน) 3-1 เอซี มิลาน (อิตาลี)
บาร์เซโลนา เปิดสนามคัมป์ นู รับมือ เอซี มิลาน หลังจากบุกเสมอ 0-0 นัดแรก เกมนี้เจ้าถิ่นของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังเต็มสูบนำทัพโดย ลิโอเนล เมสซี เพลย์เมกเกอร์อาร์เจนไตน์ พร้อมกับมี ชาบี, เชส ฟาเบรกาส และ อันเดรส อิเนียสตา คอยสนับสนุน ทางฝั่งทีมเยือนของเทรนเนอร์ มักซิมิเลียโน อัลเลกรี วาง โรบินโญ และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นคู่กองหน้าร่วมกัน
เปิดฉากครึ่งแรก มิลาน มีโอกาสทำเกมบุกก่อน แต่หาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้จนมาถึงนาที 6 บาร์เซโลนาทำเกมโต้กลับเร็วขึ้นมา ลิโอเนล เมสซี กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนซัดเรียดไปตรงตัว คริสเตียน อับเบียติ นาทีถัดมา ดานี อัลเวส ทำเกมขึ้นมาทางขวา ก่อนจ่ายเข้าในเขตโทษ เชส ฟาเบรกาส ทำชิ่งเร็วให้ เมสซี หลุดเข้าไปยิงมุมแคบ แต่บอลถากเสาสองออกหลัง
เจ้าถิ่นทำเกมบุกต่อ กระทั่งนาที 9 ก็มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะต่อเนื่องที่ เมสซี หลุดเดี่ยว แนวรับ มิลาน เกือบป้องกันได้ แต่สุดท้าย ลูกา อันโตนินี ทะเล่อทะล่าเสียบสไลด์เพลย์เมกเกอร์อาร์เจนไตน์ล้มลง จนถูกกรรมการเป่าฟาวล์ ก่อนที่ เมสซี ลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาดส่งบอลผ่านมือ อับเบียติ ให้เจ้าถิ่นนำ 1-0 และเป็นประตูที่ 50 ของดาวเตะวัย 24 ปี ที่ทำได้บนเวทีแชมเปียนส์ ลีก
ตอนนี้ “เจ้าบุญทุ่ม” กลายเป็นฝ่ายควบคุมเกม โดยที่ มิลาน ทำได้แต่ตั้งรับแล้วรอจังหวะสวนกลับ ผ่านมาถึงนาที 24 เป็นโอกาสของเจ้าบ้านอีกครั้ง อันเดรส อิเนียสตา จ่ายบอลให้ เมสซี ยิงบริเวณกรอบเขตโทษ แต่ตรงตัว อับเบียติ รับเข้าซอง แต่ บาร์เซโลนา ทำบุกอยู่ดีๆ กลับถูกทีมเยือนตามตี 1-1 เสมอในนาที 33 จากการต่อบอลกันขึ้นมา ก่อนที่ สลาตัน อิบราฮิโมวิช ไหลบอลให้ อันโตนิโอ โนเชริโน หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แล้วซัดสวนตัว บิคตอร์ บัลเดส ซุกก้นตาข่าย
หลังโดนตามตีเสมอ ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เดินหน้าบุกต่อเพื่อทวงคืน นาที 35 ฟาเบรกาส สับไกยิงหน้าเขตโทษให้ อับเบียติ พุ่งปัดออกหลัง อีก 3 นาทีถัดมา ชาบี ได้วางเท้ายิงเน้นๆ ยังติดเซฟ อับเบียติ เหมือนเดิม แต่แล้วนาที 40 จากลูกเตะมุม อเลสซานโดร เนสตา ไปดึงเสื้อ คาร์เลส ปูโยล แม้ไม่รุนแรง แต่กรรมการก็เป่าให้ทีมเยือนเสียจุดโทษ เมสซี รับหน้าที่สังหารเหมือนเดิม คราวนี้ยิงมาทางขวามือตัวเอง ส่วน อับเบียติ พุ่งผิดทาง บาร์เซโลนาจึงขึ้นนำ 2-1 กระทั่งจบครึ่งแรก
มิลาน ลงสนามมาบุกก่อนในครึ่งหลัง อิบราฮิโมวิช ถูกเกี่ยวขาล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่กรรมการไม่ว่าอะไร ถัดมานาที 48 บาร์เซโลนา ได้ลุ้นฟรีคิกระยะ 25 หลา ชาบี ปั่นโค้งข้ามกำแพงหลุสามเหลี่ยมนิดเดียว อีก 2 นาทีถัดมา จากจังหวะโต้กลับเร็ว เมสซี ลากบอลมายิงหน้าเขตโทษ บอลแฉลบถูกแนวรับทีมเยือน ก่อนมาเข้าทาง อิเนียสตา หลุดเข้าไปล่อเป้าซัดผ่านตัว อับเบียติ ตุงตาข่ายทำให้เจ้าบ้านนำห่าง 3-1
“เจ้าบุญทุ่ม” เล่นต่อบอลกันสบายมากขึ้น แต่ มิลาน ไม่ท้อ รอคอยจังหวะสวนกลับเพื่อลุ้นทวงประตูคืน ในนาที 59 ก็มีโอกาสจากลูกเตะมุม คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ เปิดบอลมาเข้าหัว เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง โหม่งเสาแรกเหินข้ามคาน ถัดมานาที 61 เคราร์ด ปิเก เตะบอลสกัดไปถูกตัว โรบินโญ ทำให้กองหน้าบราซิลหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่ซัดไม่ผ่านตัว บัลเดส อย่างไรก็ตาม ถูกเป่าฟาวล์ เนื่องจากทำแฮนด์บอลก่อนแล้ว
ทีมเยือนเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรก อัลแบร์โต อาควิลานี ลงมาแทน เซดอร์ฟ ขณะที่เจ้าถิ่นปรับแทกติกเช่นกัน ชาบีถูกถอดออกแล้วให้ ติอาโก มาเล่นตรงกลางแทน เกมมาถึงนาที 68 ติอาโก เกือบบวกประตูเพิ่มให้ บาร์เซโลนา หลังจากได้บอลไหลมาจาก เมสซี จนหลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่บิดข้อเท้ามากไปซัดมุมแคบถากเสาสอง
นาที 69 อเล็กซานเดร ปาโต เป็นตัวสำรองคนที่ 2 ของ มิลาน ที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน บัวเต็ง อีก 4 นาทีถัดมา ปิเก มีอาการเจ็บที่ขาโดนเปลี่ยนตัวออกไปเช่นกันโดยที่ อาเดรียน ลงสนามมาแทน ก่อนที่ เซย์ดู เกตา เป็นตัวสำรองคนสุดท้ายของเจ้าถิ่นแทนที่ ฟาเบรกาส ขณะที่ ปาโต ลงสนามมาไม่กี่นาทีก็ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที 83 เนื่องจากบาดเจ็บ มักซี โลเปซ เป็นตัวสำรองคนสุดท้ายของทีมเยือน
ช่วงเวลาที่เหลือ “ปีศาจแดงดำ” ถอดใจปล่อยให้เจ้าถิ่นทำเกมบุกต่อเนื่อง จนมีโอกาสบวกสกอร์เพิ่มอีก 2-3 ครั้ง แต่ก็ยิงทิ้งยิงขว้างไปเอง สุดท้ายจบเกม 90 นาที ทำให้ บาร์เซโลนา เอาชนะ 3-1 รวมผลสองนัดด้วยสกอร์เดียวกัน ผ่านเข้าไปตัดเชือกเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันเทียบเท่าสถิติของ รีล มาดริด ในยุคทศวรรษ 1950 โดยรอพบกับผู้ชนะของคู่ระหว่าง “สิงห์บลู” เชลซี จากเกาะอังกฤษ หรือ เบนฟิกา จากโปรตุเกส
ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ หลังจากบุกเอาชนะ 2-0 ในนัดแรก “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค กลับมาเปิดรังอลิอันซ์ อารีนา เอาชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย อีก 2-0 จากการเหมาสองประตูของ อิวิกา โอลิช รวมผลสองนัดเอาชนะไป 4-0 รอเจอผู้ชนะคู่ระหว่าง อาโปเอล นิโคเซีย จากไซปรัส หรือ รีล มาดริด จากสเปน ในรอบรองชนะเลิศต่อไป
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
บาร์เซโลนา - บิคตอร์ บัลเดส, เคราร์ด ปิเก, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, คาร์เลส ปูโยล, เซร์คิโอ บุสเกต์, ดานี อัลเวส, ชาบี, เชส ฟาเบรกาส, อันเดรส อิเนียสตา, ไอแซค คูเอนกา, ลิโอเนล เมสซี
เอซี มิลาน - คริสเตียน อับเบียติ, อิกนาซิโอ อบาเต, อเลสซานโดร เนสตา, ฟิลิปป์ เม็กเซส, ลูกา อันโตนินี, อันโตนิโอ โนเชริโน, มัสซิโม อัมโบรซินี, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ, เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง, โรบินโญ, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช