xs
xsm
sm
md
lg

บอลไทย ตกลงรู้กติกากันไหม bis / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟุตบอล ไทย พรีเมียร์ ลีก 2012 เปิดฤดูกาลนัดแรกครบทั้ง 18 ทีมเรียบร้อย เจ้าบ้านกวาดชัยชนะกันถ้วนหน้า จะมีพลาดหวังก็ 3 ทีมที่ยังผสมผสานกันไม่ลงตัว ฟอร์มไม่เข้าเต็มข้ออย่างที่ต้องการ ผลออกแค่เสมอ เก็บได้เพียงแต้มเดียว แต่เหตุการณ์สำคัญของนัดเปิดฤดูกาลไปอยู่ที่เรื่องวุ่นๆในสนาม เอสซีจี สเตเดี้ยม

เกมระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ บีอีซี เทโรศาสน ในวันนั้น ทาง บีอีซี ดำเนินกระบวนการเปลี่ยนตัวผู้เล่นต่างชาติลงสนาม แต่ผู้ควบคุมการแข่งขันออกคำสั่งให้นักเตะผู้นั้นกลับออกมา ซึ่งความจริงการเปลี่ยนตัวผู้เล่นดังกล่าวก็ไม่มีสิ่งใดที่ละเมิดกฎ กติกาทั้งสิ้น

มังกรไฟ ส่งนักเตะต่างชาติลงสนาม 4 คนคือ ไคลตง ซิววา ( Cleiton Oliveira Silva ) คาเล็ด คารรูบี ( Khaled Kharroubi ) กิลเบิร์ท คูมเซิ่น ( Gilbert Koomson ) และ อเล็กซานดาร์ โยวาโนวิช ( Aleksandar Jovanovic ) ซึ่งรายหลังนี่เป็นนักเตะเชื้อสาย เซรเบีย แต่ไปเกิดใน ออสตราเลีย ได้สิทธิ์โควตานักเตะต่างชาติเอเชีย

เมื่อเกมผ่านไป กิลเบิร์ท โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ก็ถือว่าเสียสิทธิ์ตรงนี้ไป 1 คน คราวนี้ เทโร เหลือโควตานักเตะต่างชาติในสนาม 3 คน ซึ่งต้องเป็น ต่างชาติเอเชีย อย่างน้อย 1 คน แล้ว เอกพันธ์ อินทเสน ถูกส่งลงมาเล่นแทน ไคลตง ทำให้ในสนามทางฝั่ง บีอีซี เหลือนักเตะต่างชาติเพียง 2 คนคือ คารรูบี กับ โยวาโนวิช ซึ่งถ้าจะเปลี่ยนเอานักเตะต่างชาติลงมาอีกสักคนก็ย่อมทำได้

ผมว่า ความสับสนอยู่ที่หลายคนยังไม่เข้าใจกติกาโควต้านักเตะต่างชาติที่มักใช้คำว่า 3+1 โดยเฉพาะฤดูกาลนี้ มันก็กฎเดียวกันกับที่ใช้ในการแข่งขันของอีกหลายประเทศอย่างเช่น ชายนีส ซุพเพอร์ ลีก ( Chinese Super League - CSL ) ของ จีน หรือ เค ลีก ( K-League ) ของ เกาหลีใต้ นั่นแหละ

เพื่อประกันความสับสน มันก็ต้องอธิบายว่า “ ทีมหนึ่งสามารถใช้ผู้เล่นต่างชาติในสนามได้ 4 คน ซึ่งในจำนวนนี้ต้องเป็นนักเตะจากชาติเอเชีย ( AFC Country ) อย่างน้อย 1 คน ” ซึ่งหมายความว่า จะเป็นนักเตะต่างชาติในเอเชียทั้ง 4 คนก็ไม่ผิด เอาไปหักลบจากจำนวนนักเตะต่างชาติเองครับ ไม่ใช่บอกว่า 3+1 แล้วไม่มีการอบรม สัมมนา อธิบาย ให้กรรมการ ผู้ควบคุมการแข่งขัน หรือผู้อื่นที่เกี่ยวข้องได้เข้าใจตรงกัน

การที่ แม็ทช์ คอมมิชเชินเน่อร์ เข้ามาเรียก ทาเคโนริ ฮายาชิ ( Takenori Hayashi ) นักเตะญี่ปุ่นที่ถูกเปลี่ยนตัวเข้าไปแทน ชนาธิป สรงกระสินธ์ กลับออกมานอกสนาม แม้จะให้เหตุผลแก้ตัวในภายหลังอย่างไร มันฟังไม่ขึ้น เพราะมันไม่ได้มีอะไรผิดกติกา

ผมไม่เชื่อว่า แกหลงนับจำนวนนักเตะต่างชาติในสนามผิด เพราะนักเตะก็ยังอยู่ในสนามให้ทำการนับทบทวนได้ทุกขณะ มันน่าจะเป็นเรื่องความไม่เข้าใจกติกามากกว่า แกคงไปเข้าใจว่า 3+1 นั้นหมายความว่า นักเตะต่างชาติเอเชียต้องลงได้เพียงคนเดียว ที่เหลือเป็นนักเตะต่างชาตินอกเอเชีย หรือ แกอาจดันไปนับรวมนักเตะต่างชาติที่ลงสนามทั้งหมด แม้ว่าจะถูกเปลี่ยนตัวออกไปแล้วก็ถือว่านับเป็นใช้สิทธิ์เป็น 1 คนไปด้วย

อันนี้ เสี่ยเป้ รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังเผลอออกอาการสำลักในชัยชนะที่กำลังคืบเข้าไปใกล้ด้วย แม้จะแก้ตัวในภายหลังว่าที่จริงนั้นตนต้องการออกไปประท้วงว่า นักเตะถูกเปลี่ยนตัวก้าวลงสนามไปแล้ว ถือว่ามีการเปลี่ยนตัวแล้ว จะแก้ไขด้วยการเรียกให้กลับออกมาไม่ได้ ต้องถือว่าได้กระทำผิดไปแล้ว บีอีซี ต้องถูกปรับแพ้ แพ้แล้ว แพ้แล้ว อันนี้มันก็แสดงให้เห็นว่า เบลอเหมือนกัน

งานนี้ แม็ตช์ คอมมิชเชินเน่อร์ ออกมาประกาศยอมรับความผิดพลาด โดยลงโทษแบนตนเอง 2 นัด ซึ่งผมว่า ไม่พอครับ มันต้องเป็นเดือน ส่วนผลการแข่งขันนั้น แม้จะอ้างว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่มันอาจถูกประกาศเป็นโมฆะได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ ผู้ควบคุมการแข่งขัน ซึ่งถือเป็น บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด ถือเป็น สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เองเลย ใช้กติกาผิดในการแข่งขัน อันนี้ต้องจัดให้แข่งใหม่ครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น