แมนเชสเตอร์ ซิตี ฮึดสู้ในครึ่งหลังยิงแซงเอาชนะ สปอร์ติง ลิสบอน จากโปรตุเกสไปได้ 3-2 ทว่าต้องกระเด็นตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกยูโรปา ลีก ตาม "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปติดๆ หลังลิสบอน เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน 3-3 เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง
แมนเชสเตอร์ ซิตี (0)3-2(1) สปอร์ติง ลิสบอน
(ลิสบอน เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน 3-3)
"เรือใบสีฟ้า" เปิดรังอิติฮัด สเตเดียม ต้อนรับ สปอร์ตติง ลิสบอน ทีมดังแห่งลีกโปรตุเกส ก่อนเกมสถานการณ์เจ้าบ้านตกเป็นรองหลังจากนัดแรก บุกไปแพ้มาก่อน 0-1 แต่ยังมีโอกาสทะลุรอบต่อไป ส่วนรูปทีม โรแบร์โต มันชินี จัดส่งผู้เล่นเต็มสูบ ดาบิด ซิลบา,เซร์คิโอ อกูเอโร และ มาริโอ บาโลเตลลี ล่าตาข่าย ส่วนทีมเยือนมี ริคกี ฟาน วูลฟ์สวิงเคล เป็นตัวทีเด็ด
10 นาทีแรก ทั้งสองทีมครองเกมได้อย่างสูสี ลิสบอน มีดีกว่าเล็กน้อย โดยมีจังหวะพังประตูจากลูกโหม่งของ วูล์ฟสวิงเคล แต่บอลเฉียดเสาสองไปนิดเดียว ส่วนซิตี มีโอกาสบ้าง จังหวะซิลบา เลื้อยมาสุดเส้นหลังก่อนเปิดบอลเข้ากลางให้ จอห์นสัน จับแล้วดีดด้วยซ้าย แต่บอลโค้งผ่านเสาสองแบบน่าเสียดาย
นาที 20 ซิตี มีโอกาสอีกครั้ง บาโลเตลลี จับบอลหน้าเขตโทษก่อนซัดด้วยขวา แต่บอลติดบล็อคกองหลังลิสบอนออกหลังไป ส่วนนาที 24 ลิสบอน เกือบได้จุดโทษหลังเฟร์นานเดซ โดนชมล้มลงในกรอบเขตโทษของซิตี ทว่าผู้ตัดสินไม่เป่าเป็นจุดโทษ แถมสมนาคุณใบเหลืองให้เฟร์นานเดซ โทษฐานแกล้งพุ่งล้ม
แต่แล้วนาที 32 ลิสบอน บุกมากระตุกหนวดเสือขึ้นนำก่อน 1-0 บาโลเตลลี ไปทำฟาวล์ใส่อินซัวล้มหน้าเขตโทษ และเป็นเฟร์นานเดซ รับหน้าที่ปั่นบอลโค้งเข้าเสาไกลผ่านมือ โจ ฮาร์ท ไปแบบสวยงาม เท่านั้นไม่พอก่อนหมดครึ่งแรก ลิสบอนได้อีกเม็ด อิสไมลอฟ เปิดบอลตัดเข้ากลางให้วูลฟ์สวิงเคล ส่งบอลซุกตาข่ายเป็น 2-0 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว ซิตี ต้องยิง 4 ลูกในครึ่งหลังเพื่อเข้ารอบ
ครึ่งหลัง ซิตี โหมบุกหนักหวังหาประตูเรียกจุดเปลี่ยน แต่ยังทำไม่ได้ ร้อนถึง โรแบร์โต มันชิตี ต้องส่ง เอดิน เซโก ลงสนามแทน ดาวิด ปิซาร์โร ที่ทำผลงานได้ไม่ดีนักในเกมนี้ และนาที 59 ก็มาได้ประตูตามต้องการ ตูเร แทงเข้ากลางหน้าประตูให้อกูเอโร จับบอลโล่งๆก่อนยิงตามมาเป็น 1-2
เจ้าบ้านเกือบได้ประตูตีเสมอนาที 64 เซโก ไหลบอลหน้าเขตโทษให้บาโลเตลลี วิ่งมายิงแต่ผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าก่อน จากนั้น มันชินี เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง ซามีร์ นาสรี ลงมาแทน ดาบิด ซิลบา ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก และนาที 74 ก็มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 อกูเอโร โดนเนโต เสียบล้มในเขตโทษ และเป็นบาโลเตลลี แปซุกตาข่ายแบบง่ายดาย
ท้ายเกมเริ่มเข้มข้น และซิตีก็พลิกขึ้นนำ 3-2 เซโก โหม่งชงให้อกูเอโรที่ยืนรออยู่เสาสองวอลเลย์เข้าประตูไป ซิตีขออีกประตูก็จะผ่านเข้ารอบ และเกือบทำสำเร็จจากลูกโหม่งของโจ ฮาร์ท ที่วิ่งเติมขึ้นมาช่วงท้ายเกม แต่ก็ทำไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี ชนะสปอร์ติง ลิสบอน 3-2 ประตูรวมสองนัดเท่ากันที่ 3-3 แต่ลิสบอนผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยกฏประตูทีมเยือน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี : โจ ฮาร์ท,โคโล ตูเร,ไมกาห์ ริชาร์ดส,อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ,สเตฟาน ซาวิช,ดาวิด ปิซาร์โร,ดาบิด ซิลบา,อดัม จอห์นสัน,ยายา ตูเร,เซร์จิโอ อกูเอโร,มาริโอ บาโลเตลลี
สปอร์ติง ลิสบอน : รุย ปาทริซิโอ,อันแดร์สัน โปลกา,เอมิเลียโน อินซัว,ดาเนียล คาร์ริโก,ซานเดา,สติจ์น ชาร์ส,มาธิอัส เฟร์นานเดซ,ดิเอโก คาเปล,ยรูโน เปเรรินญา,มารัต อิสไมลอฟ,ริคกี ฟาน วูลฟ์สวิงเคล
ผลฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง
แอธเลติก บิลเบา 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
(บิลเบา เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 5-3)
ฮันโนเวอร์ 4-0 สตองดาร์ด ลีแอช
(ฮันโนเวอร์ เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 6-2)
พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน 1-1 บาเลนเซีย
(บาเลนเซีย เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 5-3)
อูดิเนเซ 2-1 อาแซด อัลค์มาร์
(อัลค์มาร์ เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 3-2)
แมนเชสเตอร์ ซิตี 3-2 สปอร์ติง ลิสบอน
(ลิสบอน เข้ารอบด้วยผลประตูทีมเยือน 3-3)
ชาลเก 04 4-1 เอฟซี ทเวนเต
(ชาลเก เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 4-2)
เบซิคตัส 0-3 แอตเลติโก มาดริด
(มาดริด เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 6-1)
โอลิมเปียกอส 1-2 เมทัลลิส คาร์เคียฟ
(คาร์เคียฟ เข้ารอบด้วยผลประตูทีมเยือน 2-2)