คอลัมน์ "Final Quarter" โดย "ลุงแซม"
"หมอดูย่อมคู่กับหมอเดา" นี่คงเป็นคำปรามาสสำหรับผู้ที่ไม่เชื่อเกี่ยวกับการดูดวง แต่สำหรับคนไทยแล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีอยู่ไม่น้อยที่อยากรู้เกี่ยวกับดวงชะตาตัวเองว่าจะดำเนินไปในทิศทางใดในอนาคต ซึ่งปัจจุบันการทำนายมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งในคอลัมน์ตอนนี้ เผชิญผู้เขียนไปอ่านเจออีกหนึ่งศาสตร์เกี่ยวกับการพยากรณ์ตัวเลขวัน-เดือน-ปีเกิด รวมถึงปีตามจันทรคติ โดย แกรี กรินเบิร์ก นักพยากรณ์เกี่ยวกับตัวเลขและนักโหราศาสตร์ชื่อดังในสหรัฐอเมริกา ที่ทำนายทายทักนักกีฬาอาชีพแวดวง "อเมริกันเกมส์" โดยเฉพาะในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) จึงอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง
โดย กรินเบิร์ก ชี้เหตุที่เกี่ยวกับกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับ หลิน ซูเหา หรือ เจเรมี หลิน พอยท์นการ์ดอเมริกันเชื้อสายไต้หวัน ที่กำลังหุงขึ้นหม้ออยู่กับ นิวยอร์ก นิกส์ เนื่องจาก "อาหลิน" เกิดในปี 1988 ซึ่งถือเป็นปีมังกรทองและได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งในปี 2012 ด้วยความบังเอิญหรือไม่นั้น หลิน เกิดวันที่ 23 ดันมาตรงกับวันขึ้นปีใหม่จีนหรือ "ตรุษจีน" ปีนี้พอดิบพอดี ซึ่งวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมานี้เอง ผู้เล่นดีกรีเศรษฐศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถูกต้นสังกัดดึงตัวขึ้นมาจากดี-ลีก (NBA Development League)
จากสถิติการลงสนาม 5 เกมก่อนปีมังกรทอง หลิน ทำเฉลี่ยแค่ 9 แต้ม แต่พอเข้าสู่ปีใหม่จีนอย่างเต็มตัว "อาหลิน" ที่เข้าสู่ช่วงอายุ 24 ปี (นับตามแบบจีน) ดวงพุ่งเหลือกำลังทั้งเกมแจ้งเกิดลุกจากม้านั่งสำรองกด 25 แต้มใส่ นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ต่อด้วยข่มใส่ โคบี ไบรอันท์ ด้วยการทำคนเดียว 38 แต้ม พลิกล็อกโค่น แอลเอ เลเกอร์ส เสียอย่างนั้น
อย่างไรก็ตาม กรินเบิร์ก ทำนายว่า หลิน ความแรงจะตกลงไปบ้างเมื่อสิ้นสุดเดือนเมษายน นั่นคือช่วงที่เข้าสู่เพลย์ออฟพอดี และดวงของพ่อหนุ่มรายนี้คงไม่ถึงขั้นพุ่งสูงสุดไปตลอดรอดฝั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผ่านพ้นปีมังกรทองไปแล้ว จากการนำตัวเลขวัน-เดือน-ปีเกิดมาบวกกัน ซึ่งตกที่ผลลัพธ์ 3 (หลิน เกิด 23 สิงหาคม ปี 1988 ดังนั้นการบวกคือ 8+2+3+1+9+8+8 = 39 แยกเป็น 3+9 = 12 และ 1+2 =3)
พูดถึงศาสตร์ของการบวกเลขวัน-เดือน-ปี-เกิด กรินเบิร์ก ระบุชัดผู้เล่นที่จะประสบความสำเร็จได้ใน NBA 80 เปอร์เซ็นต์ ผลลัพธ์ต้องออกมาเป็น 1 หรือ 11 ส่วนประเภทที่ทำท่าเด่นแต่มีอุปสรรคเรื่องอาการบาดเจ็บเข้ามาเกี่ยวพัน เหตุจากตกที่เลข 7 ซึ่งบรรทัดต่อจากนี้เป็นผลลัพธ์การคำนวณที่ออกมาอย่างเหลือเชื่อ
เริ่มจากตก 11 ไมเคิล จอร์แดน 2-17-1963: 2+1+7+1+9+6+3=29 --> 2+9=11 , ดีเวย์น เหว็ด 1-17-1982: 1+1+7+1+9+8+2=29 --> 2+9=11 , โคบี ไบรอันท์ 8-23-1978 ,โดมินิค วิลกินส์ 1-12-1960 , เควิน การ์เน็ตต์ 5-19-1976 , อมาเร สเตาดาไมร์ 11-16-1982 , คาร์เมโล แอนโธนีย์ 5-29-1984 , เลอบรอน เจมส์ 12-30-1984 ต่อด้วยตกที่ 1 ชาคิล โอนีล 3-6-1972: 3+6+1+9+7+2=28 --> 2+8=10 --> 1+0=1 , เควิน ดูแรนท์ 9-29-1988: 9+2+9+1+9+8+8=46 --> 4+6=10 --> 1+0=1 , เจสัน คิดด์ 3-23-1973 รวมทั้ง เทรซีย์ แม็คเกรดี 5-24-1979
ส่วนตัวอย่างผู้เล่นสตาร์ที่ขึ้นไม่สูงสุด จากผลลัพธ์เลขตกลงที่ 7 ก็มีทั้ง เพนนี ฮาร์ดอเวย์ 7-18-1971: 7+1+8+1+9+7+1=34 --> 3+4=7 , แบรนดอน รอย 7-23-1984: 7+2+3+1+9+8+4=34 --> 3+4=7 , แกรนท์ ฮิลล์ 10-5-1972 , บารอน เดวิส 4-13-1979 , แครอน บัตเลอร์ 3-13-1980 , เอริค แดมเพียร์ 7-14-1975 , ชอว์น ลิฟวิงตัน 9-11-1985 , แอนดรูว์ โบกัต 11-28-1984 , เคนดริก เพอร์กินส์ 11-10-1984 หรือว่า ลามาร์ โอดอม 11-6-1979
นอกจากนี้ กรินเบิร์ก ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใด ชาร์ล็อตต์ บ็อบแคทส์ ถึงยังจมปลกอยู่ถึงทุกวันนี้ (ปัจจุบันสถิติชนะ 5 แพ้ 31 เกม) อย่างแรกคือ วันที่พวกเขาก่อตั้งทีมขึ้นมาคือ 12-18-2002 ซึ่งผลลัพธ์เลขตกที่ 7 อีกทั้งวันเซ็นสัญญากับโค้ชที่ผ่านๆ มารวมทั้ง พอล ไซลัส คือวันที่ 7 ดังนั้นหาก ไมเคิล จอร์แดน (เจ้าของทีม) อยากเห็นความสำเร็จ คงต้องแก้เคล็ดด้วยการเปลี่ยนชื่อทีมเสียใหม่
สุดท้าย กรินเบิร์ก พูดถึงกรณีที่ โคบี และแชค อยู่ภายใต้ชายคาเดียวกันที่แอลเอ (เลเกอร์ส) ไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะปีนักษัตรทั้งคู่เป็นปรปักษ์กัน โดย โคบี เกิดปี 1978 (มะเมีย) ขณะที่ แชค เกิดปี 1972 (ชวด) ส่วนที่ เจอร์รี สโลน ตำนานโค้ชของ ยูทาห์ แจซซ์ มีอันแตกหักกับ เดอรอน วิลเลียมส์ การ์ดจ่ายทีมชาติสหรัฐฯ เหตุจาก สโลน เกิดปี 1954 (มะเมีย) และวิลเลียมส์ เกิดปี 1984 (ชวด) นั่นเอง
"หมอดูย่อมคู่กับหมอเดา" นี่คงเป็นคำปรามาสสำหรับผู้ที่ไม่เชื่อเกี่ยวกับการดูดวง แต่สำหรับคนไทยแล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีอยู่ไม่น้อยที่อยากรู้เกี่ยวกับดวงชะตาตัวเองว่าจะดำเนินไปในทิศทางใดในอนาคต ซึ่งปัจจุบันการทำนายมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งในคอลัมน์ตอนนี้ เผชิญผู้เขียนไปอ่านเจออีกหนึ่งศาสตร์เกี่ยวกับการพยากรณ์ตัวเลขวัน-เดือน-ปีเกิด รวมถึงปีตามจันทรคติ โดย แกรี กรินเบิร์ก นักพยากรณ์เกี่ยวกับตัวเลขและนักโหราศาสตร์ชื่อดังในสหรัฐอเมริกา ที่ทำนายทายทักนักกีฬาอาชีพแวดวง "อเมริกันเกมส์" โดยเฉพาะในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) จึงอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง
โดย กรินเบิร์ก ชี้เหตุที่เกี่ยวกับกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับ หลิน ซูเหา หรือ เจเรมี หลิน พอยท์นการ์ดอเมริกันเชื้อสายไต้หวัน ที่กำลังหุงขึ้นหม้ออยู่กับ นิวยอร์ก นิกส์ เนื่องจาก "อาหลิน" เกิดในปี 1988 ซึ่งถือเป็นปีมังกรทองและได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งในปี 2012 ด้วยความบังเอิญหรือไม่นั้น หลิน เกิดวันที่ 23 ดันมาตรงกับวันขึ้นปีใหม่จีนหรือ "ตรุษจีน" ปีนี้พอดิบพอดี ซึ่งวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมานี้เอง ผู้เล่นดีกรีเศรษฐศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถูกต้นสังกัดดึงตัวขึ้นมาจากดี-ลีก (NBA Development League)
จากสถิติการลงสนาม 5 เกมก่อนปีมังกรทอง หลิน ทำเฉลี่ยแค่ 9 แต้ม แต่พอเข้าสู่ปีใหม่จีนอย่างเต็มตัว "อาหลิน" ที่เข้าสู่ช่วงอายุ 24 ปี (นับตามแบบจีน) ดวงพุ่งเหลือกำลังทั้งเกมแจ้งเกิดลุกจากม้านั่งสำรองกด 25 แต้มใส่ นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ต่อด้วยข่มใส่ โคบี ไบรอันท์ ด้วยการทำคนเดียว 38 แต้ม พลิกล็อกโค่น แอลเอ เลเกอร์ส เสียอย่างนั้น
อย่างไรก็ตาม กรินเบิร์ก ทำนายว่า หลิน ความแรงจะตกลงไปบ้างเมื่อสิ้นสุดเดือนเมษายน นั่นคือช่วงที่เข้าสู่เพลย์ออฟพอดี และดวงของพ่อหนุ่มรายนี้คงไม่ถึงขั้นพุ่งสูงสุดไปตลอดรอดฝั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผ่านพ้นปีมังกรทองไปแล้ว จากการนำตัวเลขวัน-เดือน-ปีเกิดมาบวกกัน ซึ่งตกที่ผลลัพธ์ 3 (หลิน เกิด 23 สิงหาคม ปี 1988 ดังนั้นการบวกคือ 8+2+3+1+9+8+8 = 39 แยกเป็น 3+9 = 12 และ 1+2 =3)
พูดถึงศาสตร์ของการบวกเลขวัน-เดือน-ปี-เกิด กรินเบิร์ก ระบุชัดผู้เล่นที่จะประสบความสำเร็จได้ใน NBA 80 เปอร์เซ็นต์ ผลลัพธ์ต้องออกมาเป็น 1 หรือ 11 ส่วนประเภทที่ทำท่าเด่นแต่มีอุปสรรคเรื่องอาการบาดเจ็บเข้ามาเกี่ยวพัน เหตุจากตกที่เลข 7 ซึ่งบรรทัดต่อจากนี้เป็นผลลัพธ์การคำนวณที่ออกมาอย่างเหลือเชื่อ
เริ่มจากตก 11 ไมเคิล จอร์แดน 2-17-1963: 2+1+7+1+9+6+3=29 --> 2+9=11 , ดีเวย์น เหว็ด 1-17-1982: 1+1+7+1+9+8+2=29 --> 2+9=11 , โคบี ไบรอันท์ 8-23-1978 ,โดมินิค วิลกินส์ 1-12-1960 , เควิน การ์เน็ตต์ 5-19-1976 , อมาเร สเตาดาไมร์ 11-16-1982 , คาร์เมโล แอนโธนีย์ 5-29-1984 , เลอบรอน เจมส์ 12-30-1984 ต่อด้วยตกที่ 1 ชาคิล โอนีล 3-6-1972: 3+6+1+9+7+2=28 --> 2+8=10 --> 1+0=1 , เควิน ดูแรนท์ 9-29-1988: 9+2+9+1+9+8+8=46 --> 4+6=10 --> 1+0=1 , เจสัน คิดด์ 3-23-1973 รวมทั้ง เทรซีย์ แม็คเกรดี 5-24-1979
ส่วนตัวอย่างผู้เล่นสตาร์ที่ขึ้นไม่สูงสุด จากผลลัพธ์เลขตกลงที่ 7 ก็มีทั้ง เพนนี ฮาร์ดอเวย์ 7-18-1971: 7+1+8+1+9+7+1=34 --> 3+4=7 , แบรนดอน รอย 7-23-1984: 7+2+3+1+9+8+4=34 --> 3+4=7 , แกรนท์ ฮิลล์ 10-5-1972 , บารอน เดวิส 4-13-1979 , แครอน บัตเลอร์ 3-13-1980 , เอริค แดมเพียร์ 7-14-1975 , ชอว์น ลิฟวิงตัน 9-11-1985 , แอนดรูว์ โบกัต 11-28-1984 , เคนดริก เพอร์กินส์ 11-10-1984 หรือว่า ลามาร์ โอดอม 11-6-1979
นอกจากนี้ กรินเบิร์ก ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใด ชาร์ล็อตต์ บ็อบแคทส์ ถึงยังจมปลกอยู่ถึงทุกวันนี้ (ปัจจุบันสถิติชนะ 5 แพ้ 31 เกม) อย่างแรกคือ วันที่พวกเขาก่อตั้งทีมขึ้นมาคือ 12-18-2002 ซึ่งผลลัพธ์เลขตกที่ 7 อีกทั้งวันเซ็นสัญญากับโค้ชที่ผ่านๆ มารวมทั้ง พอล ไซลัส คือวันที่ 7 ดังนั้นหาก ไมเคิล จอร์แดน (เจ้าของทีม) อยากเห็นความสำเร็จ คงต้องแก้เคล็ดด้วยการเปลี่ยนชื่อทีมเสียใหม่
สุดท้าย กรินเบิร์ก พูดถึงกรณีที่ โคบี และแชค อยู่ภายใต้ชายคาเดียวกันที่แอลเอ (เลเกอร์ส) ไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะปีนักษัตรทั้งคู่เป็นปรปักษ์กัน โดย โคบี เกิดปี 1978 (มะเมีย) ขณะที่ แชค เกิดปี 1972 (ชวด) ส่วนที่ เจอร์รี สโลน ตำนานโค้ชของ ยูทาห์ แจซซ์ มีอันแตกหักกับ เดอรอน วิลเลียมส์ การ์ดจ่ายทีมชาติสหรัฐฯ เหตุจาก สโลน เกิดปี 1954 (มะเมีย) และวิลเลียมส์ เกิดปี 1984 (ชวด) นั่นเอง