xs
xsm
sm
md
lg

ท่องแดนมะกัน (2) / เด็กปั๊ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์ ON TRACK โดย เด็กปั๊ม

สัปดาห์ก่อนทิ้งท้ายกันเอาไว้ว่าจะนำเรื่องราวตะลุยนิวยอร์กมาฝากกันอีกสักครั้ง โดยเฉพาะการที่ผมเองมีโอกาสได้ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน (SUBWAY) ที่เมื่อหยิบแผนที่มาดูแล้วมันช่างดูสับสนวุ่นวายยิ่งนัก แต่พอได้สัมผัสมันจริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด (แม้จะมีหลงบ้างอะไรบ้าง ตามประสาเด็กปั๊มก็ตาม)

โดยทริปเดินทางของผมที่มีโอกาสได้ไปร่วมงานไนกี อินโนเวชัน ซัมมิต ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงวันที่ 19-24 ก.พ.ที่ผ่านมา หากตัดวันเดินทางที่แสนจะยาวนานออกไป ระยะเวลาที่อยู่ในนิวยอร์ก ก็เหลือเพียงวันที่ 20-22 เท่านั้น ซึ่งผมเองตั้งใจว่าวันแรกที่ไปถึง (ช่วงเที่ยงของวันที่ 20 ก.พ.) จะออกมานั่งรถไฟใต้ดินผจญภัยในเมืองเสียหน่อย ทว่าด้วยความอ่อนล้าจากการเดินทาง ทำให้ผมงีบหลับไปตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันนั้นและไปตื่นอีกทีในช่วง 2 ทุ่มของวันเดียวกัน จบโปรแกรมต่างๆมีอันต้องวืดลง เพราะเมื่อออกไปสัมผัสอากาศในช่วงเวลานั้น บอกตามว่ากระแสลมกับอากาศไม่ถึง 5 องศา มันเป็นอะไรที่หนาวสุดขั่วจริงๆ

หลังวืดการตะลุยเมืองในวันแรก เข้าสู่วันที่ 21 โปรแกรมที่ไนกีนั้นจัดเอาไว้ถือว่าแน่นเอียดจนไม่มีเวลาปลีกตัว จะมีได้เห็นสีสันในย่านไทม์ สแควร์ บ้างก็ในช่วงนั่งรถลินคอนสีดำคันโต (เจ้าภาพจัดเอาไว้ให้สำหรับคณะนักข่าวจากอาเซียน) ในช่วงค่ำคืน รวมถึงได้เห็นความคึกคักบริเวณ เมดิสัน สแควร์ การ์เดน สังเวียงแข่งของทีมนิวยอร์ก นิกส์ ทีมดังแห่งศึกยัดห่วงเอ็นบีเอ กันพอหอมปากหอมคอ

ทว่ามานิวยอร์กทั้งที ไม่ได้นั่งซับเวย์ ก็คงจะกระไรอยู่ครับ ผมเองใช้เวลาในช่วงบ่ายของวันที่ 22 ก.พ. หลังเสร็จสิ้นภารกิจงานไนกี ลองหยิบแผนที่รถไฟฟ้านิวยอร์ก พร้อมสะพายเป้คู่ใจ ควงแขน เจ้โอ๋ รองบก.ข่าวกีฬาแห่งบ้านพระอาทิตย์ ไล่หาสถานีที่ใกล้ที่สุดกับโรงแรมนั่นก็คือสถานีสปริงสตรีทในย่านโซโห โดยมีเป้าหมายอยู่ที่สถานีโบว์ลิงกรีน ซึ่งเป็นจุดที่ดูจากแผนที่แล้วว่ามองใกล้กับเทพีเสรีภาพมากที่สุด

ก่อนออกตัว ยอมรับเลยครับว่าไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดปลีกย่อยของเส้นทางรถไฟฟ้ามากนัก มองแต่ว่าเส้นทางที่เรานั่งไปเป็นสายมีเขียว ทว่า หลังจากซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียวราคา 2.5 เหรียญสหรัฐ (ราว 75 บาท) นั่งจากสปริงสตรีท มุ่งหน้าโบว์ลิงกรีนนั้น ก็เพิ่งจะรู้ว่าสายสีเขียวที่นั่งแยกย่อยเป็นเขียว 4 ,5 และ 6 และต้องหาช่องทางเปลี่ยนขบวนเพื่อให้ไปถึงจุดหมาย และสุดท้ายซับเวย์ นิวยอร์กก็นำผมไปถึงที่หมายจนได้

แม้จะได้เห็นเทพีเสรีภาพขนาดเท่าไม้ขีดไฟ เพราะว่าไม่ได้ลงเรือเฟอร์รีข้ามฝั่งไปยัง statue of liberty แต่ก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกและอารมณ์ของผู้คนจากทั่วโลกว่าทำไมจะต้องมาชักภาพกันเป็นที่ระลึก ณ จุดดังกล่าว ก่อนที่จะใช้เส้นรถไฟฟ้าสายเดิม นั่งย้อนกลับเพื่อไปแวะช็อปปิงที่ห้าง เซ็นจูรี ทเวนตีวัน ที่ตั้งอยู่ ณ สถานีฟูลตัน สตรีท ซึ่งจุดนี้เองครับเป็นบริเวณที่เคยมีตึกเวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ ตั้งตระหง่าน ก่อนจะเกิดเรื่องเศร้าในเหตุการณ์ 911 เมื่อ 11 ปีก่อน

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของทริปตะลุยนิวยอร์กระหว่างวันที่ 19-24 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นทริปที่ทำให้ผมรู้สึกว่าหากมีโอกาสคงจะต้องกลับไปที่นั่นอีกครั้งแน่นอน ส่วนเรื่องราวในวงการมอเตอร์สปอร์ต ผมจะนำเบื้องหน้าเบื้องหลังการเปิดตัวรัฐภาคย์ วิไลโรจน์ กับทีมเกรซินี มาพูดคุยกันอีกครั้งในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น