แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่งทีมสำรองแทบยกชุด แต่ไม่พลาดเปิดบ้านเอาชนะ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี 2-0 พร้อมทำแต้มทาบ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี จ่าฝูงเป็น 54 แต้มเท่ากัน ขณะที่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังโชว์ฟอร์มร้อนบุกถล่ม วูลฟ์แฮมตัน 3-0 ในศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ คืนวันอังคารที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 สโต๊ค ซิตี
เกมนัดกลางสัปดาห์ ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเล่นในบ้านเจอกับ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี ซึ่งเกมนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดทีมชุดผสม ส่ง เบน อามอส ประตูมือ 4 เฝ้าเสาแทน ดาบิด เด เคอา ที่มีอาการป่วย ส่วนคู่หน้าใช้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และ ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ล่าตาข่าย ด้านทีมเยือน ได้ เจอร์เมน เพนแนนท์ กลับมาป่วนเกมริมเส้น และมี ปีเตอร์ เคราซ์ หัวหอกร่างโย่ง และ เคนวิน โจนส์ ยืนค้ำในแดนหน้า
ครึ่งแรก ทั้งสองฝ่ายยังดูเชิงกันอยู่ ก่อนที่ผีแดง ได้ลุ้นจังหวะแรกนาที 17 อีแวนส์ ครองบอลอยู่หน้าเขตโทษ ก่อนจ่ายตัดเข้ากลางให้ ชิชาริโต วิ่งสอดแนวรับทีมเยือนขึ้นมายิง แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน จากนั้นนาที 20 คาร์ริค เกี่ยวบอลเข้ามาให้สโคลส์ ซัดจากแถวสอง แต่บอลเบียดเสาสองออกไปนิดเดียว
รูปเกมเป็นทางเจ้าบ้านที่เหนือกว่าชัดเจน ขาดแต่เพียงสกอร์ขึ้นนำ นาที 33 ปาร์ค ไหลให้ เบอร์บาตอฟ ก่อนแทงขึ้นให้คาร์ริค วิ่งมายิงหักข้อไปทางขวา แต่บอลกลิ้งหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย กระทั่งนาที 37 แมนยูฯ ได้จุดโทษ จังหวะปาร์ค โดนเพนแนนท์เข้าเสียบจากด้านหลัง และเป็น ชิชาริโต สังหารไม่พลาดให้ทีมนำ 1-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว หลังสโต๊ค พยายามบุกมายิงบ้างช่วงท้าย แต่ยังทำไม่สำเร็จ
ครึ่งหลังผ่านมานาที 51 สโต๊ค เสียจุดโทษอีกรอบ จังหวะ วอลเตอร์ส ไปเบียดวาเลนเซีย ล้มในเขตโทษ และคราวนี้เป็นทางเบอร์บาตอฟ เปลี่ยนมาเป็นคนสังหารไปทางเสาสอง โซเรนเซน พุ่งถูกทางแต่ปัดไม่ทัน ทำให้สกอร์เจ้าถิ่นออกนำอีกครั้งเป็น 2-0 ส่วนนาที 61 สโต๊ค หวิดได้ประตูไล่ตาม เพนแนนท์ เปิดฟรีคิกจากริมเส้นฝั่งขวา บอลลอยเข้าหา โจนส์ วิ่งมาชาร์จ แต่บอลไม่ตรงกรอบ
หลังได้ประตูทิ้งห่าง 2 ลูก แมนยูฯ ผ่อนเกมบุกลง แล้วถอดเอา ชิชาริโต ออก แล้วส่ง พอล ป็อกบา กองกลางดาวรุ่งของทีมลงสนามไปเล่นแทน ซึ่งลงมาก็เกือบบวกประตูเพิ่มได้นจาที 78 วาเลนเซีย เปิดบอลจากมุมธงเข้ามาให้ปาร์ค พักก่อนจ่ายคืนวาเลนเซีย วางโด่งให้ป็อกบา ซัดแต่ติดบล็อคแนวรับสโต๊ค
ท้ายเกม ไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ สโต๊ค ซิตี ไปได้สบายๆ 2-0 แถมยังเป็นข่าวดีสำหรับทีม เมื่ออริร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี จ่าฝูงของตาราง บุกไปพ่าย เอฟเวอร์ตัน 0-1 โดย "ท็อฟฟี" ได้ประตูชัยจาก ดารอน กิปสัน อดีตเด็กเก่าของ "ผีแดง" นาที 60 ทำให้เวลานี้ "ผีแดง" มีแต้มเท่ากับซิตี ที่ 54 คะแนน อย่างไรก็ตามยังประตูได้เสียยังเป็นรอง รั้งอันดับ 2 ต่อไป
ขณะที่เกมอีกคู่ ที่โมลินิวซ์ กราวด์ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังคงทำผลงานร้อนแรงต่อเนื่อง หลังบุกไปเอาชนะ วูลฟ์แฮมตัน 3-0 โดยเกมนี้ได้ประตูจาก 3 หัวหอกตัวจริงอย่าง แอนดี คาร์โรล ที่กลับมายิงประตูได้อีกครั้ง, เคร็ก เบลลามี และ เดิร์ก เคาท์ ผลดังกล่าวทำให้ ลิเวอร์พูล เบียดอาร์เซนอล ขึ้นเป็นที่ 5 มี 38 แต้ม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เบน อามอส,ริโอ เฟอร์ดินานด์,จอห์นนี อีแวนส์,ปาทริซ เอฟรา,คริส สมอลลิง,พอล สโคลส์,ไมเคิล คาร์ริค,ปาร์ค จี-ซอง,อันโตนิโอ วาเลนเซีย,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ,ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ
สโต๊ค ซิตี : โธมัส โซเรนเซน,โรเบิร์ต ฮูธ,ไรอัน ชอว์ครอส,มาร์ค วิลสัน,แอนดี วิลคินสัน,วิลสัน ปาลาซิออส,ดีน ไวท์เฮด,โจนาธาน วอลเตอร์ส,เจอร์เมน เพนแนนท์,เคนวิน โจนส์,ปีเตอร์ เคราช์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ คืนวันอังคารที่ 31 ม.ค. 2555
สวอนซี ซิตี 1-1 เชลซี
[1-0 สกอตต์ ซินแคลร์ น.38, 1-1 นีล เทย์เลอร์ น.90+3]
ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ส 3-1 วีแกน
[1-0 แกเร็ธ เบล น.29, 2-0 ลูกา โมดริช น.33, 3-0 แกเร็ธ เบล น.63, 3-1 เจมส์ แม็คอาเธอร์ น.79]
วูลฟ์แฮมตัน 0-3 ลิเวอร์พูล
[0-1 แอนดี คาร์โรล น.51, 0-2 เคร็ก เบลลามี น.61, 0-3 เดิร์ก เคาท์ น.78]
เอฟเวอร์ตัน 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี
[1-0 ดารอน กิปสัน น.59]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 สโต๊ค ซิตี
[1-0 ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ น.37, 2-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.53]
