เมียเผย "สปีด" ถกปัญหาชีวิตก่อนลาโลก

หลุยส์ สปีด ภรรยาของ แกรี สปีด ตำนานนักฟุตบอลผู้ล่วงลับของเวลส์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ระหว่างทำการสอบสวนว่าก่อนหน้าที่สปีดเสียชีวิต ได้มีการส่งข้อความปรึกษาปัญหาชีวิต ก่อนมีปากเสียงกันและพบเป็นศพในโรงรถเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ ยังคงยืนยันคำตอบเดิมว่าการเสียชีวิตของแข้งเวลส์ ยังคงเป็นฆ่าตัวตาย เพราะหลักฐานไม่แน่ชัด

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ปี 2011 เกิดเรื่องเศร้าในวงการลูกหนังโลก เมื่อ แกรี สปีด ตำนานแข้ง "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด,เอฟเวอร์ตัน,นิวคาสเซิล,เชฟฟิล์ด และ ผู้จัดการทีมชาติเวลส์ วัย 42 ปี ถูกพบเป็นศพแขวนคอเสียชีวิตอยู่บริเวณโรงรถในบ้านพักของตัวเองแถบเชสเชียร์ โดย หลุยส์ ภรรยาเป็นผู้พบศพคนแรก อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแน่ชัด เบื้องต้นคาดเป็นการฆ่าตัวตาย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ที่วอร์ริงตัน ทาวน์ ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาสอบสวนอีกครั้ง หลังจากเมื่อ 29 พ.ย. ปีก่อนได้สืบสวนไปรอบหนึ่งแต่ไม่พบความผิดปกติ ซึ่ง หลุยส์ ภรรยาของสปีด ให้การว่าก่อนหน้านี้ 4 วัน ที่สปีดเสียชีวิต ตนและสามีได้สนทนาผ่านการส่งข้อความ โดยถกกันในเรื่องปัญหาชีวิตแต่งงานที่ขึ้นๆลงๆ และอนาคตของลูกชายทั้งสอง

ขณะเดียวกัน หลุยส์ ให้การต่อว่าก่อนหน้าที่สปีดเสียชีวิตเพียง 1 วัน ตนและสามี มีปากเสียงกันหลังกลับมาจากงานเลี้ยง "พวกเราเดินเข้าไปในบ้านและก็มีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันเกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง แต่ก็ไม่มีอะไรมาก" จากนั้น หลุยส์ ก็ตัดสินใจขับรถออกมาเพื่อหาที่สงบจิตใจ แต่เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย และกลับมาที่บ้าน แต่ปรากฏว่าประตูบ้านถูกล็อกไว้ ทำให้เข้าไปไม่ได้ เมื่อพยายามโทรศัพท์หาสามีแต่ก็ไม่มีผู้รับสาย จึงตัดสินใจนอนหลับอยู่ในรถแทน

แต่เมื่อตื่นขึ้นมาเวลา 6 โมงเช้า หลุยส์ก็กลับเข้าไปในบ้านผ่านทางประตูด้านนอกของห้องน้ำ และไม่ช้าหลังจากที่พบศพของสปีดจากด้านนอกโรงรถ ตนก็รีบปลุกลูกชายทั้งสองให้ตื่นขึ้นมาเพื่อเปิดประตูบ้าน และเรียกรถพยาบาลให้มาที่บ้าน แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตสามีของตัวเองได้ และไม่มีการทิ้งโน้ตใดๆจากสามีไว้ถึงสาเหตุดังกล่าว

ทั้งนี้ หลุยส์ กล่าวว่า ปัญหาชีวิตคู่ระหว่างตนและสามี อยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก นับตั้งแต่สปีดเริ่มจับงานเป็นกุนซือของเชฟฟิลด์ และ ทีมชาติเวลส์ จนไม่มีเวลาให้ครอบครัว พร้อมยังระบุอีกว่าสามีเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง แม้จะเป็นบุคคลแวดวงสาธารณะก็ตาม "เขาชอบที่จะช่วยเหลือผู้คน แต่ก็ไม่มีใครทำให้เขาเปิดใจได้เลยสักคน"

อย่างไรก็ตาม นิโคลาส รีห์เบิร์ก เจ้าหน้าที่ชันสูตร กล่าวว่า หลักฐานจากการให้ปากคำของหลุยส์ แม้จะเชื่อได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ยังไม่มีการฟันธงแน่ชัดว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะเป็นความตั้งใจของเจ้าตัว หรือ อุบัติเหตุกันแน่ ซึ่งอาจต้องมีการสืบสวนในเรื่องนี้ต่อไป