แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ความเหนือชั้นด้วยการบุกไปไล่ต้อน ฟูแลม ถึงถิ่น 5-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดก่อนฉลองเทศกาลคริสต์มาส ทำให้ยังคงไล่จี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่เฝ้ารังถล่ม สโต๊ค ซิตี 3-0 ด้วยช่องว่าง 2 แต้มตามเดิม
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2554
ฟูแลม 0-5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เกมกลางสัปดาห์ที่สนามคราเวน ค็อทเทจ ฟูแลม ทีมอันดับ 11 เปิดบ้านรับมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง เกมนี้เจ้าถิ่นมีผู้เล่นบาดเจ็บหลายรายทั้ง ไซมอน เดวีส์, สตีฟ ซิดเวลล์, ซเดเน็ค กรีเกรา และ มาร์ค ชวาร์เซอร์ แต่ยังมี คลินท์ เดมพ์ซีย์ แนวรุกทีมชาติสหรัฐอเมริกาเป็นตัวทีเด็ดในแดนกลาง ส่วนคู่หัวหอกใช้บริการ แอนดี จอห์นสัน กับ มุสซา เดมเบเล ด้านทีมเยือนก็มีตัวเดี้ยงเพียบเช่นกัน อาทิ “ชิชาริโต” ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ, เนมานยา วิดิช, ดาร์เรน เฟลทเชอร์ แต่ เวย์น รูนีย์ ศูนย์หน้าจอมบู๊ยังคงนำทัพโดยล่าตาข่ายร่วมกับ แดนนี เวลเบ็ค
เปิดฉากมาได้เพียง 5 นาที “ปิศาจแดง” ก็พังประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 เมื่อ หลุยส์ นานี กระชากบอลขึ้นมาทางซ้ายจนถึงสุดเส้นหลังก่อนเปิดมาที่เสาแรกให้ เวลเบ็ค ตวัดยิงแบบไม่ต้องจับผ่านมือ เดวิด สต็อกเดล เข้าไปซุกก้นตาข่าย จากนั้นนาทีที่ 18 ฟิล โจนส์ ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าสกัดขวางจังหวะยิงของ ไบรอัน รูอิซ จนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องเปลี่ยนเอา แอชลีย์ ยัง ลงมาแทนพร้อมทั้งถอย อันโตนิโอ วาเลนเซีย ลงไปเล่นแบ็กขวาและหุบเอา คริส สมอลลิง ไปเล่นเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ จอนนี อีแวนส์
ถึงนาทีที่ 28 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ไรอัน กิกส์ เปิดบอลจากกราบขวาโค้งมาที่เสาแรกให้ นานี โหม่งเช็ดหนีมือ สต็อกเดล เสียบมุมเสาไกลเข้าไป เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 43 นานี ก็เลี้ยงจี้เข้าหาเขตโทษก่อนดึงหลอก เบรเด ฮานเกแลนด์ แล้วจ่ายคืนมาให้ กิกส์ ซัดบอลแฉลบ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ที่ล้มตัวขวาง ทำให้ลูกลอยข้ามหัว สต็อกเดล เสียบใต้คานเข้าไปเป็น 3-0 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ฟูแลม พยายามโหมบุกอย่างหนักเพื่อตีตื้นขึ้นมาให้ได้ นาทีที่ 56 รูอิซ เปิดลูกเตะมุมให้ เดมพ์ซีย์ โถมโขกทั้งตัวแต่ไม่ผ่านมือ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ที่พุ่งมาคว้าเอาไว้ได้ จากนั้น เดมเบเล ได้จังหวะสับไกนอกเขตโทษ ลูกพุ่งหนีมือ ลินเดการ์ด เฉี่ยวเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียวไส้ ก่อนที่ ยอห์น อาร์เน รีเซ แบ็กซ้ายเท้าหนักจะตะบันฟรีคิกระยะหวังผล ลินเดการ์ด พุ่งไปเซฟไม่ทันแล้ว ทว่าบอลเฉียดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ปิศาจแดงผ่อนเกมลงแล้วหันมาต่อบอลเน้นความแน่นอน ขณะที่ “เจ้าสัวน้อย” ยังคงบุกต่อไปอย่างไม่ลดละ นาทีที่ 79 “เอเจ” แอนดี จอห์นสัน รับบอลจาก เดมพ์ซีย์ แล้วแตะเข้าไปซัดในเขตโทษด้านขวา บอลพุ่งแสกหน้า ลินเดการ์ด เหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเจ็บใจอีกครั้ง แต่แล้วทีมเยือนก็มาดับฝันเจ้าถิ่นเสียสนิท เมื่อ รูนีย์ กระทุ้งกว่า 30 หลาส่งลูกหนีมือ สต็อกเดล เช็ดเสาเข้าไปอย่างเฉียบขาดเป็น 4-0 ในนาทีที่ 88 ก่อนที่ วาเลนเซีย จะเติมขึ้นมาผ่านบอลให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ที่ลงมาแทน เวลเบ็ค ยิงลูกไขว้เข้าไปอย่างเหนือชั้นปิดบัญชีให้ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาถล่ม 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 42 คะแนน รั้งอันดับ 2 ไล่จี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่เปิดบ้านถลุง สโต๊ค ซิตี 3-0 ด้วยช่องว่าง 2 แต้มต่อไป
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ฟูแลม - เดวิด สต็อกเดล, คริส แบร์ด, เบรเด ฮานเกแลนด์, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, ยอห์น อาร์เน รีเซ, ไบรอัน รูอิซ, แดนนี เมอร์ฟี, ดิกสัน เอตูฮู, คลินท์ เดมพ์ซีย์, แอนดี จอห์นสัน, มุสซา เดมเบเล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, คริส สมอลลิง, ฟิล โจนส์, จอนนี อีแวนส์, ปาทริซ เอฟรา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล คาร์ริค, ไรอัน กิกส์, หลุยส์ นานี, แดนนี เวลเบ็ค, เวย์น รูนีย์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แอสตัน วิลลา แพ้ อาร์เซนอล 1-2 (โรบิน ฟาน เพอร์ซี 0-1 จุดโทษ นาที 17), (มาร์ค อัลไบรท์ตัน 1-1 นาที 54), (ยอสซี เบนายูน 1-2 นาที 87)
แมนเชสเตอร์ ซิตี ชนะ สโต๊ค ซิตี 3-0 (เซร์คิโอ อเกวโร 1-0 นาที 29), (อดัม จอห์นสัน 2-0 นาที 36), (เซร์คิโอ อเกวโร 3-0 นาที 54)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 2-3 (ปีเตอร์ โอเดมวิงกี 0-1 นาที 20), (เดมบา บา 1-1 นาที 34), (แกเร็ธ แม็คออลีย์ 1-2 นาที 44), (เดมบา บา 2-2 นาที 81), (พอล ชาร์เนอร์ 2-3 นาที 85)
เอฟเวอร์ตัน ชนะ สวอนซี 1-0 (ลีออน ออสแมน 1-0 นาที 60)
ฟูแลม แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-5 (แดนนี เวลเบ็ค 0-1 นาที 5), (หลุยส์ นานี 0-2 นาที 28), (ไรอัน กิกส์ 0-3 นาที 43), (เวย์น รูนีย์ 0-4 นาที 88), (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 0-5 นาที 90)
ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 2-3 (นิคลาส เบนดท์เนอร์ 0-1 นาที 19), (สเตฟาน แซสเซอญง 0-2 นาที 53), (ไฮดาร์ เฮลกูสัน 1-2 นาที 63), (เจมี แม็คกี 2-2 นาที 67), (เวส บราวน์ 2-3 นาที 89)
วีแกน แอธเลติก เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
