xs
xsm
sm
md
lg

ฟูแลมโดนตีเจ๊าทดเจ็บร่วงยูโรปา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คลินท์ เดมพ์ซีย์ ตะบันเต็มข้อให้ ฟูแลม ขึ้นนำ 1-0 ก่อนลงเอยด้วยผลเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
บาเย ฌิบี ฟอลล์ หัวหอกตัวสำรองของ โอเดนเซ กลายเป็นตัวแสบของ ฟูแลม ด้วยการโหม่งตีเสมอ 2-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย พร้อมทั้งกอดคอกันตกรอบในศึกยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่มไปพร้อมกัน


ฟุตบอลยูโรปลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มเค
ฟูแลม (อังกฤษ) 2-2 โอเดนเซ (เดนมาร์ก)

เริ่มเกมเป็น “เจ้าสัวน้อย” ที่เดินหน้าบุกเข้าใส่ก่อนมีลุ้นหวาดเสียวในนาทีที่ 12 เมื่อ สตีเฟน เคลลี เติมขึ้นมาทางขวาแล้วเปิดเข้ากลางให้ คลินท์ เดมพ์ซีย์ พักบอลลงแล้วตวัดยิงหน้ากรอบ 6 หลาเฉี่ยวเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ถูกผู้ตัดสินจับฟาวล์ไปก่อนแล้ว จากนั้นนาทีที่ 15 เบรเด ฮานเกแลนด์ ปราการหลังทีมชาตินอร์เวย์ก็หนุนขึ้นมาโขกผ่านมือ สเตฟาน เวสเซิลส์ ได้แล้ว ทว่าถูก บาชคิม คาดรี สกัดคาบเส้นออกมาได้อย่างหวุดหวิด

กระทั่งนาทีที่ 27 ฟูแลม ก็มาพังประตูนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ เคริม เฟรย์ กระชากบอลขึ้นมาทางซ้ายแล้วเปิดเข้าเขตโทษ บ็อบบี ซาโมรา แตะคืนมาให้ เดมพ์ซีย์ กระทุ้งหน้าเส้นเขตโทษผ่านมือ เวสเซิลส์ เสียบเสาแรกอย่างเด็ดขาด จากนั้นนาทีที่ 31 สกอร์ก็ไหลเป็น 2-0 สำหรับเจ้าถิ่น เมื่อ มุสซา เดมเบเล เลี้ยงตัดจากด้านขวาเข้ามาตรงกลางก่อนแทงทะลุช่องให้ เฟรย์ หลุดเข้าไปแปลอดขา เวสเซิลส์ ตุงตาข่าย ทำให้จบครึ่งแรกด้วยการนำ 2-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 64 โอเดนเซ สามารถทวงประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จนได้จากการยิงฟรีคิกของ ฮันส์ เฮนริค อันเดรียเซน ที่ซัดเลียบกำแพงเสียบเสาแรกเข้าไปแบบดื้อๆ จากนั้น “เจ้าสัวน้อย” กลับมาเน้นอีกครั้งก่อนได้ลุ้นใกล้เคียงจากการหนุนขึ้นมาโขกลูกเตะมุมของ อารอน ฮิวจ์ส แต่บอลก็ล้นข้ามคานออกไป

กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 โอเดนเซ ก็ช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่นด้วยการพังประตูตีเสมอจากจังหวะที่ เอสเพน รุดด์ เปิดบอลจากปีกขวาให้ บาเย ฌิบี ฟอลล์ กองหน้าตัวสำรองเทกตัวโขกผ่านมือ นีล เอเธอริดจ์ เข้าไป ทำให้เกมจบลงด้วยสกอร์ 2-2 โอเดนเซ ที่มี 4 คะแนนจึงฉุด ฟูแลม ที่มี 8 คะแนนตกรอบไปพร้อมกัน ปล่อยให้ ทเวนเต ที่มี 13 คะแนน และ วิสลา คราคอฟ ที่มี 9 คะแนนเข้ารอบไปต่อหน้าต่อตา

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ฟูแลม - นีล เอเธอริดจ์, คริส แบร์ด, แม็ทธิว บริกก์ส, เบรเด ฮานเกแลนด์, อารอน ฮิวจ์ส, สตีเฟน เคลลี, มาร์เซล เกคอฟ, คลินท์ เดมพ์ซีย์, เคริม เฟรย์, มุสซา เดมเบเล, บ็อบบี ซาโมรา

โอเดนเซ - สเตฟาน เวสเซิลส์, แบร์กนาร์ เมนดี, คริส โซเรนเซน, เอสเพน รุดด์, ทอเร เรกิเนียสเซน, ดาเนียล โฮก, ฮันส์ เฮนริค อันเดรียเซน, ฟัลค์ เยนเซน, ปีเตอร์ อูตากา, รูริค กิสลาสัน, บาชคิม คาดรี

ผลฟุตบอลยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย
กลุ่มดี
เอฟซี ซูริค (สวิส) ชนะ วาสลุย (โรมาเนีย) 2-0
ลาซิโอ (อิตาลี) ชนะ สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) 2-0

กลุ่ม อี
เบซิคตัส (ตุรกี) ชนะ สโต๊ค ซิตี (อังกฤษ) 3-1
ดินาโม เคียฟ (เยอรมนี) เสมอ มัคคาบี เทลอาวีฟ (อิสราเอล) 3-3

กลุ่ม เอฟ
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) ชนะ แอธเลติก บิลเบา (สเปน) 4-2
สโลวาน บราติสลาวา (สโลวาเกีย) แพ้ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย) 2-3

กลุ่ม เจ
มัคคาบี ไฮฟา (อิสราเอล) แพ้ ชาลเก (เยอรมนี) 0-3
สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) ชนะ เออีเค ลาร์นากา (ไซปรัส) 3-1

กลุ่ม เค
วิสลา คราคอฟ (โปแลนด์) ชนะ ทเวนเต (ฮอลแลนด์) 2-1
ฟูแลม (อังกฤษ) เสมอ โอเดนเซ (เดนมาร์ก) 2-2

กลุ่ม แอล
สตวร์ม กราซ (ออสเตรีย) แพ้ เออีเค เอเธนส์ (กรีซ) 1-3
อันเดอร์เลชท์ (เบลเยียม) ชนะ โลโคโมทีฟ มอสโก (รัสเซีย) 5-3

สรุปทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ 32 ทีมสุดท้าย (เมื่อคืนนี้) ประกอบด้วย - สปอร์ติง ลิสบอน, ลาซิโอ, เบซิคตัส, สโต๊ค ซิตี, แอธเลติก บิลเบา, เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก, ชาลเก 04, สเตอัว บูคาเรสต์, ทเวนเต, วิสลา คราคอฟ, อันเดอร์เลชท์ และ โลโคโมทีฟ มอสโก
นีล เอเธอริดจ์ นายทวารทีมชาติฟิลิปปินส์ (เสื้อเขียว) ลงเฝ้าเสาให้ เจ้าสัวน้อย แทน มาร์ค ชวาร์เซอร์
สโต๊ค บุกไปแพ้ เบซิคตัส แต่สุดท้ายจูงมือเข้ารอบทั้งคู่
เปแอสเช ชนะ บิลเบา 4-2 แต่ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น