xs
xsm
sm
md
lg

"เพอร์ซี" นำปืนดับสิงห์ 5-3, เรือใบเฮ 3-1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฟาน เพอร์ซี เป็นฮีโร่ให้ อาร์เซนอล อีกครั้ง
โรบิน ฟาน เพอร์ซี ยิงแฮททริกช่วยให้ อาร์เซนอล บุกเอาชนะ เชลซี แบบสุดมัน 5-3 กลับมาสู่เส้นทางของการลุ้นท้อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ ขณะที่จ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี ไม่พลาดแม้เหลือผู้เล่น 10 คน แต่ก็เอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 3-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2554

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 3 - 5 อาร์เซนอล

เกมลีกเมืองผู้ดีคู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้ เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือ อาร์เซนอล โดยเจ้าถิ่นของกุนซือ อังเดร บียาส-โบอาส ได้ เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกชาวสเปนพ้นโทษแบนกลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ขณะที่ จอห์น เทอร์รี กองหลังกัปตันทีม ซึ่งกำลังตกเป็นประเด็นในเรื่องของการเหยียดสีผิวยังเป็นกำลังสำคัญในแดนหลัง ส่วนตรงกลางมี แฟรงค์ แลมพาร์ด ทำเกมร่วมกับ ฆวน มาตา ทางฝั่งทีมเยือนของ อาร์แซน เวนเกอร์ โค้ชจอมแทกติก ยังไม่สามารถใช้งาน โธมัส แฟร์มาเลน กองหลังชาวเบลเยี่ยม โลรองต์ คอสเซียลนีย์ จึงยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ แพร์ มาเตซักเกอร์ ส่วนเกมรุกสมบูรณ์เต็มร้อยมีทั้ง มิเกล อาร์เตตา แชร์วินโญ และ ธีโอ วัลคอตต์ ที่จะคอยป้อนบอลให้กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ดาวยิงกัปตันทีม

เริ่มครึ่งแรก เชลซี ทำเกมดีกว่าเล็กน้อย ในนาที 5 ก็มีลุ้นทำประตูออกนำ สเตอร์ริดจ์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางขวาจนสุดเส้นหลัง แต่จังหวะสุดท้ายเปิดบอลเรียดให้ ตอร์เรส ที่ยืนอยู่หน้าปากประตูไม่ดีถูก วอจเชียช เชสนีย์ ล้มตัวรับไว้ได้

อาร์เซนอล ทำเกมดีขึ้นเป็นลำดับ ในนาที 11 จากจังหวะสวนกลับเร็ว วัลคอตต์ กระชากหนี บรานิสลาฟ อีวาโนวิช หลุดขึ้นมาทาางกราบขวา ก่อนเปิดมาหน้าประตู แชร์วินโญ ตามมาชาร์จโล่งๆ แต่แปออกหลังไปแบบไม่น่าเชื่อ นาทีถัดมา วัลคอตต์ ทำเกมทางขวาอีกครั้ง แล้ววางบอลมาทางเสาไกล ฟาน เพอร์ซี วอลเลย์ด้วยซ้ายเหินข้ามคานไปอีก

ทีมเยือนขาดความเด็ดขาดจนมาถูก "สิงห์บลู" ลงโทษในนาที 15 ฆวน มาตา ได้บอลทางริมเขตโทษด้านขวา ก่อนวางบอลเข้าไปในเขตโทษอย่างแม่นยำตรงหัว แลมพาร์ด โน้มตัวโหม่งเต็มศีรษะผ่านมือ เชสนีย์ ตุงตาข่าย เชลซี ออกนำ 1-0

เจ้าถิ่นทำเกมบุกใส่ต่อ ในนาที 28 แลมพาร์ด วางบอลให้ สเตอร์ริดจ์ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษดวลกับ เชสนีย์ แต่วางเท้าไม่ดีซัดหลุดเสาสองออกไป ด้าน อาร์เซนอล ใช้การตั้งแล้วรอจังหวะสวนกลับ กระทั่งนาที 36 เจ้าถิ่นเสียบอลหน้าเขตโทษตัวเอง แรมซีย์ เก็บบอลได้ ก่อนแทงบอลให้ แชร์วินโญ หลุดเข้าเขตโทษ กองหน้าชาวไอเวอรี โคสต์ ใจกว้างถวายพานมาให้ ฟาน เพอร์ซี แปโล่งๆ ทีมเยือนตามตีเสมอ 1-1

เชลซี เกือบทำประตูออกนำอีกครั้งในนาที 38 หลังจาก รามิเรศ กระชากบอลขึ้นมาทางขวาแล้วเปิดเรียดให้ สเตอร์ริดจ์ ชาร์จหน้าปากประตูตุงตาข่าย แต่กองหน้าทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปียืนล้ำหน้าอยู่ก่อน อย่างไรก็ตามในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เจ้าบ้านทำประตูออกนำ 2-1 ได้สำเร็จ เทอร์รี แปบอลจากลูกเตะมุมเข้าไป

อาร์เซนอล ก็มาตามตีเสมอ 2-2 ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกมครึ่งหลังผ่านมาได้เพียง 4 นาที อเล็กซ์ ซง แทงบอลจากหน้าเขตโทษของเจ้าถิ่นไปให้ อังเดร ซานโต๊ส เติมเกมเข้าไปยิงในเขตโทษ ส่งบอลลอดขา ปีเตอร์ เช็ก ซุกก้นตาข่าย

หลังจากนั้นนาที 55 ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ แซงพลิกนำ 3-2 แบบช็อกแฟนบอลในสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อกองหลัง เชลซี เอา วัลคอตต์ ไม่อยู่ปล่อยให้ปีกทีมชาติอังกฤษโซโล่เดี่ยวยิงมุมแคบผ่านมือ เช็ก เข้าประตูไปแบบสวยงาม แลมพาร์ด มีโอกาสยิงฟรีคิกให้เจ้าถิ่นในนาที 61 แต่ซัดไม่ผ่านมือ เชสนีย์ ขณะที่ อาร์เซนอล ทำเกมโต้กลับเร็ว อารอน แรมซีย์ ซัดเรียดไปติดเซฟของ เช็ก เช่นกัน

หลังจาก อังเดร บียาส-โบอาส ตัดสินใจส่ง ฟลอรองต์ มาลูดา โรเมลู ลูกากู และ ราอูล เมเรเลส ลงมาเพื่อปรับเปลี่ยนเกม กระทั่งผ่านมาถึงนาที 80 "สิงห์บลูส์" มาทำประตูตีเสมอ 3-3 ได้สำเร็จ จากลูกยิงไกลระยะประมาณ 25 หลาของ มาตา บอลโค้งหนีมือ เชสนีย์ เสียบเสาเข้าไป

แต่นาที 84 จากความผิดพลาดของแนวรับ เชลซี เมื่อ มาลูดา จ่ายบอลคืนหลังไม่ดี เทอร์รี เก็บบอลไม่ได้ล้มลงบริเวณกลางสนามจน ฟาน เพอร์ซี หลุดเดี่ยวเข้าไปแตะหลบ เช็ก ก่อนแปบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายง่ายๆ อาร์เซนอล ขึ้นนำอีกครั้ง 4-3

ช่วงที่เหลือเจ้าถิ่นพยายามทำเกมบุกเพื่อตามตีเสมอ กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็เสียบอลจนถูก "ปืนโต" ทำเกมโต้กลับเร็ว ก่อนที่จังหวะสุดท้าย ฟาน เพอร์ซี ได้บอลหลุดเข้าไปยิงแสกหน้า เช็ก เป็นแฮททริกและประตูที่ 10 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้จนขึ้นนำดาวซัลโวคนเดียว พร้อมกับทำให้ อาร์เซนอล เป็นฝ่ายเอาชนะไป 5-3 เมื่อจบเกม โดย อาร์เซนอล มีเพิ่ม 16 คะแนนจากการลงแข่ง 10 นัดขึ้นมาอยู่ที่ 6 ของตาราง ขณะที่ เชลซี มี 19 คะแนนรั้งอันดับ 3 เหมือนเดิม

สำหรับผลการแข่งขันของจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี ซึ่งเหลือผู้เล่น 10 คน หลังจาก แวงซองต์ กอมปานี ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามในนาที 74 แต่ "เรือใบสีฟ้า" ก็รักษาสกอร์นำจนเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไป 3-1 เก็บคะแนนเพิ่มเป็น 28 คะแนนทิ้งห่างอันดับสอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 คะแนนเหมือนเดิม ขณะที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน มี 8 คะแนนรั้งที่ 17 ของตาราง

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, แอชลีย์ โคล, โชเซ โบซิงวา, จอห์น โอบี มิเกล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, ฆวน มาตา, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์

อาร์เซนอล : วอจเชียช เชสนีย์, โลรองต์ คอสเซียลนีย์, แพร์ มาเตซักเกอร์, อังเดร ซานโต๊ส, โยฮัน ฌูรู, อเล็กซ์ ซง, อารอน แรมซีย์, แชร์วินโญ, ธีโอ วัลคอตต์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี, มิเกล อาร์เตตา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันที่ 29 ต.ค.
เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1
[0-1 : ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ น.19]

เชลซี แพ้ อาร์เซนอล 3-5
[1-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด น.15], [1-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี น.36], [2-1 : จอห์น เทอร์รี น.45], [2-2 : อันเดร ซานโต๊ส น.49], [2-3 : ธีโอ วัลคอตต์ น.55], [3-3 : ฆวน มาตา น.80], [3-4 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี น.84], [3-5 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี น.90+2]

แมนฯ ซิตี ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-1
[1-0 : เอดิน เชโก น.52], [2-0 : อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ น.67], [2-1 : สตีเฟน ฮันท์ ลูกจุดโทษ น.74], [3-1 : อดัม จอห์นสัน น.90+1]

นอริช ซิตี เสมอ แบล็คเบิร์น 3-3
[0-1 : เดวิด ฮอยเลตต์ น.45+3], [1-1 : สตีฟ มอริสัน น.52], [1-2 : ยากูบู น.62], [1-3 : คริส แซมบา น.63], [2-3 : แบรดลีย์ จอห์นสัน น.81], [3-3 : แกรนท์ โฮลท์ ลูกจุดโทษ น.90+4]

ซันเดอร์แลนด์ เสมอ แอสตัน วิลลา 2-2
[0-1 : สติลิยัน เปตรอฟ น.19], [1-1 : คอนเนอร์ วิคแฮม น.38], [1-2 : ริชาร์ด ดันน์ น.85], [2-2 : สเตฟาน เซสเซญอน น.89]

สวอนซี ชนะ โบลตัน 3-1
[1-0 : โจ อัลเลน น.49], [2-0 : สกอตต์ ซินแคลร์ ลูกจุดโทษ น.57], [2-1 : แดนนี แกรห์ม ทำเข้าประตูตัวเอง น.72], [3-1 : แดนนี แกรห์ม น.90+3]

วีแกน แพ้ ฟูแลม 0-2
[0-1 : คลินท์ เดมป์ซีย์ น.42], [0-2 : มุสซา เดมเบเล น.87]

เวสต์บรอมวิช แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2
[0-1 : ชาร์ลี อดัม ลูกจุดโทษ น.7], [0-2 : แอนดี คาร์โรลล์ น.45]
โบซิงวา (ซ้าย) เบียดแย่งบอลกับ แรมซีย์
แลมพาร์ด เฮก่อน แต่สุดท้าย เชลซี แพ้
สเตอร์ริดจ์ (ซ้าย) เจอเสียบจาก ซานโต๊ส
วัลคอตต์ สับไกยิงประตูให้ อาร์เซนอล
กำลังโหลดความคิดเห็น