เชลซี พลาดท่าทำเสียจุดโทษในช่วงท้ายเกม ทำให้ถูก บาเลนเซีย ตามตีเสมอ 1-1 เก็บได้เพียงแต้มเดียว ส่วน อาร์เซนอล เปิดบ้านเฉือนชนะ โอลิมเปียกอส ด้วยสภาพทีมที่มีผู้เล่นเดี้ยงระนาว 2-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สอง
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สอง กลุ่มอี
บาเลนเซีย (สเปน) 1-1 เชลซี (อังกฤษ)
ที่สนามเมสตายา บาเลนเซีย เปิดบ้านต้อนรับ เชลซี เกมนี้เจ้าถิ่นดัน เฌเรมี มาติเยอ ดาวเตะชาวฝรั่งเศสจากแบ็กซ้ายขึ้นมาเล่นเป็นปีก โดยมี เซร์คิโอ กานาเลส กับ โรเบร์โต โซลดาโด ยืนเป็นคู่หัวหอกทะลวงประตู ด้านทีมเยือนส่ง ฆวน มาตา ตัวรุกทีมชาติสเปนลงเผชิญหน้ากับต้นสังกัดเก่าโดยประสานงานร่วมกับ ฟลอร็องต์ มาลูดา และ เฟร์นานโด ตอร์เรส ในแดนหน้า
เปิดฉากมาได้เพียง 4 นาที “ค้างคาว” เกือบเสียท่าจากความผิดพลาดของ ดาบิด อัลเบลดา กองกลางกัปตันทีม ทำให้ ตอร์เรส ฉกบอลแล้วลากเข้าเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้าย อาดิล รามี ยังตามมากระแทกจากด้านหลังได้ทันจน “เอล นินโญ” เสียหลักล้มลง ซึ่ง “สิงโตน้ำเงินคราม” ก็ไม่ได้จุดโทษจากจังหวะนี้ด้วย ถัดมานาทีที่ 13 บิคตอร์ รูอิซ กองหลังเจ้าถิ่นไปคว้าเอว รามิเรส ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวรับใบเหลืองไป ก่อนที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด จะกดฟรีคิกเรียดถูก ดิเอโก อัลเวส ล้มตัวป้องกันเอาไว้ได้
จากนั้น บาเลนเซีย ก็เริ่มตั้งลำได้ก่อนหาโอกาสเข้าทำได้น่ากลัว นาทีที่ 20 ปาโบล เอร์นานเดซ ดึงบอลหลบผู้เล่นเชลซีแล้วจ่ายทะลุช่องให้ มิเกล มอนเตโร เติมขึ้นมากดในเขตโทษด้านขวา ลูกแฉลบ แลมพาร์ด ไปปะทะข้างตาข่าย 5 นาทีให้หลัง เฌเรมี มาติเยอ เปิดบอลจากกราบซ้ายมาให้ ปาโบล เอร์นานเดซ โฉบเข้าฮอสที่เสาแรกส่งลูกเข้าข้างตาข่ายแบบได้เสียวอีกครั้ง จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
เข้าสู้ครึ่งหลัง เชลซี น่าได้ประตูนำหลายครั้ง เริ่มจากนาทีที่ 51 โชเซ โบซิงวา เปิดโด่งจากกราบขวาให้ ตอร์เรส ขึ้นโขกเต็มศีรษะ ทว่า ดิเอโก อัลเวส โชว์ซูเปอร์เซฟล้มตัวปัดด้วยมือเดียวอย่างเหลือเชื่อ 3 นาทีต่อมา แลมพาร์ด ชิปนิ่มๆ ให้ ตอร์เรส พักบอลหนึ่งทีแล้วตวัดยิงกลางประตู แต่ ดิเอโก อัลเวส ยังออกมาบล็อกไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม และจากลูกเตะมุมต่อเนื่องกองหลังค้างคาวสกัดผิดเหลี่ยม บอลเข้าหาประตูตัวเองแต่ ดิเอโก อัลเวส ก็ยังป้องกันได้อย่างไม่น่าเชื่ออีก
แต่แล้วคาถามหาอุตม์ของ ดิเอโก อัลเวส ก็ถูกทำลายจนได้ในนาทีที่ 56 เมื่อ มาลูดา กระชากขึ้นมาทางริมเขตโทษฝั่งขวาแล้วจ่ายหักกลับไปที่เสาสอง แลมพาร์ด จัดการวางเท้ายิงเน้นๆ ผ่านการบล็อกของ มิเกล มอนเตโร เสียบเสาแรกเป็น 1-0 สำหรับสิงห์บลูส์ ทำให้ค้างคาวต้องแก้เกมด้วยการส่ง ปาโบล ปิอัตติ ลงมาเสริมแนวรุกแทน มาติเยอ ก่อนที่ ปิอัตติ จะได้โอกาสตีเสมอในนาทีที่ 70 จากการสอดเข้าไปรับบอลวางยาวในเขตโทษแล้วฮาล์ฟวอลเลย์ แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังไม่พลาดพุ่งปัดออกหลังไปได้อย่างเหนียวหนึบ
แต่แล้วนาทีที่ 86 สิงโตน้ำเงินครามมาเสียจุดโทษจากการทำแฮนด์บอลในเขตโทษของ ซาโลมง กาลู ตัวสำรองที่ลงไปแทน แลมพาร์ด ก่อนที่ โซลดาโด จะสังหารไม่พลาดส่ง เช็ก พุ่งผิดทาง สกอร์จึงขยับมาเท่ากันที่ 1-1 ในนาทีที่ 87 จากนั้น 2 นาที เชลซี น่าได้ประตูนำอีกครั้ง แต่ ดิเอโก อัลเวส ยังล้มตัวเซฟลูกยิง ของ นิโกลาส์ อเนลกา ตัวสำรองที่หลุดเข้าไปล่อเป้าในเขตโทษได้อีก จบเกมจึงเสมอกันไป 1-1 แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน ซึ่ง เชลซี ยังคงนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มอี มี 4 คะแนน ส่วน บาเลนเซีย อยู่ที่ 3 มี 2 คะแนน
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
บาเลนเซีย - ดิเอโก อัลเวส, มิเกล มอนเตโร, อาดิล รามี, บิคตอร์ รูอิซ, ฆอร์ดี อัลบา, ปาโบล เอร์นานเดซ, ดาบิด อัลเบลดา, เอเวอร์ บาเนกา, เฌเรมี มาติเยอ, เซร์คิโอ กานาเลส, โรเบร์โต โซลดาโด
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ โบซิงวา, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, จอห์น โอบี มิเกล, รามิเรส, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูดา, ฆวน มาตา, เฟร์นานโด ตอร์เรส
อีกคู่ที่น่าสนใจในกลุ่มเอฟ อาร์เซนอล ที่มีผู้เล่นบาดเจ็บหลายรายเปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม เบียด โอลิมเปียกอส คว้าชัย 2-1 โดย อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ดาวรุ่งวัย 18 ปีที่เพิ่งย้ายมาในช่วงซัมเมอร์นี้ ประเดิมสนามในยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ครั้งแรกได้อย่างสวยงามด้วยการพังประตูนำตั้งแต่นาทีที่ 8 กลายเป็นนักเตะอังกฤษอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในศึกชิงจ้าวยุโรปแทน ธีโอ วัลคอตต์ รุ่นพี่ร่วมทีมทันที จากนั้น อันเดร ซานโตส แบ็กซ้ายตัวใหม่ชาวบราซิลก็มาบวกอีกเม็ดในนาทีที่ 20 ก่อนที่ ดาบิด ฟุสเตร์ จะมาตีตื้นในนาทีที่ 27 ทำให้ “ปืนใหญ่” เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน รั้งอันดับ 2 ของกลุ่มเอฟ ตามหลัง โอลิมปิก มาร์กเซย อยู่ 2 คะแนน ส่วน โอลิมเปียกอส ยังไม่มีแต้ม
ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สอง
กลุ่มอี
บาเลนเซีย (สเปน) เสมอ เชลซี (อังกฤษ) 1-1
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (เยอรมนี) ชนะ เกงค์ (เบลเยียม) 2-0
กลุ่มเอฟ
อาร์เซนอล (อังกฤษ) ชนะ โอลิมเปียกอส (กรีซ) 2-1
โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี) 3-0
กลุ่มจี
เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) ชนะ ปอร์โต (โปรตุเกส) 3-1
ชัคเตอร์ โดเนทสค์ (ยูเครน) เสมอ อาโปเอล นิโคเซีย (ไซปรัส) 1-1
กลุ่มเอช
บาเต บอริซอฟ (เบลารุส) แพ้ บาร์เซโลนา (สเปน) 0-5
เอซี มิลาน (อิตาลี) ชนะ วิคตอเรีย เปิลเซน (เช็ก) 2-0