xs
xsm
sm
md
lg

เชื้อไฟของ “รอรีย์” ที่ชื่อ “ฮอลลีย์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัจจัยสู่เมเจอร์สมัยแรก
เรื่อง : วงศ์ธวัช อามทัศนศรี

ว่ากันว่าความสำเร็จของ ผู้ชายมักมีหญิงสาวเป็นแรงผลักดันเสมอ และประโยคดังกล่าวดูจะเป็นเรื่องจริงในชีวิตของ รอรีย์ แม็คอิลรอยที่เพิ่งจะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตนเองด้วยเมเจอร์ "ยูเอส โอเพน" เมื่อกำลังใจอันเปรียบเสมือนเชื้อไฟที่ทำให้เจ้าตัวโชติช่วง กลายเป็น สตาร์กอล์ฟ ที่มีอายุเพียง 22 ปีคือความรักที่มาจากสาวน้อย ผู้มีนามว่า ฮอลลีย์ สวีนีย์ ที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า ทั้งคู่ได้ตัดสินใจแยกทางกันเดินในช่วงต้นปีที่ผ่านมา หากสายใยที่ยังตัดไม่ขาดทำให้ ฮอลลีย์ ปรากฎตัวเคียงข้าง รอรีย์ อีกครั้งในศึก "เดอะ มาสเตอร์ส" และกลายเป็นผู้รักษาบาดแผลจากออกัสต้าในใจของโปรหนุ่ม จนกระทั่งกลับมาผงาดได้อีกครั้ง ในฐานะแชมป์เมเจอร์ ยูเอส โอเพน

ย้อนความไปจุดเริ่มต้น รอรีย์ และ สวีนีย์ เริ่มต้นปลูกต้นรักกันครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 16 โดย ฮอลลีย์ เดินทางมาเรียนต่อที่เมือง ฮอลลีวูด บ้านเกิดของโปรหนุ่มชื่อดัง และหลังจากได้มีโอกาสพูดคุยทำความรู้จักกันไม่นานทั้งสองจึงเปิดตัวคบกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาทั้งคู่ถือเป็นคู่หวานแหววของวงการกอล์ฟ เนื่องจากเวลาที่ รอรีย์ เดินทางไปแข่งขัน แฟนสาวคนสวย ก็จะเดินทางไปให้กำลังใจด้วยตลอด แต่เมื่อช่วงต้นปี 2011 ก็ได้มีรายงานข่าวว่า ทั้งคู่ตัดสินใจปิดตำนานรัก 6 ปีที่คบหาดูใจกันมา จึงสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนกอล์ฟไม่น้อย

จนกระทั่งถึงการแข่งขัน "เดอะ มาสเตอร์ส" รอบสุดท้าย แม็คอิลรอย ที่เปิดตัวในการแข่งขันด้วยตำแหน่งผู้นำเดี่ยว มีสกอร์รวมสามวันที่ 12 อันเดอร์พาร์ ทิ้งห่างอันดับ 2 ถึง 4 สโตรก มีโอกาสลุ้นคว้า 'กรีน แจ็กเก็ต' ตัวแรกในชีวิต หากท้ายที่สุดเจ้าตัวไม่สามารถรับมือกับแรงกดดันบนสนามแข่งได้ในรอบสุดท้าย หวดเกินไปถึง 8 โอเวอร์พาร์ สกอร์รวมสี่วันเหลือ 4 อันเดอร์ฯ จบอันดับ 15 ร่วม ซึ่งภาพเหตุการณ์ตลอดการแข่งขันอยู่ในสายตาของ ฮอลลีย์ มาโดยตลอด และทำให้เธอกลายเป็นบุคคลสำคัญที่มีผลทางใจของ รอรีย์ ทันทีที่จบการแข่งขันในหลุมที่ 18 อ้อมกอดของ “คนที่รักกัน” กลายเป็นยาขนานเอกที่ทำให้ รอรีย์ สามารถตื่นจากฝันร้ายได้ที่ออกัสต้าได้

ครั้งนั้น แม็คอิลรอย ให้สัมภาษณ์ผ่าน "เดอะ ซัน" ว่า “นับเป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกปวดร้าวอย่างหนักเมื่อเห็นความสำเร็จอยู่ตรงหน้าแต่กลับเอื้อมไปไม่ถึง แต่โชคดีที่ชีวิตผมยังมีคนที่รักยืนอยู่เคียงข้างกำลังใจจากฮอลลีย์ หลังจากที่ผมพลาดคว้าแชมป์ คือสิ่งสำคัญที่ทำให้มีแรงลุกขึ้นกลับมาสู้อีกครั้ง ถึงเวลานี้ ฮอลลีย์ มิใช่อดีตแฟนของผมอีกต่อไปเราทั้งคู่กลับมาทบทวนความรู้สึกระหว่างกัน และ กลับมาติดต่อกันทุกวัน มันเป็นอะไรที่ทำให้ผมยิ้มได้ และดีใจที่ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม"

เมื่อฟ้าหลังฝนบังเกิด รอรีย์ ที่ยังรอคอยแชมป์เมเจอร์สมัยแรก ก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้สำเร็จในศึก "ยูเอส โอเพน" โดยทำลายสถิติตลอด 111 ปีของทัวร์นาเมนต์ ด้วยการทำสกอร์รวมสี่วัน 16 อันเดอร์พาร์ 268 ทุบสถิติสกอร์รวมสูงสุด 12 อันเดอร์พาร์ ที่ถือร่วมโดย แจ็ค นิกคลอส (1980), ลี แยนเซน (1993), ไทเกอร์ วูดส์(2000) และ จิม ฟิวริค(2003) ไปถึง 4 สโตรก รวมถึงเป็นผู้เล่นที่ทำสกอร์รวมสองวันต่ำกว่า 10 อันเดอร์พาร์ เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยที่ยังไม่จบรอบสองของการแข่งขัน และท้ายที่สุดทำสกอร์รวมสองวันที่ 11อันเดอร์ฯ ซึ่ง แม็คอิลรอย ได้กล่าวถึงปัจจัยสำคัญของความสำเร็จเป็นเพราะกำลังใจจากแฟนสาวไว้อย่างน่าสนใจว่า

"เรารู้จักกันครั้งแรกเมื่อตอนผมอายุ 16 และเธออายุ 14 ซึ่งเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนานทำให้ผมได้รู้ถึงทุกสิ่งที่เป็นตัวเธอ รวมถึงเธอเองก็รู้ทุกสิ่งที่เป็นตัวผม แน่นอนช่วงเวลาที่รู้สึกตกต่ำท้อแท้ ก็มีเพียงเธอเท่านั้นที่ช่วยปลอบโยนให้กำลังใจ ซึ่งผมเองก็อยากจะบอกว่า เธอคือคนพิเศษที่สุดในชีวิตของผม และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดตลอดเวลาที่เราคบกัน ดังนั้นหากไม่มี เธอ 'ฮอลลีย์' ผมคงไม่มีวันนี้"
เชื้อไฟของ “รอรีย์”
หวานใจ “แม็คอิลรอย”
“ฮอลลีย์-รอรีย์”
กำลังโหลดความคิดเห็น