"ลาราซาบัล" เฉือนเพลย์ออฟ "การ์เซีย" แชมป์บีเอ็มฯ

พาโบล ลาร์ราซาบัล โปรชาวสเปน คว้าแชมป์ยูโรเปียน ทัวร์ รายการที่ 2 ในชีวิต หลังดวลเพลย์ออฟชนะ เซอร์จิโอ การ์เซีย ก้านเหล็กรุ่นพี่ในรายการบีเอ็มดับเบิลยู อินเตอร์เนชันแนล โอเพน ที่ประเทศเยอรมนี วันนี้ (26 มิ.ย.)

ศึกกอล์ฟยูโรเปียน ทัวร์ รายการบีเอ็มดับเบิลยู อินเตอร์เนชันแนล โอเพน ชิงเงินรางวัลรวมประมาณ 88 ล้านบาท ดวลกันที่สนาม กอล์ฟคลับ มิวนิค ไอเชนไรด์ ระยะ 7,073 หลา พาร์ 72 ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2554 เป็นการดวลวงสวิงรอบสุดท้าย

ปรากฎว่า พาโบล ลาร์ราซาบัล และ เซอร์จิโอ การ์เซีย สองโปรชาวสเปน จบวันด้วยการเป็นผู้นำร่วมกันที่สกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ หลังจากรอบนี้หวดคนละ 4 อันเดอร์พาร์และทั้งคู่ต้องเข้าไปดวลเพลย์ออฟเพื่อตัดสินผู้ชนะ

หลังจากเพลย์ออฟ 4 หลุมแรกกินกันไม่ลง การเพลย์ออฟครั้งที่ 5 กลับมาดวลกันที่หลุม 18 พาร์ 5 อีกครั้ง โดย การ์เซีย ตีช็อตสองจากขอบบังเกอร์ลูกตกกลางกรีน ขณะที่ ลาร์ราซาบัล ตีช็อตสองจากกลางแฟร์เวย์ลูกตกบนกรีนเช่นกัน แต่เยื้องมาทางขอบกรีนระยะไกลจากหลุมและเสียเปรียบ การ์เซีย มากกว่า

ลาร์ราซาบัล พัตต์ก่อนจากระยะประมาณ 22 หลาลูกมาหยุดข้างหลุม ขณะที่ การ์เซีย ต้องทำสามพัตต์กว่าลูกลงหลุม ก่อนที่ ลาร์ราซาบัล เคาะลูกลงหลุมไปแบบสบายคว้าแชมป์ได้สำเร็จเป็นยูโรเปียน ทัวร์ รายการที่ 2 ในการเล่นอาชีพต่อจากรายการเฟรนช์ โอเพน เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2008

"เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมเพิ่งเสียคุณปู่ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าของครอบครัวและผมขอมอบแชมป์นี้ให้แก่เขา" ลาร์ราซาบัล เปิดเผยหลังคว้าแชมป์ พร้อมกล่าวถึงการต่อสู้กับ การ์เซีย ว่า "การเอาชนะหนึ่งในฮีโรของผมเป็นความฝัน ผมรู้สึกยินดีมาก"

ขณะที่ การ์เซีย แม้ต้องรอคอยแชมป์แรกในรอบกว่า 2 ปีต่อไป แต่การคว้ารองแชมป์รายการนี้ก็ทำให้โปรวัย 31 ปีตีตั๋วเข้าไปเล่นดิ โอเพน เมเจอร์ที่สามของปี ณ ประเทศอังกฤษในเดือนหน้าจากการทำเงินรางวัลในยูโรเปียน ทัวร์

"การได้ไปเล่นดิ โอเพน เป็นหนึ่งในเป้าหมายของผม แน่นอนว่าผมต้องการชนะถ้าหากทำได้ แต่โชคไม่ดีที่ พาโบล เล่นได้ดีกว่าในวันนี้ ผมคิดว่าตอนเพลย์ออฟนั้นวิเศษมาก เราตีช็อตที่ดีหลายช็อตต่อกัน โดยรวมแล้วผมพอใจมาก แน่นอนว่าเราสามารถเรียนรู้สิ่งที่ดีจากเรื่องนี้และเดินหน้าต่อไป"

มาร์ก ฟอสเตอร์ โปรชาวอังกฤษผู้นำรอบที่แล้วหวดรอบสุดท้ายอีเวนพาร์ สกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์เท่าเดิม จบอันดับที่ 3 ร่วมกับ รีทีฟ กูเซน และ จอร์จส์ โคเอทซี สองโปรแอฟริกาใต้ รวมถึง สกอตต์ เจมีสัน จากสกอตแลนด์ และ ยูสท์ ลุยเทน จากฮอลแลนด์