xs
xsm
sm
md
lg

เรือย้ำแค้นสโต๊ค แซงปืนขึ้นที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เตเวซ ปั่นฟรีคิกสุดสวยเป็นประตูที่ 21 ของตัวเองในฤดูกาลนี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี จัดการย้ำแค้น สโต๊ค ซิตี คู่ชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ด้วยการไล่ถลุงเอาชนะอย่างไม่ยากเย็น 3-0 โดยที่ คาร์ลอส เตเวซ ศูนย์หน้าชาวอาร์เจนไตน์เหมาคนเดียว 2 ลูก พร้อมทั้งแซง อาร์เซนอล ขึ้นไปอยู่อันดับ 3 บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ส.2554
แมนเชสเตอร์ ซิตี 3-0 สโต๊ค ซิตี

รีแมตช์รอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี ทีมอันดับ 3 และแชมป์เอฟเอ คัพ ประจำฤดูกาล 2010-2011 เปิดสนามซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ ต้อนรับ สโต๊ค ซิตี ทีมอันดับ 9 ที่อกหักได้เพียงรองแชมป์ เกมนี้เจ้าถิ่นปรับผู้เล่นเล็กน้อย ปาโบล ซาบาเลตา, เจมส์ มิลเนอร์ กับ อดัม จอห์นสัน ได้โอกาสแทน อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, แกเร็ธ แบร์รี และ มาริโอ บาโลเตลลี พร้อมทั้งดัน ยายา ตูเร ไปเล่นกองหน้าร่วมกับ คาร์ลอส เตเวซ ส่วนทีมเยือนเปลี่ยนทัพเช่นกัน หลังจาก เจอร์เมน เพนแนนท์ กับ แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน ปีกสองข้างไม่สมบูรณ์ ด้านกองหน้าใช้ ยอห์น คาริว ล่าตาข่ายร่วมกับ โจนาธาน วอลเตอร์ส

เปิดฉากมาเป็น “เรือใบสีฟ้า” ที่ยังฉายหนังม้วนเดิมด้วยการบุกกดดันมากกว่าตั้งแต่ต้นจนกระทั่งมาพังประตูออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 14 เมื่อ เตเวซ ทำชิ่งไปมากับ เจมส์ มิลเนอร์ ก่อนโชว์ความคล่องแคล่วด้วยการโยกหลอก ไรอัน ชอว์ครอสส์ และ แอนดี วิลกินสัน จนหัวหมุนก่อนตะบันเต็มข้อส่งลูกหนีมือ โธมัส โซเรนเซน เสียบมุมไกลอย่างสวยงาม และเป็นประตูที่ 20 ในฤดูกาลนี้ของกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาด้วย

เกมยังคงอยู่ในการครอบครองของ แมนฯ ซิตี นาทีที่ 28 ยายา ตูเร ฉกบอลได้ในแดน “ช่างปั้นหม้อ” ก่อนจ่ายให้ มิลเนอร์ ถ่ายต่อมาที่ เตเวซ ดีดไซด์ก้อยด้วยข้างเท้าด้านนอก แต่ลูกเบาเกินไปเข้าซอง โซเรนเซน ขณะที่ เดอะ พ็อตเตอร์ พยายามหาทางเจาะเข้าทำแต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่ชัดเจน กระทั่งจบ 45 นาทีแรก เรือใบสีฟ้ายังคงนำอยู่ 1-0

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นหนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 53 เมื่อ ไมกาห์ ริชาร์ดส เติมขึ้นมาทางขวาแล้วถูก แดนนี คอลลินส์ สไลด์ทำฟาวล์ได้ฟรีคิก อดัม จอห์นสัน เปิดเข้ากลางให้ โจเลียน เลสคอตต์ ขึ้นโขกตัดหน้า โซเรนเซน ที่ออกมาไม่ถึงบอล ลูกเข้าไปปะทะตาข่าย จากนั้น ดาบิด ซิลบา ถูกถอดออกมาพักแล้วให้ เอดิน เชโก ดาวยิงชาวบอสเนียลงมาแทน

ถึงนาทีที่ 65 สกอร์บอร์ดก็ทำงานอีกครั้งเป็น 3-0 สำหรับเรือใบสีฟ้า เมื่อ เตเวซ จัดการปั่นฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา ลูกข้ามกำแพงก่อนเลี้ยวเข้าเสียบเสาแรกอย่างสวยงามชนิดที่ โซเรนเซน หมดสิทธิ์ป้องกัน ทำให้หัวหอกเลือดฟ้า-ขาวขึ้นนำดาวซัลโวร่วมกับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ 21 ประตูเท่ากันแล้ว

ช่วง 4 นาทีสุดท้าย เชโก ได้โอกาสลุ้นพังประตู แต่จังหวะโขกลูกเตะมุมส่งบอลข้ามคานออกไป จบเกม แมนฯ ซิตี คว้าชัยแบบสบายหายห่วง 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 68 คะแนนจาก 37 นัด แซงหน้า อาร์เซนอล ขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ได้สำเร็จ ส่วน สโต๊ค อยู่อันดับ 9 ตามเดิม มี 46 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี - โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส, แว็งซ็องต์ กอมปานี, โจเลียน เลสคอตต์, ปาโบล ซาบาเลตา, ไนเจล เดอ ยอง, อดัม จอห์นสัน, เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลบา, ยายา ตูเร, คาร์ลอส เตเวซ

สโต๊ค ซิตี - โธมัส โซเรนเซน, มาร์ค วิลสัน, แดนนี คอลลินส์, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แอนดี วิลกินสัน, เกล็น วีแลน, ซาลิฟ ดิเยา, ดีน ไวท์เฮด, แดนนี พิวจ์, โจนาธาน วอลเตอร์ส, ยอห์น คาริว
เลสคอตต์ โขกตัดหน้า โซเรนเซน เป็นสกอร์ 2-0 ของเรือใบสีฟ้า
เตเวซ โดดเด่นในเกมรุกของ แมนฯ ซิตี
อดัม จอห์นสัน ปีกเรือใบสีฟ้าดวลกับ ซาลิฟ ดิเยา ตัวตัดเกมช่างปั้นหม้อ
ไมกาห์ ริชาร์ดส แบ็กขวาแมนฯ ซิตี ขึ้นมาป่วน ไรอัน ชอว์ครอสส์ กัปตันทีมสโต๊ค
กำลังโหลดความคิดเห็น