เบอร์นี เอคเคิลสโตน เจ้าพ่อแห่งศึกรถสูตรหนึ่ง ที่ปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สโมสรควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ทีมฟุตบอลในลีกแชมเปียนชิป อังกฤษ ตกเป็นข่าวเตรียมขายหุ้นมูลค่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 5,000 ล้านบาท) หลังจบฤดูกาลนี้ แม้ว่าทีม "ทหารเสือราชินี" กำลังที่จะจ่อได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกพรีเมียร์ชิปก็ตามที
เจ้าของสิทธิประโยชน์แห่งวงการเอฟวัน ที่ร่วมหุ้นกับฟลาบิโอ บริอาตอเร อดีตทีมบอสของเรโนลต์ เข้าครอบครองทีมคิวพีอาร์ในเดือนกันยายนปี 2007 กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในถิ่นลอฟตัส โรด จำนวน 62 เปอร์เซ็นต์ หลังจากเจ้าตัวซื้อหุ้นมาจากบริอาตอเร เพื่อนสนิท เมื่อเดือนธันวาคมปี 2010 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีแม้ว่า ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ภายใต้การคุมทัพของนิล วอร์น็อค กำลังจ่อที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียรชิปในฤดูกาลหน้า แต่เอคเคิลสโตน ยืนยันล่าสุดผ่านสื่อเมืองผู้ดีว่ามีความเป็นไปได้ที่ตนเองจะตัดสินใจขายหุ้นหลังจบฤดูกาลนี้
โดยเจ้าพ่อเอฟวันเผยว่า "ถึงเวลานี้ด้วยสถานะของ ควีนสปาร์คฯที่เปลี่ยนไปมีโอกาสที่จะเลื่อนชั้นในฤดูกาลหน้า หากมีคนสนใจเข้ามาซื้อหุ้นผมเชื่อว่าจะทำกำไรให้อย่างมหาศาล และมูลค่าของหุ้นที่ผมคิดจะขายนั้นอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านปอนด์(ราว 5,000 ล้านบาท)"
อย่างไรก็ดีแม้จะแสดงความตั้งใจที่จะขายหุ้นของ "คิวพีอาร์" เอคเคิลสโตนยังคงรักษาสัญญาต่อ อดีตผู้ร่วมหุ้นอย่าง บริอาตอเร ที่จะเปิดโอกาสให้เป็นผู้เจรจารายแรกโดยกล่าวว่า "ทีผ่านมาผมได้พูดคุยกับ ฟลาบิโอ ถึงการขายหุ้นทีม "คิวพีอาร์" มาก่อน หากคิดจะขายหุ้นของทีมก็จะให้โอกาสเขาเป็นรายแรก ส่วนจะซื้อหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ฟลาบิโอ"
ขณะเดียวกันสื่อเมืองผู้ดีทั้งเดลีย์ เมล และเดอะ การ์เดียน มีการคาดการณ์การออกมาประกาศพร้อมขายทีมในครั้งนี้ อาจะเป็นการทำกำไรครั้งสำคัญของเอคเคิลสโตนหลังเจ้าตัวเข้าเทคโอเวอร์ควีนส์ปาร์คด้วยจำนวนเงินที่ไม่มีการเปิดเผยในปี 2007 และในเวลานี้คิวพีอาร์ กลายเป็นทีมที่มีมูลค่า รวมถึงกำลังจะได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง หลังหล่นชั้นไปเมื่อ 15 ปีก่อน
เจ้าของสิทธิประโยชน์แห่งวงการเอฟวัน ที่ร่วมหุ้นกับฟลาบิโอ บริอาตอเร อดีตทีมบอสของเรโนลต์ เข้าครอบครองทีมคิวพีอาร์ในเดือนกันยายนปี 2007 กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในถิ่นลอฟตัส โรด จำนวน 62 เปอร์เซ็นต์ หลังจากเจ้าตัวซื้อหุ้นมาจากบริอาตอเร เพื่อนสนิท เมื่อเดือนธันวาคมปี 2010 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีแม้ว่า ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ภายใต้การคุมทัพของนิล วอร์น็อค กำลังจ่อที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียรชิปในฤดูกาลหน้า แต่เอคเคิลสโตน ยืนยันล่าสุดผ่านสื่อเมืองผู้ดีว่ามีความเป็นไปได้ที่ตนเองจะตัดสินใจขายหุ้นหลังจบฤดูกาลนี้
โดยเจ้าพ่อเอฟวันเผยว่า "ถึงเวลานี้ด้วยสถานะของ ควีนสปาร์คฯที่เปลี่ยนไปมีโอกาสที่จะเลื่อนชั้นในฤดูกาลหน้า หากมีคนสนใจเข้ามาซื้อหุ้นผมเชื่อว่าจะทำกำไรให้อย่างมหาศาล และมูลค่าของหุ้นที่ผมคิดจะขายนั้นอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านปอนด์(ราว 5,000 ล้านบาท)"
อย่างไรก็ดีแม้จะแสดงความตั้งใจที่จะขายหุ้นของ "คิวพีอาร์" เอคเคิลสโตนยังคงรักษาสัญญาต่อ อดีตผู้ร่วมหุ้นอย่าง บริอาตอเร ที่จะเปิดโอกาสให้เป็นผู้เจรจารายแรกโดยกล่าวว่า "ทีผ่านมาผมได้พูดคุยกับ ฟลาบิโอ ถึงการขายหุ้นทีม "คิวพีอาร์" มาก่อน หากคิดจะขายหุ้นของทีมก็จะให้โอกาสเขาเป็นรายแรก ส่วนจะซื้อหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ฟลาบิโอ"
ขณะเดียวกันสื่อเมืองผู้ดีทั้งเดลีย์ เมล และเดอะ การ์เดียน มีการคาดการณ์การออกมาประกาศพร้อมขายทีมในครั้งนี้ อาจะเป็นการทำกำไรครั้งสำคัญของเอคเคิลสโตนหลังเจ้าตัวเข้าเทคโอเวอร์ควีนส์ปาร์คด้วยจำนวนเงินที่ไม่มีการเปิดเผยในปี 2007 และในเวลานี้คิวพีอาร์ กลายเป็นทีมที่มีมูลค่า รวมถึงกำลังจะได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง หลังหล่นชั้นไปเมื่อ 15 ปีก่อน