เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่าผลเสมอกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะยังคงกุมความได้เปรียบในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อยู่ ด้าน อลัน พาร์ดิว ผู้จัดการทีมสาลิกาดงยกนิ้วให้กับ ลี โปรเบิร์ต เชิ้ตดำที่ไม่เป่าให้ปิศาจแดงได้จุดโทษท้ายเกมว่าตัดสินถูกต้อง
ฟุตบอลลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เมื่อคืนวันอังคารที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา “สาลิกาดง” เปิดบ้านสู้กับ “ปิศาจแดง” ได้อย่างสนุกก่อนจบเกมด้วยสกอร์ 0-0 แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน ทำให้ เดอะ แม็กพายส์ มี 40 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 9 ส่วน เรด เดวิลส์ เก็บเพิ่มเป็น 70 คะแนนจาก 33 นัด รั้งจ่าฝูงต่อไป แต่ชวดทำแต้มหนี อาร์เซนอล เป็น 9 คะแนน โดยตอนนี้นำหน้าอยู่ 7 แต้มแต่แข่งมากกกว่า 1 นัด
อย่างไรก็ตาม “เฟอร์กี” ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมแบบไม่สะทกสะท้านว่า “เราอยู่ในตำแหน่งดีกว่าที่เราเคยอยู่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในขณะที่เหลือเกมอีก 5 นัด เรายังมีเกมสำคัญอีก 2 เกม นั่นคือการออกไปเยือน อาร์เซนอล (1 พ.ค.) และเล่นในบ้านพบ เชลซี (8 พ.ค.) รออยู่”
ขณะเดียวกัน โค้ชจอมเก๋าชาวสกอตแลนด์ยังพูดถึงจังหวะที่ “ชิชาริโต” ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ปะทะกับ แดนนี ซิมป์สัน แบ็กขวานิวคาสเซิลล้มลงในเขตโทษช่วงทดเวลาบาดเจ็บว่า “จังหวะนั้นควรเป็นจุดโทษ ผมคิดว่าคืนนี้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้ดี แต่มาเสียตรงที่ให้ใบเหลือง ฮาเวียร์ ถ้าไม่ให้จุดโทษก็ไม่น่าจะให้ใบเหลืองเขาเลย เพราะจังหวะนั้นมีการสัมผัสกันอย่างชัดเจน”
ส่วน อลัน พาร์ดิว ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิลกล่าวบ้างว่า “หัวใจผมแทบหยุดเต้น เพราะผมคิดว่าผู้ตัดสินจะเป่าจุดโทษในจังหวะนั้น ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักได้ประตูในช่วงนาทีสุดท้าย แต่คุณต้องขอบคุณผู้ตัดสินที่ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง เพราะถึงแม้ แดนนี จะยื่นขาออกไปแต่ก็ชักขากลับมาในขณะที่ เฮอร์นานเดซ พุ่งเข้าหา ในมุมมองของผมคิดว่านี่เป็นผลเสมอที่เหมาะสมแล้ว ส่วน 5 เกมที่เหลืออยู่ ผมเชื่อว่าเรามีลุ้นจบฤดูกาลใน 10 อันดับแรก”
ฟุตบอลลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เมื่อคืนวันอังคารที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา “สาลิกาดง” เปิดบ้านสู้กับ “ปิศาจแดง” ได้อย่างสนุกก่อนจบเกมด้วยสกอร์ 0-0 แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน ทำให้ เดอะ แม็กพายส์ มี 40 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 9 ส่วน เรด เดวิลส์ เก็บเพิ่มเป็น 70 คะแนนจาก 33 นัด รั้งจ่าฝูงต่อไป แต่ชวดทำแต้มหนี อาร์เซนอล เป็น 9 คะแนน โดยตอนนี้นำหน้าอยู่ 7 แต้มแต่แข่งมากกกว่า 1 นัด
อย่างไรก็ตาม “เฟอร์กี” ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมแบบไม่สะทกสะท้านว่า “เราอยู่ในตำแหน่งดีกว่าที่เราเคยอยู่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในขณะที่เหลือเกมอีก 5 นัด เรายังมีเกมสำคัญอีก 2 เกม นั่นคือการออกไปเยือน อาร์เซนอล (1 พ.ค.) และเล่นในบ้านพบ เชลซี (8 พ.ค.) รออยู่”
ขณะเดียวกัน โค้ชจอมเก๋าชาวสกอตแลนด์ยังพูดถึงจังหวะที่ “ชิชาริโต” ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ปะทะกับ แดนนี ซิมป์สัน แบ็กขวานิวคาสเซิลล้มลงในเขตโทษช่วงทดเวลาบาดเจ็บว่า “จังหวะนั้นควรเป็นจุดโทษ ผมคิดว่าคืนนี้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้ดี แต่มาเสียตรงที่ให้ใบเหลือง ฮาเวียร์ ถ้าไม่ให้จุดโทษก็ไม่น่าจะให้ใบเหลืองเขาเลย เพราะจังหวะนั้นมีการสัมผัสกันอย่างชัดเจน”
ส่วน อลัน พาร์ดิว ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิลกล่าวบ้างว่า “หัวใจผมแทบหยุดเต้น เพราะผมคิดว่าผู้ตัดสินจะเป่าจุดโทษในจังหวะนั้น ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักได้ประตูในช่วงนาทีสุดท้าย แต่คุณต้องขอบคุณผู้ตัดสินที่ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง เพราะถึงแม้ แดนนี จะยื่นขาออกไปแต่ก็ชักขากลับมาในขณะที่ เฮอร์นานเดซ พุ่งเข้าหา ในมุมมองของผมคิดว่านี่เป็นผลเสมอที่เหมาะสมแล้ว ส่วน 5 เกมที่เหลืออยู่ ผมเชื่อว่าเรามีลุ้นจบฤดูกาลใน 10 อันดับแรก”
