"ปืนใหญ่"อาร์เซนอล เก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จ หลังบุกไปเอาชนะ"เดอะ ซีไซเดอร์ส"แบล๊คพูล 3-1 ต่อลมหายในลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกเฮือก ในฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แบล๊คพูล 1-3 อาร์เซนอล
"เดอะ ซีไซเดอร์ส"แบล๊คพูล ทีมอันดับ 17 ของตาราง เปิดสนามบลูมฟิลด์ โรด รับการมาเยือนของ "ปืนใหญ่"อาร์เซนอล รองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก โดยหากลูกทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ ยังอยากลุ้นแชมป์ลีกปีนี้ต่อไป ต้องเก็บชัยชนะเกมนี้ให้ได้ เพื่อลดระยะห่างจากจ่าฝูงอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีแต้มมากกว่าทีมปืนใหญ่อยู่ 10 แต้ม แต่แข่งมากกว่าเดอะ กันเนอร์สหนึ่งนัด ในขณะที่แบล๊คพูลของเอียน ฮอลโลเวย์ มีแต้มเหนือโซนตกชั้นอยู่แค่ 1 คะแนน ซึ่งทัพเดอะ ซีไซเดอร์ส จะต้องเก็บแต้มสำคัญไว้ให้ได้ หากยังอยากเล่นในลีกสูงสุดต่อไป ปีหน้า
เริ่มเกมแบล๊คพูลไม่รอช้า เดินเกมบุกเข้าใส่ทีมเยือนทันทีแบบไม่ให้ตั้งตัว นาทีที่ 3 เจ้าถิ่นได้ลูกเตะมุม ชาร์ลี อดัม เปิดให้ เอียน อีแวทท์ โหม่งหน้ากรอบประตู แต่ออกหลังไป ส่วนอาร์เซนอลเริ่มสวน และได้โอกาสบ้าง จากอังเดร อาร์ชาวิน อาศัยจังหวะทีเผลอของคิงสัน และแคธคาร์ท ที่ออกมาตัดบอลจนเปิดพื้นที่หน้ากรอบแบบโล่งๆแต่อาร์ชาวิน วอลเลย์ บอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
เกมผ่านไป 15 นาที เจ้าบ้านครองบอลและทำเกมได้ดีกว่าทีมเยือนอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังเบิกสกอร์แรกของตัวเองไม่ได้ และในนาทีที่ 18 อาร์เซนอลก็ทำประตูขึ้นนำจนได้ จากเกมสวนกลับ ฟาน เพอร์ซีย์ วิ่งกระชากบอลจากซ้าย ก่อนเปิดตัดเข้ากลางให้ ดิยาบี้ วิ่งมาแปบอลแบบไม่มีคนประกบ ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0
อาร์เซนอล เพิ่มสกอร์เป็น 2-0 อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 20 จากจังหวะเอบูเอ ลากบอลเข้าหน้าเขตโทษ ทำชิ่งกับแจ๊ค วิลเชียร์ และวิ่งเข้าไปซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งตุงตาข่าย ชนิดที่แนวรับของแบล๊คพูลป้องกันไม่ได้ เดอะ กันเนอร์ส ขึ้นนำอีกครั้ง
ปืนใหญ่เดินเกมบุกต่อเนื่อง แต่เพิ่มสกอร์ไม่ได้ ได้แต่เฉี่ยวไปมา นาทีที่ 36 ฟาเบรกาส กระดกบอลข้ามแนวรับให้นาสรี วิ่งไปรับบอลแบบไม่ล้ำหน้า เข้าไปดวลกับคิงสัน แต่ดันยิงชนเสาออกหลังไป นาทีที่ 40 วิลเชียร์ เปิดบอลจากด้านซ้าย ให้นาสรี โหม่งเช็ดไปเข้าทางของฟาน เพอร์ซีย์ และยิงเข้าไป แต่ผู้กำกับเส้นยกธงเป็นลูกล้ำหน้า เป็นจังหวะในหลายๆครั้งที่อาร์เซนอลได้ลุ้นต่อเนื่องจากความผิดพลาดของแนวรับเจ้าบ้าน แต่ยิงเพิ่มไม่ได้ เล่นเอาอาร์แซน เวนเกอร์ ถึงกับตะโกนด่าลูกทีมข้างสนาม
ช่วงทดเจ็บ แบล๊คพูล มีโอกาสตีไข่แตก จากจังหวะบอลพัวพันหน้าประตูฝั่งอาร์เซนอล ลุค วาร์นีย์ จะวิ่งเข้ามาซ้ำ แต่ติดบล็อคของเลห์มันส์ และสกิลลาชี บอลเกือบเข้าประตู แต่ผู้เล่นปืนใหญ่เคลียร์ออกไป หมดครึ่งเวลาแรก แบล๊คพูล โดนอาร์เซนอล บุกมานำ
ครึ่งหลัง เจ้าบ้านเปิดเกมบุกทันที ชาร์ลี อดัม เปิดบอลริมเส้นจากซ้าย เข้าเท้าของลุค วาร์นีย์ แต่ยิงเบียดเสาแรกออกหลังไป และในที่สุดแบล๊คพูลก็ยิงตีไข่แตกจนได้ จากเกมสวนกลับ ดีเจ แคมป์เบลล์ รับบอลทะลุช่องจากแดนกลาง วิ่งไปดวลเดี่ยวกับเลห์มันส์ แล้วป้ายบอลออกขวาให้ แกรี เทย์เลอร์-เฟลทเชอร์ วิ่งเข้ามายิงเหน่งๆ เจ้าบ้านไล่มาเป็น 1-2
จากนี้ สถานการณ์กลับมาอยู่ที่เจ้าบ้านอีกครั้ง และเดินเกมบุกต่อเนื่องหวังตีเสมอ นาที 56 แกรี เฟลทเชอร์ เปิดบอลจากขวา เข้ากลางให้เจสัน พันเชียน สะบัดคอโหม่ง แต่ไม่โดน บอลหลุดออกข้างไป ส่วนอาร์เซนอล นาทีที่ 60 แก้เกมส่งเอาธีโอ วัลคอล์ต ลงสนามแทน อังเดร อาร์ชาวิน หวังเจาะเกมริมเส้นของแบล็คพูล ในช่วงครึ่งเวลาหลัง
เข้าสู่นาทีที่ 70 ลูกทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ มีโอกาสขึ้นมาทำประตูหลายครั้ง แต่แนวรับของแบล๊คพูลยังเหนียว ป้องกันไว้ได้ นาทีที่ 72 กลีชี กระชากบอลจากด้านซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลางให้ฟาน เพอร์ซีย์ โหม่งแต่ริชาร์ด คิงสัน กระโดดตัดบอลไว้ได้ทัน รอดพ้นการเสียประตูหวุดหวิด แต่นาทีที่ 75 ทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง ดียาบี เปิดบอลให้ ฟาเบรกาส โหม่งเช็ดให้ธีโอ วัลคอล์ต กระชากบอลจากขวาแบบโล่งๆ ก่อนจ่ายตัดเข้ากลางให้ฟาน เพอร์ซีย์ ซัดเข้าประตูไป อาร์เซนอลหนีห่างเป็น 3-1
แม้โดนยิงเพิ่ม แต่แบล๊คพูลยังไม่ยอมแพ้ นาที 78 กลีชี ครองบอลพลาด ทำให้แกรี เฟลทเชอร์ วิ่งมาฉกบอล ก่อนแทงทะลุช่องให้ดีเจ แคมป์เบลล์ ลากเข้าไปยิง แต่ไปติดตัวเลห์มันส์ ทำเอาเวนเกอร์หัวเสีย หลังแนวรับทำพลาดแบบง่ายๆ
เข้าสู่ 5 นาทีสุดท้าย สตีเฟน เครนีย์ เปิดบอลเข้ากลางให้เอียน เอแวทท์ โหม่งจ่อๆ แต่เข้ามือเยนส์ เลห์มันส์ ส่วนอาร์เซนอลก็ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบเกม แบล๊คพูล แพ้อาร์เซนอลคาถิ่น 1-3 ซึ่งผลดังกล่าว ทำให้ทีมปืนใหญ่เก็บแต้มเพิ่มเป็น 62 คะแนน ตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ 7 คะแนน และมีเกมเหลืออยู่ในมืออีก 1 นัด ส่วนแบล๊คพูลรั้งอันดับ 17 เหมือนเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แบล๊คพูล : ริชาร์ด คิงสัน,เอียน เอแวทท์,เคร็ก แคธคาร์ท,สตีเฟน เครนีย์,อเล็กซ์ บาปติส,ชาร์ลี อดัม,คีธ เซาทเธิร์น,ลุค วาร์นีย์,แกรี เทยเลอร์-เฟลทเชอร์,ดีเจ แคมป์เบลล์,เจสัน พันเชียน
อาร์เซนอล : เยนส์ เลห์มันส์,โลร็องต์ กอสเซียลนี,เซบาสเตียน สกิลลาชี,กาแอล กลีชี,เอ็มมานูเอล เอบูเอ้,อบู ดิยาบี,แจ็ค วิลเชียร์,อังเดร อาร์ชาวิน,ซามีร์ นาสรี,โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์,เชส ฟาเบรกาส
