รีล มาดริด อาศัยความได้เปรียบจำนวนผู้เล่นที่มากกว่า ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งเหลือ 10 คนตั้งแต่ 15 นาทีแรก ไล่ถลุง 4-0 กุมความได้เปรียบในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ส่วน ชาลเก 04 บุกไปทะลวง อินเตอร์ มิลาน แบบพลิกความคาดหมาย 5-2
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
รีล มาดริด (สเปน) 4-0 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ (อังกฤษ)
ที่สนามซานติอาโก เบร์นาบิว รีล มาดริด รองจ่าฝูงลา ลาลีกา สเปน เปิดบ้านต้อนรับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 5 จากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมนี้เจ้าถิ่นได้ คริสเตียโน โรนัลโด สตาร์ทีมชาติปรตุเกสหายเจ็บต้นขาด้านหลังกลับมาลงสนามได้ โดยประสานงานในแนวรุกร่วมกับ อังเคล ดิ มาเรีย และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ รวมถึง มาร์เซโล แบ็กซ้ายที่หายเจ็บซี่โครง ส่วนทีมเยือนนำทัพโดย แกเร็ธ เบล ปีกความเร็วสูงที่หายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาฟิตทันลงเล่น ส่วน ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท เป็นหน้าต่ำสนับสนุน ปีเตอร์ เคราช์ กองหน้าตัวเป้า
เริ่มเกมมาเป็น “ราชันชุดขาว” ที่เปิดเกมรุกเข้าใส่ทันที โดย โรนัลโด มีโอกาสสับไก 2 ครั้งแต่ไม่เข้าเป้า จากนั้น อังเคล ดิ มาเรีย ได้ซัดบนเส้น 18 หลาติดบล็อกเฉี่ยวเสาแรกออกหลัง และจากลูกเตะมุมต่อเนื่อง เมซุต โอซิล เปิดให้ อเดบายอร์ ขึ้นโหม่งบอลลงพื้นลอดขา ลูกา โมดริช ที่ยืนคุมเส้นทะลักเข้าประตูไปเป็น 1-0 สำหรับเจ้าถิ่นในนาทีที่ 4
3 นาทีต่อมา เคราช์ รับใบเหลืองแรกของเกมจากการเข้าเสียบ เซร์คิโอ รามอส ช้าไปหนึ่งก้าว กระทั่งนาทีที่ 15 ความขยันเกินเหตุของ เคราช์ ทำให้ “ไก่เดือยทอง” เหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อศูนย์หน้าก้านยาวไปสไลด์ มาร์เซโล ช้าหนึ่งจังหวะ ผู้ตัดสิน เฟลิกซ์ บรีช จึงควักใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ผ่านมานาทีที่ 22 มาร์เซโล แบ็กซ้ายรีล มาดริด จ่ายให้ โรนัลโด เข้าไปกระทุ้งในเขตโทษไม่ผ่านมือ เออเรลโญ โกเมส ทื่ยืนดักเสาแรก
จากนั้น สเปอร์ส อาศัย เบล ในการจู่โจม นาทีที่ 29 ปีกทีมชาติเวลส์ทุ่มไกลให้ ฟาน เดอร์ ฟาร์ท พักบอลลงในเขตโทษแล้วตวัดยิง แต่ถูก ริคาร์โด คาร์วัลโญ เข้ามาเบียดเล็กน้อย ลูกจึงเบาไปเข้ามือ อิเคร์ คาซิยาส เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรก ไมเคิล ดอว์สัน วางบอลยาวให้ เบล ควบเข้าไปซัดในเขตโทษส่งลูกเข้าข้างตาข่ายแบบได้เสียว
ถัดมานาทีที่ 32 ราชันชุดขาวน่าได้ประตูเพิ่มอย่างยิ่งจากจังหวะที่ มาร์เซโล เปิดบอลแฉลบ ชอร์ลูกา เลยมาถึง รามอส ก้มตัวโหม่งไปหน้าประตู อเดบายอร์ พยายามเข้าโขกจ่อๆ แต่ถูก วิลเลียม กัลลาส เบียดจากด้านหลัง ทำให้โหม่งไม่โดน ลูกเลยออกหลังไป กระทั่งจบครึ่งแรก เจ้าบ้านยังคงนำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ไก่เดือยทองส่ง เจอร์เมน เดโฟ ลงมาล่าตาข่ายแล้วถอด ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ออกมา แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น นาทีที่ 49 โรนัลโด มีโอกาสซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษส่งลูกกระทบตาข่ายด้านข้างแบบได้เสียว กระทั่งนาทีที่ 57 รีล มาดริด ทะยานหนีห่าง 2-0 จนได้จากการเล่นลูกเตะมุมสั้น ก่อนที่ มาร์เซโล จะหยอดให้ อเดบายอร์ โหม่งย้อนศรหนีมือ โกเมส เสียบมุมเข้าไป เป็นลูกที่ 2 ของศูนย์หน้าชาวโตโกในเกมนี้
ลูกกลางอากาศของ อเดบายอร์ ยังคงสร้างปัญหาให้กับ สเปอร์ส อย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 66 อดีตดาวเตะอาร์เซนอลเทกตัวโขกเหนือ กัลลาส ถูก โกเมส กระโดดปัดข้ามคานแบบฉิวเฉียด ก่อนที่ ดิ มาเรีย จะโยกหนี เบอนัวต์ อัสซู-เอกอตโต ตัดเข้าในแล้วซัดด้วยซ้ายข้างถนัดหนีมือ โกเมส เสียบสามเหลี่ยมเสาไกลอย่างเฉียบขาดให้สกอร์บอร์ดขยับเป็น 3-0
สถานการณ์ของทีมเยือนยังคงเลวร้ายไม่เลิก ชอร์ลูกา มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ แฮร์รี เรดแนปป์ ต้องส่ง เซบาสเตียน บาสซง ลงมาแทนแล้วโยก กัลลาส ไปเล่นแบ็กขวา แต่ก็โดนเจ้าถิ่นยิงฝังอย่างเด็ดขาดเป็น 4-0 โดย ริคาร์โด กาก้า ที่ลงมาแทน ดิ มาเรีย หยอดให้ โรนัลโด วอลเลย์ที่เสาไกลผ่านมือ โกเมส เสียบเสาแรกในนาทีที่ 87 จบเกม รีล มาดริด จึงมีโอกาสเข้ารอบรองชนะเลิศสดใส ส่วน สเปอร์ส ต้องดิ้นรนอย่างหนักหากหวังพลิกสถานการณ์เข้ารอบในสัปดาห์หน้า
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
รีล มาดริด - อิเคร์ คาซิยาส, เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, มาร์เซโล, ซามี เคดิรา, ชาบี อลอนโซ, เมซุต โอซิล, อังเคล ดิมาเรีย, คริสเตียโน โรนัลโด, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ - เออเรลโญ โกเมส, เวดราน ชอร์ลูกา, ไมเคิล ดอว์สัน, วิลเลียม กัลลาส, เบอนัวต์ อัสซู-เอกอตโต, เจอร์เมน จีนาส, ซานโดร, ลูกา โมดริช, แกเร็ธ เบล, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, ปีเตอร์ เคราช์
อีกคู่หนึ่ง อินเตอร์ มิลาน อันดับ 3 จากกัลโช เซเรีย อา อิตาลี แชมป์เก่าปีที่แล้ว เล่นในถิ่นจูเซ็ปเป เมอัซซาของตัวเองถูก ชาลเก 04 ทีมกลางตารางบุนเดสลีกา เยอรมนี บุกมาถลุงยับเยิน 5-2 ทั้งที่ เดยัน สตานโกวิช ยิงไกลเกือบครึ่งสนามในนาทีที่ 1 ขึ้นนำไปก่อน และ ดิเอโก มิลิโต แปจ่อๆ ให้นำครั้งที่ 2 ในนาทีที่ 33 แต่ก็โดน "ราชันสีน้ำเงิน" ดาหน้าซัด 5 ลูกจาก โจเอล มาติป ตีเสมอ 1-1 นาทีที่ 17 กอนซัลเวส เอดู ยิงเจ๊า 2-2 นาทีที่ 40 ตามด้วย ราอูล กอนซาเลซ นาทีที่ 53, อันเดรีย ราน็อคเคีย ทำเข้าประตูตัวเองนาทีที่ 57 และ กอนซัลเวส เอดู ปิดกล่องในนาทีที่ 75 โดยที่ คริสเตียน คิวู กองหลังงูใหญ่โดนใบเหลือง-แดงไล่ออกในนาทีที่ 62 ด้วย ทำให้ ชาลเก งานเบาในนัดที่สองที่จะกลับไปเล่นในบ้าน วันพุธหน้า
