ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน เฝ้าบ้านทะลวง สตุตการ์ท เอาชนะไปแบบสุดมัน 4-2 ทำแต้มตามหลัง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมนำของศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี เหลือ 10 แต้ม ส่วน ชาลเก 04 พลาดท่าบุกไปโดน โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค เชือด 2-1
ฟุตบอลลีกสูงสุดเมืองเบียร์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ทีมอันดับ 3 ลงเล่นในสนามไบ อารีนา ของตัวเองพบกับ สตุตการ์ท ทีมอันดับ 17 ที่กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้น เปิดฉากมาได้เพียง 6 นาที สเตฟาน คีสส์ลิง ก็ยิงมุมแคบให้ “ห้างขายยา” ขึ้นนำไปก่อน 1-0
จากนั้นนาทีที่ 16 มาร์ติน ฮาร์นิค รับบอลจาก ทามาส ไฮจ์นัล เข้าไปซัดตุงตาข่ายให้ “ม้าขาว” ตีเสมอเป็น 1-1 ทว่าก่อนหมดครึ่งแรกเพียง 4 นาที กอนซาโล คาสโตร ก็โขกจ่อๆ ให้ เลเวอร์คูเซน ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 แต่ ซดราฟโก คุซมาโนวิช ก็จัดการยิงไกลตีเสมอให้ทีมเยือนอีกครั้งเป็น 2-2 ในนาทีที่ 52
อย่างไรก็ตาม ห้างขายยามาเร่งเครื่องยิงเพิ่มอีก 2 ลูกจาก สเตฟาน ไรนาร์ทซ โหม่งลูกเตะมุมในนาทีที่ 81 ตามด้วย คีสส์ลิง เจ้าเก่าซัดในเขตโทษตุงตาข่ายช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 1 ทำให้ เลเวอร์คูเซน ชนะแบบตื่นเต้น 4-2 เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนน กลับมาอยู่อันดับ 2 อีกครั้ง ตามหลัง ดอร์ทมุนด์ เหลือ 10 แต้ม ส่วน สตุตการ์ท รั้งรองบ๊วยตามเดิม มีเพียง 19 คะแนน
อีกคู่หนึ่ง โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค เล่นในถิ่นโบรุสเซีย พาร์ค เฉือนชนะ ชาลเก 04 ไป 2-1 ทั้งที่ถูก “ราชันสีน้ำเงิน” ยิงนำก่อนจาก เปียร์ คลูเก ตั้งแต่นาทีที่ 2 ทว่า มาร์โค รอยส์ และ โมฮามาดู อิดริสซู ก็ช่วยกันซัดคนละลูกในนาทีที่ 12 และ 23 พลิกกลับมาเก็บ 3 แต้มเพิ่มเป็น 19 คะแนนเท่ากับ สตุตการ์ท แต่ยังคงจมบ๊วยเนื่องจากผลต่างประตูได้-เสียเป็นรอง ขณะที่ ชาลเก มี 29 คะแนนเท่าเดิม อยู่อันดับ 10 ต่อไป