เซอร์ มาร์ติน เบราจ์ตัน อดีตประธานสโมสรลิเวอร์พูล เปิดศึกกับ ทอม ฮิกส์ และ จอร์จ ยิลเลตต์ สองอดีตเจ้าของทีมด้วยการเปิดเผยว่าจะฟ้องทั้งคู่กลับในข้อหาหมิ่นประมาท หลังจาก 2 เศรษฐีชาวอเมริกันอ้างว่าถูกตราหน้าว่าเป็น “จอมขี้โกง”
ฮิกส์ และ ยิลเลตต์ พยายามยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 1,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 50,000 ล้านบาท) หลังจากถูกบีบให้ขายทีม “หงส์แดง” ให้กับกลุ่มทุนนิว อิงแลนด์ สปอร์ตส เวนเจอร์ (เอ็นอีเอสวี) ในมูลค่า 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 15,000 ล้านบาท) เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยมองว่าเป็นมูลค่าที่ต่ำเกินจริง ทำให้ขาดทุนราว 140 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7,000 ล้านบาท)
พร้อมกันนี้ คู่หูต่างไซส์จากเมืองลุงแซมยังอ้างถึงเหตุผลที่ออกมาฟ้องร้องก็เพราะถูกตราหน้าว่าเป็น “จอมขี้โกง” โดยเป้าหมายที่ต้องการเรียกค่าเสียหายประกอบด้วย ธนาคารรอยัล แบงค์ ออฟ สกอตแลนด์ (อาร์บีเอส) เจ้าหนี้ของทั้งคู่ที่เคยให้กู้ยืมเงินมาเทคโอเวอร์ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2007 รวมถึง 3 ผู้บริหารของหงส์แดงในช่วงที่มีการขายทีมอย่าง เซอร์ มาร์ติน เบราจ์ตัน, คริสเตียน เพิร์สโลว์ และ เอียน แอร์
อย่างไรก็ตาม เบราจ์ตัน ไม่ยอมถูกเล่นงานฝ่ายเดียวก่อนออกมาเปิดเผยกับ เดอะ ไทมส์ หนังสือพิมพ์เมืองผู้ดีว่า “ผมกำลังดำเนินการฟ้องกลับเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตัวผมเอง ไม่ได้ต้องการค่าเสียหายแต่อย่างใด พวกเขาหยิบยกข้อกล่าวหาที่ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกขี้โกงและมีการสมรู้ร่วมคิดกัน ซึ่งมันไม่มีมูลความจริงเลยแม้แต่น้อย และผมก็ไม่ได้เดือดร้อนกับข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น เพราะผมรู้ดีว่าผมทำทุกอย่างด้วยความถูกต้อง”
อนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จัสติซ ฟลอยด์ ผู้พิพากษาประจำศาลสูงของอังกฤษยืนยันว่า ฮิกส์ จะสามารถดำเนินคดีได้ก็ต่อเมื่อยื่นเรื่องฟ้องร้องในสหราชอาณาจักร โดยไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้กับคำร้องที่ยื่นฟ้องในสหรัฐอเมริกา และหากศาลของอังกฤษไม่อนุญาตให้มีการดำเนินคดีก็ไม่สามารถบังคับให้คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหายได้เช่นกัน
ฮิกส์ และ ยิลเลตต์ พยายามยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 1,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 50,000 ล้านบาท) หลังจากถูกบีบให้ขายทีม “หงส์แดง” ให้กับกลุ่มทุนนิว อิงแลนด์ สปอร์ตส เวนเจอร์ (เอ็นอีเอสวี) ในมูลค่า 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 15,000 ล้านบาท) เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยมองว่าเป็นมูลค่าที่ต่ำเกินจริง ทำให้ขาดทุนราว 140 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7,000 ล้านบาท)
พร้อมกันนี้ คู่หูต่างไซส์จากเมืองลุงแซมยังอ้างถึงเหตุผลที่ออกมาฟ้องร้องก็เพราะถูกตราหน้าว่าเป็น “จอมขี้โกง” โดยเป้าหมายที่ต้องการเรียกค่าเสียหายประกอบด้วย ธนาคารรอยัล แบงค์ ออฟ สกอตแลนด์ (อาร์บีเอส) เจ้าหนี้ของทั้งคู่ที่เคยให้กู้ยืมเงินมาเทคโอเวอร์ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2007 รวมถึง 3 ผู้บริหารของหงส์แดงในช่วงที่มีการขายทีมอย่าง เซอร์ มาร์ติน เบราจ์ตัน, คริสเตียน เพิร์สโลว์ และ เอียน แอร์
อย่างไรก็ตาม เบราจ์ตัน ไม่ยอมถูกเล่นงานฝ่ายเดียวก่อนออกมาเปิดเผยกับ เดอะ ไทมส์ หนังสือพิมพ์เมืองผู้ดีว่า “ผมกำลังดำเนินการฟ้องกลับเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตัวผมเอง ไม่ได้ต้องการค่าเสียหายแต่อย่างใด พวกเขาหยิบยกข้อกล่าวหาที่ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกขี้โกงและมีการสมรู้ร่วมคิดกัน ซึ่งมันไม่มีมูลความจริงเลยแม้แต่น้อย และผมก็ไม่ได้เดือดร้อนกับข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น เพราะผมรู้ดีว่าผมทำทุกอย่างด้วยความถูกต้อง”
อนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จัสติซ ฟลอยด์ ผู้พิพากษาประจำศาลสูงของอังกฤษยืนยันว่า ฮิกส์ จะสามารถดำเนินคดีได้ก็ต่อเมื่อยื่นเรื่องฟ้องร้องในสหราชอาณาจักร โดยไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้กับคำร้องที่ยื่นฟ้องในสหรัฐอเมริกา และหากศาลของอังกฤษไม่อนุญาตให้มีการดำเนินคดีก็ไม่สามารถบังคับให้คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหายได้เช่นกัน
