สมาชิก 196 เสียงเทใจให้ "เสี่ยจอห์นนี่" สุรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา อดีตนักยัดห่วงชุดเหรียญเงินอชก. ครั้งที่ 5 นั่งเก้าอี้นายกสมาคมคนใหม่ ตั้งเป้าซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดฯ ต้องคว้าเหรียญทองทั้งทีมชาย-หญิง ขณะที่เอเชี่ยนเกมส์ ขอเวลา 2-3 ปีจะไปสู่จุดนั้นให้จงได้
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า "แห่งประเทศไทย" เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2553 สมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา ที่โรงแรมอเล็กซานเดอร์ โดยมีสมาชิกสโมสรที่มีสิทธิ์ออกเสียงได้เข้าร่วมประทั้งสิ้น 203 คนจากทั้งหมด 254 คน นอกจากนี้ยังได้เชิญ นายอลงกต วรกี ผู้อำนวยการส่วนรักษาความสงบเรียบร้อย 2 กับ นายสุกิจ จงสถิตเสถียร หัวหน้างานกลุ่มมูลนิธิและสมาคมจากกรมการปกครอ กระทรวงมหาดไทย มาเฝ้าสังเกตุความเรียบร้อยด้วย
ที่ประชุมได้สรุปวาระสำคัญเรื่องการรับรองการประชุมใหฐ่วิสามัญประจำปี 2553 เพื่อชี้แจงการดำเนินงานของ กกท.ต่อสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2553 รวมไปถึงการแถลงกิจการที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ธันวาคม 2553 และรายงานทางการเงินตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม ปรากฏว่า มีรายรับ 3,906,300 บาท รายจ่าย 3,554,969 บาท มีรายได้มากกว่ารายจ่าย351,330 บาท เมื่อมารวมกับรายได้ค้างรับจากกกท.อีก 337,840 บาท สรุปมียอดเงินคงเหลือ 689,172 บาท
จากนั้นเข้าสู่วาระสำคัญการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ ที่ประชุมได้ให้ นายกิติรัตน์ เป็นประธานการเลือกตั้งชั่วคราว พร้อมกับให้สมาชิกเป็นผู้เสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาเป็นนายกสมาคมคนใหม่ ที่ประชุมได้เสนอชื่อ "เสี่ยจอห์นนี่" นายสุรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา แต่เพียงผู้เดียวเป็นนายกสมาคมยัดห่วงไทยคนใหม่ ก่อนจะขอมติในที่ประชุมยกมือให้การสนับสนุนพร้อมกับเขียนชื่อ นายสุรศักดิ์ และหมายเลขในใบการเลือกตั้งที่กำหนดให้ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า โปร่งใสยุติธรรมที่สุด ซึ่งไม่มีผู้ใดคัดค้าน ส่งผลให้ "เสี่ยจอห์นนี่" นายสุรศักดิ์ ได้เป็นนายกบาสเกตบอลคนใหม่สมใจ ภายใต้เสียงสนับสนุนทั้งสิ้น 196 เสียง งดออกเสียง 6 และไม่ออกเสียง 1
หลังการเลือกตั้ง นายสุรศักดิ์ เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกสโมสรให้นดำรงค์ตำแหน่งนี้ จากนี้ไปจะตั้งใจพัฒนาวงการบาสเกตบอลไทยให้ดีขึ้น ทุกอย่างต้องโปร่งใสสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปได้ ที่สำคัญสโมสรทุกคนต้องมีส่วนเกี่ยวข้องในความคิดเห็นเรื่องต่างๆ เพื่อสร้างยัดห่วงไทยให้กับมายิ่งใหญ่เช่นในอดีต ส่วนตัวเคยเป็นอดีตนักบาสเกตบอลทีมชาติไทยชุดที่คว้าเหรียญเงินเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่ไทย มีความรู้ดีว่า กีฬาชนิดนี้ต้องการอะไร หากทุกฝ่ายร่วมมือร่วมแรงใจไม่มองเรื่องประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้งก็น่าจะสร้างภาพลักษ์ที่ดีของกีฬาบาสเกตบอลกลับมาได้
ส่วนเป้าหมายสำคัยจากนี้ไปคือ การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ทีมบาสเกตบอลไทยทั้งทีมชายและทีมหญิงจะต้องคว้าเหรียญทองกลับมาให้จงได้ แม้ว่า หลายปีที่ผ่านมาเราประสบแต่ความล้มเหลว แต่ทุกวันนี้เรากำลังสร้างลีกในภูมิภาคอาเซี่ยน หรือ การแข่งขันบาสเกตบอลไทยแลนด์โอเพ่นมาถึง 3 ปีติดต่อกันแล้ว และนักกีฬาไทยก็คว้าแชมป์ได้ จึงเชื่อเหลือเกินว่า เป้าหมายไม่ไกลเกินเอื้อม ขณะที่โอกาสไปสู่กีฬาเอเชี่ยนเกมส์นั้น ขอเวลาอีก 2-3 ปีสร้างความแข็งแกร่งทั้งเรื่องประสบการณ์และหาโค้ชชั้นนำที่มีฝีมือดีจากทั่วโลกมาฟิตซ้อมให้เด็กไทยจากนั้นก็จะไปสู่มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่กว่า ด้านคณะกรรมการคนอื่นๆขอเวลา 7 วันจะแต่งตั้งได้เต็มรูป แบบส่วนเลขาธิการสมาคมนั้นต้องยกให้ นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ที่ทำงานร่วมกันมานานทำหน้าที่ตรงนี้
ขณะที่ "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธ์ จุลเกาม ผู้ว่า กกท.ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งของ นายสุเทพ เบ็ญจโภคี อดีตนายกสมาคมก่อนหน้านี้ว่า ทุกอย่างคงดำเนินตามขั้นตอนที่เราได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องนี้แล้ว เพราะถือว่า ฝ่าฝืนและเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งที่ไม่เป็นตามข้อปฏิบัตที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งทุกอย่างก็ว่ากันไปตามหลักฐานข้อเท็จจริง ล่าสุดเรายังได้ใบเสร็จรับเงินจากสมาชิกสปอร์ต จากจังนครราชสีมา ระบุวันที่ 15 มกราคม 2552 และ 29 มกราคม 2553 ของคณะกรรมการชุดเก่าให้เสียเงินค่าสมาชิกใบเสร็จละ 1,000 บาท ซึ่งขั้นตอนต่างๆเราจะต้องดำเนินการและให้ดูแลเรื่องให้ถึงที่สุด