xs
xsm
sm
md
lg

ดาการ์ 2011 / เด็กปั๊ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เส้นทางหฤโหดของ ดาการ์
คอลัมน์ ON TRACK / เด็กปั๊ม

สัปดาห์ที่แล้วสัญญากับท่านผู้อ่านเอาไว้ว่าพื้นที่ ON TRACK จะกลับมาสู่โลกของความเป็นจริง หลังหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของเกมตลอดช่วงหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเริ่มออกสตาร์ทศักราชใหม่ก็ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเหมือนทุกปี ที่จะโลกของมอเตอร์สปอร์ตจะเปิดฉากด้วยแรลลีหฤโหดรายการเก่าแก่อย่าง "ดาการ์" ที่ปีนี้ยังคงปักหลักพิสูจน์ความอึดบนทวีปอเมริกาใต้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

พูดถึงดาการ์ ผมเองจำได้แม่นว่าเริ่มได้ยินข่าวของการแข่งขันรายการนี้พร้อมกับชื่อของ พรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล อดีตนักขับสังกัดทีมมิตซูบิชิ (ค่ายรถเดียวในไทยที่ดันนักขับไทยไปโชว์ฟอร์มในดาการ์) ที่ไปสร้างชื่อตั้งแต่ยังเป็นการแข่งขันปารีส-ดาการ์ ก่อนที่จะมีมานะ พรศิริเชิด รับไม้ต่อในยุคหลัง แต่ก็ต้องบอกว่าน่าเสียดายครับที่ทีมโรงงานมิตซูบิชิของญี่ปุ่นตัดสินใจถอนทีมเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ไร้นักขับจากแดนสยามเข้าแข่งขันตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา

อย่างไรก็ดีความน่าสนใจของแรลลีหฤโหดที่ใช้เส้นทาง "อาร์เจนตินา-ชิลี" ก็ยังมีประเด็นให้ติดตามครับโดยเฉพาะในประเภทรถยนต์ ที่ปีนี้ดูจะเป็นการขับเคี่ยวกันเองของนักขับจากทีมโฟล์คสวาเกน อย่างคาร์ลอส แซงซ์ แชมป์เก่าชาวสเปน กับนาสเซอร์ อัล-อัตติยาห์ สิงห์ทะเลทรายตัวจริงจากกาตาร์ โดยมีสเตฟาน ปีเตอร์อองเซล ตำนานแชมป์ 9 สมัยจากบีเอ็มดับเบิลยูเป็นตัวสอดแทรก

โดยขณะที่ผมกำลังนั่งปั่นต้นฉบับอยู่นี้ "ดาการ์ 2011" ผ่านพ้นไปแล้วครึ่งทางจำนวน 7 จาก 13 สเตจ และในวันที่ 15 ม.ค.นี้ เราก็จะรู้กันแล้วว่านักขับคนใดและรถจากค่ายไหนจะเป็นจอมอึดตัวจริง ซึ่งต้องบอกว่า 3 ปีบนดินแดนละตินอเมริกา ผู้จัดดูจะเขี้ยวลากดินขึ้นเรื่อยๆ หลังปรับเปลี่ยนเส้นทางมาโดยตลอด และระยะทาง 9,618 กิโลเมตรในปีนี้ว่ากันว่าโหดที่สุดนับจากย้ายแข่งขันตั้งแต่ปี 2009 เลยทีเดียว

สำหรับสถิติในเวลานี้เฉพาะประเภทรถยนต์จากที่ออกสตาร์ทที่กรุงบัวโนสไอเรส ในอาร์เจนตินา 165 คัน มีรถแข่งต้องบ๊ายบายกลับบ้านไปแล้ว 48 คัน ทั้งที่ยังเหลือการแข่งขันอีกถึง 6 สเตจ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อของร็อบบี กอร์ดอน นักขับนาสคาร์คนดังที่ชื่นชอบการแข่งขันดาการ์เป็นชีวิตจิตใจรวมอยู่ด้วย โดยกอร์ดอนในรถแฮมเมอร์ ต้องออกจากแข่งขันตั้งแต่สเตจที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา

ถึงแม้เส้นทางจะทวีความโหดมากขึ้นแค่ไหน แต่ทีมงานโฟล์คสวาเกนก็ยังมั่นใจว่ารถแข่ง Race Touareg 3 ยังคงไร้เทียมทานในการขับบนทะเลทรายอันอ่อนนุ่ม งานนี้หากแซงซ์ไม่ขับรถตกเขาเหมือนในปี 2009 รวมถึงอัล-อัตติยาห์ ไม่โชคร้ายเพลาหัก โอกาสที่โฟล์คสวาเกนทำแฮตทริกคว้าแชมป์ดาการ์ 3 ปีติดต้องบอกว่าแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งจริงๆครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น