"อีกาพญายม" บัลติมอร์ เรฟเวนส์ อาศัยทีมรับสุดแกร่งบวกด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ โจ แฟล็กโก ช่วยกันบุกไปถลุง "หัวหน้าเผ่า" แคนซัส ซิตี ชีฟส์ 30-7 ในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เกมไวลด์การ์ดฝั่งเอเอฟซี (AFC) ช่วงเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2554
ที่แคนซัส : แม้เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 5 ของฝั่ง AFC แต่ด้วยฟอร์มการเล่นและสถิติในฤดูกาลปกติ (12-4) ที่เหนือกว่าทำให้ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ถูกยกให้เป็นต่อ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ อันดับ 3 (10-6) และลูกทีมของ จอห์น ฮาร์บอห์ ก็ประกาศศักดาทะลุสู่รอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ ไปเจอคู่ปรับร่วมกลุ่มเหนืออย่าง "คนเหล็ก" พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ต่อไปในสัปดาห์หน้า
ในเกมที่ ชีฟส์ ทำท่าจะมาดี จามาล ชาร์ลส รันนิงแบ็กความหวังวิ่งทัชดาวน์เจาะตรงกลาง 41 หลา ช่วยให้ทีมพลิกนำ 7-3 แต่ โจ แฟล็กโก มาขว้างสั้น 9 หลาให้ เรย์ ไรซ์ ยอดตัววิ่งรับได้แล้วก็เข้าเอ็นด์โซนไปช่วยให้ทีมเยือนกลับมานำ 10-7 ก่อนจบครึ่งแรก จากนั้นครึ่งหลังความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่าของ ชาร์ลส เสียสองฟัมเบิล ขณะที่ แมตต์ แคสเซล ขว้างเสียถึง 3 อินเทอร์เซปต์ ทำให้ เรฟเวนส์ ไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดมือ
บิลลี คันดิฟฟ์ ลงมาส่องฟิลด์โกลง่ายๆ ก่อนที่ แฟล็กโก ปาสกอร์ 4 หลาเข้ามือ อันควาน โบลดิน ปีกนอกตัวทีเด็ด แถม วิลลิส แม็คเกอี เปลี่ยนดาวน์ที่ 4 ด้วยการวิ่งทะลวงตรงกลา 25 หลา เป็นสกอร์ปิดกล่องให้ "อีกาพญายม" บินเข้าสู่รอบ 2 อีกครั้ง หลังจากเมื่อซีซันก่อนพวกเขาหักปากกาเซียนบุกไปถล่ม "นักรบกู้ชาติ" นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ มาแล้ว (แต่รอบสองก็บุกไปพ่าย อินเดียนาโปลิส โคลต์ส)
สำหรับสถิติของผู้เล่นที่น่าสนใจ แฟล็กโก ขว้างเข้าเป้า 25 จาก 34 ครั้ง ได้ระยะ 265 หลา 2 ทัชดาวน์ ไรซ์ วิ่งไป 57 หลา ท็อดด์ ฮีป ปีกในตัวเก่ง เรฟเวนส์ รับบอล 10 หน ได้ระยะ 108 หลา ขณะที่ทางฝั่งชีฟส์ แคสเซล เจอวันดับอย่างแท้จริง ขว้างเข้าเป้า 9 จาก 18 ครั้ง ระยะแค่ 70 หลา แถมเสียถึง 3 อินเทอร์เซปต์ ชาร์ลส ทะลวงไป 82 หลา จากการถือบอลวิ่ง 9 ครั้งก็จริง แต่ดันพลาดเสียไป 2 ฟัมเบิล
ที่แคนซัส : แม้เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 5 ของฝั่ง AFC แต่ด้วยฟอร์มการเล่นและสถิติในฤดูกาลปกติ (12-4) ที่เหนือกว่าทำให้ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ถูกยกให้เป็นต่อ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ อันดับ 3 (10-6) และลูกทีมของ จอห์น ฮาร์บอห์ ก็ประกาศศักดาทะลุสู่รอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ ไปเจอคู่ปรับร่วมกลุ่มเหนืออย่าง "คนเหล็ก" พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ต่อไปในสัปดาห์หน้า
ในเกมที่ ชีฟส์ ทำท่าจะมาดี จามาล ชาร์ลส รันนิงแบ็กความหวังวิ่งทัชดาวน์เจาะตรงกลาง 41 หลา ช่วยให้ทีมพลิกนำ 7-3 แต่ โจ แฟล็กโก มาขว้างสั้น 9 หลาให้ เรย์ ไรซ์ ยอดตัววิ่งรับได้แล้วก็เข้าเอ็นด์โซนไปช่วยให้ทีมเยือนกลับมานำ 10-7 ก่อนจบครึ่งแรก จากนั้นครึ่งหลังความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่าของ ชาร์ลส เสียสองฟัมเบิล ขณะที่ แมตต์ แคสเซล ขว้างเสียถึง 3 อินเทอร์เซปต์ ทำให้ เรฟเวนส์ ไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดมือ
บิลลี คันดิฟฟ์ ลงมาส่องฟิลด์โกลง่ายๆ ก่อนที่ แฟล็กโก ปาสกอร์ 4 หลาเข้ามือ อันควาน โบลดิน ปีกนอกตัวทีเด็ด แถม วิลลิส แม็คเกอี เปลี่ยนดาวน์ที่ 4 ด้วยการวิ่งทะลวงตรงกลา 25 หลา เป็นสกอร์ปิดกล่องให้ "อีกาพญายม" บินเข้าสู่รอบ 2 อีกครั้ง หลังจากเมื่อซีซันก่อนพวกเขาหักปากกาเซียนบุกไปถล่ม "นักรบกู้ชาติ" นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ มาแล้ว (แต่รอบสองก็บุกไปพ่าย อินเดียนาโปลิส โคลต์ส)
สำหรับสถิติของผู้เล่นที่น่าสนใจ แฟล็กโก ขว้างเข้าเป้า 25 จาก 34 ครั้ง ได้ระยะ 265 หลา 2 ทัชดาวน์ ไรซ์ วิ่งไป 57 หลา ท็อดด์ ฮีป ปีกในตัวเก่ง เรฟเวนส์ รับบอล 10 หน ได้ระยะ 108 หลา ขณะที่ทางฝั่งชีฟส์ แคสเซล เจอวันดับอย่างแท้จริง ขว้างเข้าเป้า 9 จาก 18 ครั้ง ระยะแค่ 70 หลา แถมเสียถึง 3 อินเทอร์เซปต์ ชาร์ลส ทะลวงไป 82 หลา จากการถือบอลวิ่ง 9 ครั้งก็จริง แต่ดันพลาดเสียไป 2 ฟัมเบิล
