ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด มีคำสั่งเบื้องต้นปรับ ศรีสะเกษ เอฟซี เป็นเงิน 1 หมื่นบาท โทษฐานที่แฟนบอล "กูปรีอันตราย" เฮโลกันลงไปในสนาม รวมถึงขว้างรองเท้าแตะใส่ สุเมธ สายแวว ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2553 ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง เป็นประธานการประชุมผู้ควบคุมการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทย พรีเมียร์ลีก 2010 และดิวิชัน 1 โดยประเด็นสำคัญคือ การที่มีแฟนบอล "กูปรีอันตราย" ปีนจากอัฒจันทร์วิ่งลงไปดีใจในสนามถึงสองครั้งสองครา หลังจากที่ วาลซี จูเนียร์ และ ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ซัดประตูตีเสมอ "กงจักรพิฆาต" ทหารบก 2-2 อีกทั้งยังมีแฟนบอลศรีสะเกษรายหนึ่งขว้างรองเท้าแตะลงไปยังบริเวณที่ สุเมธ สายแวว ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ยืนอยู่ เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ และยังมีกลุ่มกองเชียร์จุดพลุกันในสนาม ซึ่งถือว่าผิดกฎตามที่ไทยพรีเมียร์ลีกตั้งเอาไว้
ซึ่งจากการประชุม ดร.วิชิต ออกมาเผยว่าไทยพรีเมียร์ลีก ดำเนินการตัดสินลงโทษเบื้องต้นปรับเงิน 5 พันบาท กรณีที่แฟนบอลศรีสะเกษ วิ่งดีใจกันลงไปในสนามหลังทีมได้ประตูตีเสมอทั้งสองจังหวะ และก็ปรับเงินอีก 5 พันบาท จากการที่มีกองเชียร์รายหนึ่งขว้างรองเท้าแตะใส่ผู้ช่วยผู้ตัดสิน อย่างไรก็ตาม กรณีการจุดพลุไฟในสนามทางลีกไม่ถือโทษเอาผิด เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังที่จบการแข่งขันไปแล้ว ทั้งนี้ไทยพรีเมียร์ลีกเห็นว่านี่เป็นความผิดครั้งแรกจึงดำเนินการลงโทษสถานเบา อย่างไรก็ดี อาจมีการพิจารณาเพิ่มโทษตามดุลยพินิจของที่ประชุมต่อไป
นอกจากนี้ ดร.วิชิต เตรียมทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังสโมสรทหารบก เนื่องจากรั้วสนามกีฬากองทัพบกความสูงไม่ได้ระดับมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างน้อย 1.5 เมตร เป็นเหตุให้แฟนบอลสามารถปีนข้ามลงมาได้ และก็มีการเตือนเรื่องการจัดโซนกองเชียร์ทีมเยือนที่ไม่เหมาะสม เพราะต้องไม่ให้กองเชียร์ทีมเยือนอยู่ฝั่งอัฒจันทร์หลัก ต้องกำหนดให้ย้ายกองเชียร์ทีมเยือนไปอยู่ฝั่งสกอร์บอร์ดหลังประตู หรือไม่ก็ฝั่งตรงข้ามอัฒจันทร์หลัก
ส่วนกรณีของสโมสรอินทรี เพื่อนตำรวจ ทางไทยพรีเมียร์ลีกก็ได้ส่งจดหมายเตือนไป 3 เรื่องเช่นกัน ทั้งกรณีเสาประตูสูงเกินมาตรฐาน, ห้องพักนักกีฬาทีมเยือนไม่มีห้องน้ำในตัว ทำให้ต้องไปใช้ห้องน้ำรวมซึ่งไม่เหมาะสม รวมถึงพื้นสนามหญ้าไม่เรียบ และดินที่แข็งเกินไป
อีกทั้ง ดร.วิชิต สั่งปรับเงิน ราชนาวี ระยอง เบื้องต้นเป็นเงิน 5 พันบาท ฐานที่มีแฟนบอลขว้างขวดลงไปในสนามเกมพบกับ พัทยา ยูไนเต็ด ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สุดท้าย ดร.วิชิต เผยเรื่องสำคัญกรณี "ไฟสนาม" โดยไทยพรีเมียร์ลีก จะให้ทุกสโมสรดำเนินการเร่งปรับปรุงไฟสนามให้มีความสว่างได้เกณฑ์ 600 ลักซ์ ภายในเลกที่ 2 เพื่อดึงให้มีแฟนบอลเข้าสนามมากๆ เนื่องจากการลงเตะในเวลา 16.00 น. ทำให้แฟนบอลไม่ได้รับความสะดวกสำหรับผู้ที่นั่งชมกลางแจ้ง รวมถึงให้มีแสงสว่างเพียงพอต่อการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในช่วงหัวค่ำ ส่วนกรณีเรื่อง "ลีกสำรอง" จะให้ทุกสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีกลงนามในข้อตกลงเพื่อออกใบอนุญาตเข้าร่วมการแข่งขันเช่นเดียวกับทีมชุดใหญ่ บังคับให้ทุกทีมต้องมีทีมสำรองเพื่อแข่งขันในลีกสำรอง หลังจากที่ ดร.วิชิต เดินทางไปประชุมกับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ทางเอเอฟซีระบุภายในปี 2012 ทุกสโมสรต้องมีทีมสำรอง
เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2553 ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง เป็นประธานการประชุมผู้ควบคุมการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทย พรีเมียร์ลีก 2010 และดิวิชัน 1 โดยประเด็นสำคัญคือ การที่มีแฟนบอล "กูปรีอันตราย" ปีนจากอัฒจันทร์วิ่งลงไปดีใจในสนามถึงสองครั้งสองครา หลังจากที่ วาลซี จูเนียร์ และ ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ซัดประตูตีเสมอ "กงจักรพิฆาต" ทหารบก 2-2 อีกทั้งยังมีแฟนบอลศรีสะเกษรายหนึ่งขว้างรองเท้าแตะลงไปยังบริเวณที่ สุเมธ สายแวว ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ยืนอยู่ เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ และยังมีกลุ่มกองเชียร์จุดพลุกันในสนาม ซึ่งถือว่าผิดกฎตามที่ไทยพรีเมียร์ลีกตั้งเอาไว้
ซึ่งจากการประชุม ดร.วิชิต ออกมาเผยว่าไทยพรีเมียร์ลีก ดำเนินการตัดสินลงโทษเบื้องต้นปรับเงิน 5 พันบาท กรณีที่แฟนบอลศรีสะเกษ วิ่งดีใจกันลงไปในสนามหลังทีมได้ประตูตีเสมอทั้งสองจังหวะ และก็ปรับเงินอีก 5 พันบาท จากการที่มีกองเชียร์รายหนึ่งขว้างรองเท้าแตะใส่ผู้ช่วยผู้ตัดสิน อย่างไรก็ตาม กรณีการจุดพลุไฟในสนามทางลีกไม่ถือโทษเอาผิด เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังที่จบการแข่งขันไปแล้ว ทั้งนี้ไทยพรีเมียร์ลีกเห็นว่านี่เป็นความผิดครั้งแรกจึงดำเนินการลงโทษสถานเบา อย่างไรก็ดี อาจมีการพิจารณาเพิ่มโทษตามดุลยพินิจของที่ประชุมต่อไป
นอกจากนี้ ดร.วิชิต เตรียมทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังสโมสรทหารบก เนื่องจากรั้วสนามกีฬากองทัพบกความสูงไม่ได้ระดับมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างน้อย 1.5 เมตร เป็นเหตุให้แฟนบอลสามารถปีนข้ามลงมาได้ และก็มีการเตือนเรื่องการจัดโซนกองเชียร์ทีมเยือนที่ไม่เหมาะสม เพราะต้องไม่ให้กองเชียร์ทีมเยือนอยู่ฝั่งอัฒจันทร์หลัก ต้องกำหนดให้ย้ายกองเชียร์ทีมเยือนไปอยู่ฝั่งสกอร์บอร์ดหลังประตู หรือไม่ก็ฝั่งตรงข้ามอัฒจันทร์หลัก
ส่วนกรณีของสโมสรอินทรี เพื่อนตำรวจ ทางไทยพรีเมียร์ลีกก็ได้ส่งจดหมายเตือนไป 3 เรื่องเช่นกัน ทั้งกรณีเสาประตูสูงเกินมาตรฐาน, ห้องพักนักกีฬาทีมเยือนไม่มีห้องน้ำในตัว ทำให้ต้องไปใช้ห้องน้ำรวมซึ่งไม่เหมาะสม รวมถึงพื้นสนามหญ้าไม่เรียบ และดินที่แข็งเกินไป
อีกทั้ง ดร.วิชิต สั่งปรับเงิน ราชนาวี ระยอง เบื้องต้นเป็นเงิน 5 พันบาท ฐานที่มีแฟนบอลขว้างขวดลงไปในสนามเกมพบกับ พัทยา ยูไนเต็ด ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สุดท้าย ดร.วิชิต เผยเรื่องสำคัญกรณี "ไฟสนาม" โดยไทยพรีเมียร์ลีก จะให้ทุกสโมสรดำเนินการเร่งปรับปรุงไฟสนามให้มีความสว่างได้เกณฑ์ 600 ลักซ์ ภายในเลกที่ 2 เพื่อดึงให้มีแฟนบอลเข้าสนามมากๆ เนื่องจากการลงเตะในเวลา 16.00 น. ทำให้แฟนบอลไม่ได้รับความสะดวกสำหรับผู้ที่นั่งชมกลางแจ้ง รวมถึงให้มีแสงสว่างเพียงพอต่อการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในช่วงหัวค่ำ ส่วนกรณีเรื่อง "ลีกสำรอง" จะให้ทุกสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีกลงนามในข้อตกลงเพื่อออกใบอนุญาตเข้าร่วมการแข่งขันเช่นเดียวกับทีมชุดใหญ่ บังคับให้ทุกทีมต้องมีทีมสำรองเพื่อแข่งขันในลีกสำรอง หลังจากที่ ดร.วิชิต เดินทางไปประชุมกับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ทางเอเอฟซีระบุภายในปี 2012 ทุกสโมสรต้องมีทีมสำรอง