เดวิด มอยส์ กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ค้านกฎเพลย์ออฟแบบใหม่ที่ทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ กำลังพิจารณานำมาใช้เพื่อเฟ้นหาทีมสุดท้ายไปลุย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ชี้มีช่องโหว่มากมาย แม้จะเป็นระบบที่สร้างความตื่นตาตื่นใจได้อย่างแน่นอน จากการตีข่าวของ "เดอะ ซัน"
หลังจาก 4 ทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, อาร์เซนอล หรือว่า ลิเวอร์พูล ยึดพื้นที่เข้าไปเล่นในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ตลอด 5 จาก 6 ฤดูกาลหลังสุด มีเพียง เอฟเวอร์ตัน เพียงทีมเดียวเท่านั้นที่สอดแทรกเข้าไปเล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยใบใหญ่ของยุโรปได้เพียงฤดูกาลเดียวในปี 2005 แต่ก็ไม่ผ่านรอบคัดเลือก รอบสาม
เป็นเหตุผลที่สื่อเมืองผู้ดีพากันรายงานว่า พรีเมียร์ลีก จ้องที่จะเสนอแผนการนำเอาทีมอันดับ 4-7 มาเพลย์ออฟกัน เพื่อให้โอกาสสโมสรที่ไม่ใช่ "บิ๊กโฟร์" ได้ลุ้นโควตา แชมเปียนส์ลีกบ้าง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม มอยส์ กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับกฎนี้ เนื่องจากมีช่องโหว่และมีทั้งผลดีผลเสีย
มอยส์ กล่าวว่า "ถือเป็นแนวความคิดที่น่าตื่นเต้น แต่ถ้าหากคุณต้องลงเล่น 38 เกมในลีก ก็น่าจะต้องพอใจและสิ้นสุดแค่นั้น อีกทั้งถ้าหากคุณได้อันดับ 4 ก็คงจะคิดว่าทำไมต้องมาเพลย์ออฟอีก เพราะไม่สามารถการันตีอะไรได้เลย อีกทั้งยังมีเกมทีมชาติและทัวร์นาเมนต์รออยู่อีกในตอนปิดฤดูกาล"
"เกม เดอะแชมเปียนชิป ของ อังกฤษ ยอมรับระบบเพลย์ออฟเพื่อเลื่อนชั้น ถือเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นและเหมาะสม แต่ พรีเมียร์ชิป หมายถึงทีมอันดับ 7 อาจจะได้ไป แชมเปียนส์ ลีก เพื่อทำเงินและพลิกโฉมทีมจากหน้ามือเป็นหลังมือ อาจจะเป็นประโยชน์เฉพาะกับทีมที่ได้ไปเท่านั้น" นายใหญ่ประจำถิ่น กูดิสัน ปาร์ค เผย
สำหรับแนวความคิดดังกล่าวน่าจะได้รับการสนับสนุนจากสโมสรระดับกลางๆ ซึ่งถ้าหากมีเสียงสนับสนุนถึง 14 จากทั้งหมด 20 ทีมใน พรีเมียร์ลีก ก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะมีการนำเอาการเพลย์ออฟอันดับ 4-7 มาใช้ในการหาทีมเพียงหนึ่งเดียวที่จะได้สิทธิลำดับสุดท้ายไปลุย แชมเปียนส์ลีก กันต่อไป