เดิร์ก เคาท์ กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์เป็นฮีโร่ของ ลิเวอร์พูล ด้วยการโขกประตูสำคัญช่วงต้นครึ่งหลังพาทีมเฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน ชนิดใจหายใจคว่ำ 1-0 โดยที่มีผู้เล่นถูกตะเพิดข้างละ 1 รายด้วย
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553
ลิเวอร์พูล 1–0 เอฟเวอร์ตัน
ศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บีแมตช์ ครั้งที่ 213 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ต้อนรับ เอฟเวอร์ตัน เกมนี้เจ้าบ้านวาง สตีเวน เจอร์ราร์ด กับ ดาวิด เอ็นก็อก เป็นตัวความหวังในแนวรุก ส่วนทีมเยือนให้ แลนดอน โดโนแวน ลากเลื้อยริมเส้นโดยมี หลุยส์ ซาฮา เป็นหัวหอกตัวเป้า ซึ่งหลังจากเริ่มเล่นทั้งคู่ต่างเปิดเกมแลกเข้าหากัน รวมทั้งมีจังหวะปะทะหนักๆ หลายครั้ง
นาทีที่ 21 เดิร์ก เคาท์ ทำฟาวล์โดโนแวน เสียฟรีคิกหน้าเขตโทษ เลห์ตัน เบนส์ ปั่นบอลข้ามกำแพง แต่ โฆเซ เรนา ยังโดดปัดข้ามคานออกไปได้ 10 นาทีต่อมาเป็น เอ็นก็อก ที่รับลูกจาก เจอร์ราร์ด แล้วกดเรียดส่งลูกหลุดกรอบออกหลัง กระทั่งนาทีที่ 34 ลิเวอร์พูล มาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ โซติริส คีร์เกียกอส เข้าปะทะกับ มารูยาน เฟลไลนี ในจังหวะ 50-50 ก่อนที่ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน จะเลือกควักใบแดงไล่กองหลังกรีซโดยมองว่าพุ่งเข้าเสียบสองเท้า
จากนั้น เฟลไลนี ก็เจ็บข้อเท้าจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ มิเกล อาร์เตตา ถูกส่งลงสนามแทน ก่อนที่หงส์แดงจะมีลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะหวังผลของ เจอร์ราร์ด ในนาทีที่ 45 ลูกผ่านมือ ทิม ฮาวเวิร์ด ไปตกบนคานอย่างน่าเสียดาย ช่วงทดเจ็บ โดโนแวน โหม่งชงให้ ทิม เคฮิลล์ พุ่งตอร์ปิโดโขกเต็มศีรษะข้ามคานนิดเดียวเช่นกัน จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 55 กองเชียร์เจ้าถิ่นก็ได้เฮกันลั่น เมื่อ เจอร์ราร์ด เปิดลูกเตะมุมฝั่งซ้ายมาหน้าประตู เคาท์ ที่เบียดกับ ฟิล เนวิลล์ อยู่จัดการโหม่งบอลตัดหน้า ฮาวเวิร์ด เข้าไปตุงตาข่ายเป็นสกอร์นำ 1-0 ก่อนที่ ราฟาเอล เบนิเตซ จะแก้เกมด้วยการส่ง ไรอัน บาเบล ที่มีปัญหาบาดหมางกันในระยะหลังลงมาแทน เอ็นก็อก
ทอฟฟีสีน้ำเงินเข้าตาจนจึงส่ง ยาคูบู อเย็กเบนี กับ วิคเตอร์ อนิเชบี ลงมาเสริมแดนหน้าแทน ลีออน ออสแมน และ ซาฮา แต่ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น จากนั้นนาทีที่ 84 เกมทำท่าจะปะทุเดือดอีกครั้ง หลังจาก เจอร์ราร์ด พุ่งเข้ายัน สตีเวน พีนาร์ ที่ล้มลงไปกองกับพื้นจนเกือบมีเรื่อง ผู้ตัดสิน แอตกินสัน จึงชักใบเหลืองเตือน "สตีวีจี" และให้ อนิเชบี ที่ออกลูกฮึดฮัดด้วย
2 นาทีสุดท้าย ยาคูบู ได้โอกาสตวัดยิงส่งลูกพุ่งเข้าหากรอบ แต่ เรนา ยังเหินตัวปัดข้ามคานไปได้ จากนั้น พีนาร์ ก็ถูกใบเหลือง-แดงไล่ออกไปอีกคนหลังจากกระแทก เจอร์ราร์ด ทั้งที่จังหวะขาดไปแล้ว ก่อนจบ 90 นาทีด้วยชัยชนะของ ลิเวอร์พูล 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 44 คะแนน ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 4 แทน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ส่วน เอฟเวอร์ตัน มี 32 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 9
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฆเซ เรนา, เจมี คาร์ราเกอร์, โซติริส คีร์เกียกอส, ดาเนียล แอกเกอร์, เอมิเลียโน อินซัว, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ลูคัส เลวา, เดิร์ก เคาท์, มักซี โรดริเกซ, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ดาวิด เอ็นก็อก
เอฟเวอร์ตัน – ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟิล เนวิลล์, จอห์นนี ไฮติงกา, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์, ลีออน ออสแมน, ทิม เคฮิลล์, สตีเวน พีนาร์, แลนดอน โดโนแวน, มารูยาน เฟลไลนี, หลุยส์ ซาฮา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ลิเวอร์พูล ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (เดิร์ก เคาท์ 1-0 นาที 55)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส เสมอ ฟูแลม 0-0
เบิร์นลีย์ ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 (เดวิด นูเจนท์ 1-0 นาที 14), (ดาเนียล ฟ็อกซ์ 2-0 นาที 55), (อเราโย อิลาน 2-1นาที 81)
ฮัลล์ ซิตี ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-1 (โจซี อัลติดอร์ 1-0 นาที 31), (จอร์จ บัวเต็ง 2-0 นาที 54), (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 2-1 นาที 59)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ปอร์ทสมัธ 5-0 (เวย์น รูนีย์ 1-0 นาที 40), (อองโตนี ฟานเดน บอร์ 2-0 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 45), (ริชาร์ด ฮิวจ์ส 3-0 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 59), (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 4-0 นาที 62), (มาร์ค วิลสัน 5-0 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 69)
สโต๊ค ซิตี ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-0 (แดนนี ฮิกกินบอทแธม 1-0 นาที 8), (มามาดี ซิดิเบ 2-0 นาที 45), (แม็ทธิว เอเธอริงตัน 3-0 นาที 67)
ซันเดอร์แลนด์ เสมอ วีแกน แอธเลติก 1-1 (โมฮาเหม็ด ดิยาม 0-1 นาที 20), (เคนวีน โจนส์ 1-1 นาที 64)
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เสมอ แอสตัน วิลลา 0-0
